" กระเบื้องหลังคาตราเพชร " ฟุ้งปี 53 โกยรายได้แตะระดับ 3 พันล้านบาท เหตุกำลังการผลิตใหม่เพิ่มอีก 5 หมื่นตันต่อปี สร้างยอดขายเพิ่มอีก 300 ล้านบาทต่อปี และมาตรการภาครัฐรระตุ้นเศรษฐกิจเชื่อกระเบื้องคอนกรีตจะฟื้นตัวอย่างโดดเด่น ขณะปีนี้ผลงานดีเกินเป้าและต้นทุนลด ด้านโบรกฯ ประเมินกำไร DRT ไตรมาส 3 ปีนี้ยังดี กำไรไตรมาส 3ปีนี้ อยู่ในเกณฑ์ดี ชี้ยอดขายปี 52 และปี 53 โตต่อเนื่อง ปรับประมาณการและราคาเหมาะสมขึ้น
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ประกอบหลังคา " ตราเพชร" เปิดเผยว่าช่วง 9 เดือนแรกปี 52 การดำเนินงานของบริษัทฯ ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญยังคงมาจากความต้องการผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะต่างจังหวัดที่เติบโตสูง
" เท่าที่ประเมินขณะนี้ เราเชื่อว่ายอดขายจะสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจรวม เพราะผลิตภัณฑ์ของเรา ส่วนใหญ่จะขายไปยังต่างจังหวัด 80% ซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการและเติบโตสูง บวกกับการขยายตัวแทนจำหน่ายอีก 10% จากเดิมที่มีอยู่ 600 ราย โดยเฉพาะการเปิดศูนย์กระจายสินค้าแห่งแรกที่ขอนแก่นเมื่อปลายปีที่51 ทำยอดขายเฉลี่ย 10 ล้านบาทต่อเดือน ส่งผลให้ปีนี้ DRT เติบโตต่อเนื่อง " นายสาธิตกล่าว
ทั้งนี้ ความสำเร็จจากการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า ช่วยดันยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้น และทำให้ต้นทุนลดลง 5 % ที่สำคัญการผลิตสินค้าได้เต็มกำลังการผลิตมากขึ้น ช่วยเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้กว้างขึ้นด้วย และปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวเร็ว ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ทำให้กำลังซื้อเพิ่มต่อเนื่อง บวกกับบริษัทฯ ได้ทำตลาดเชิงรุกส่งผลให้ผลการดำเนินงานดีกว่าที่คาดไว้ แม้ว่าจะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น
สำหรับทิศทางธุรกิจปี 53 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ระดับ 3 พันบาท ซึ่งจะเป็นจุดสูงสุดใหม่ เนื่องจากมีปัจจัยบวกทั้งกำลังการผลิตใหม่ที่จะเพิ่มขึ้นอีก 50,000 ตันต่อปี ซึ่งจะสร้างยอดขายได้ราว 300 ล้านบาทต่อปี ประกอบกับการฟื้นตัวของภาคก่อสร้างจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และผลิตภัณฑ์กระเบื้องคอนกรีตจะฟื้นตัวโดดเด่น จากการขายงานโครงการบ้านจัดสรรได้มากขึ้น
ก่อนหน้านี้ บทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ชั้นนำหลายแห่ง อาทิเช่น บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กิมเอ็ง (ประเทศไทย) บล.ยูไนเต็ด บล.โกลเบล็ก และ บล.ซิกโก้ ระบุว่า ไตรมาสที่ 3/52 กำไรของ DRT จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากยอดขายและกำไรปีนี้และปีหน้าจะโตอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของ บล.กิมเอ็งนั้น ได้ปรับประมาณการอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเพิ่มขึ้น รวมทั้งปรับราคาที่เหมาะสมเพิ่มขึ้น
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ประกอบหลังคา " ตราเพชร" เปิดเผยว่าช่วง 9 เดือนแรกปี 52 การดำเนินงานของบริษัทฯ ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญยังคงมาจากความต้องการผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะต่างจังหวัดที่เติบโตสูง
" เท่าที่ประเมินขณะนี้ เราเชื่อว่ายอดขายจะสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจรวม เพราะผลิตภัณฑ์ของเรา ส่วนใหญ่จะขายไปยังต่างจังหวัด 80% ซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการและเติบโตสูง บวกกับการขยายตัวแทนจำหน่ายอีก 10% จากเดิมที่มีอยู่ 600 ราย โดยเฉพาะการเปิดศูนย์กระจายสินค้าแห่งแรกที่ขอนแก่นเมื่อปลายปีที่51 ทำยอดขายเฉลี่ย 10 ล้านบาทต่อเดือน ส่งผลให้ปีนี้ DRT เติบโตต่อเนื่อง " นายสาธิตกล่าว
ทั้งนี้ ความสำเร็จจากการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า ช่วยดันยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้น และทำให้ต้นทุนลดลง 5 % ที่สำคัญการผลิตสินค้าได้เต็มกำลังการผลิตมากขึ้น ช่วยเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้กว้างขึ้นด้วย และปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวเร็ว ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ทำให้กำลังซื้อเพิ่มต่อเนื่อง บวกกับบริษัทฯ ได้ทำตลาดเชิงรุกส่งผลให้ผลการดำเนินงานดีกว่าที่คาดไว้ แม้ว่าจะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น
สำหรับทิศทางธุรกิจปี 53 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ระดับ 3 พันบาท ซึ่งจะเป็นจุดสูงสุดใหม่ เนื่องจากมีปัจจัยบวกทั้งกำลังการผลิตใหม่ที่จะเพิ่มขึ้นอีก 50,000 ตันต่อปี ซึ่งจะสร้างยอดขายได้ราว 300 ล้านบาทต่อปี ประกอบกับการฟื้นตัวของภาคก่อสร้างจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และผลิตภัณฑ์กระเบื้องคอนกรีตจะฟื้นตัวโดดเด่น จากการขายงานโครงการบ้านจัดสรรได้มากขึ้น
ก่อนหน้านี้ บทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ชั้นนำหลายแห่ง อาทิเช่น บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กิมเอ็ง (ประเทศไทย) บล.ยูไนเต็ด บล.โกลเบล็ก และ บล.ซิกโก้ ระบุว่า ไตรมาสที่ 3/52 กำไรของ DRT จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากยอดขายและกำไรปีนี้และปีหน้าจะโตอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของ บล.กิมเอ็งนั้น ได้ปรับประมาณการอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเพิ่มขึ้น รวมทั้งปรับราคาที่เหมาะสมเพิ่มขึ้น