ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น กระแสที่มีการกล่าวถึงมากที่สุดนอกจากความตื่นเต้นในเรื่องของราคาทองที่ปรับตัวสูงขึ้นมาเป็นประวัติการณ์แล้ว คงหนีไม่พ้นเรื่องของโกลด์ฟิวเจอร์สขนาด 1 บาทที่มีหลายฝ่ายออกมาเสนอแนะความคิดเห็น บ้างก็เห็นด้วย บ้างก็ไม่เห็นด้วย ที่จะมีโกลด์ฟิวเจอร์สขนาด 1 บาทเกิดขึ้น
แต่ทั้งนี้ หากมีโกลด์ฟิวเจอร์สขนาด 1 บาทเกิดขึ้น นักลงทุนคงอยากจะรู้ว่าจะส่งผลอย่างไรต่อกองทุนรวมที่ลงทุนในทองคำกันบ้าง วันนี้จึงนำความคิดเห็นของผู้จัดการกองทุน รวมไปถึง โบรกเกอร์ทอง มาบอกกล่าวกัน
อิศรา พุฒตาลศรี ผู้จัดการกองทุนอาวุโส ฝ่ายจัดการกองทุนผสม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บุคคลผู้อยู่เบื้องหลังของกองทุนเปิด เคโกลด์ บอกว่า หากมีการซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สขนาด 1 บาท ก็คงจะมีผลกระทบต่อกองทุนทองคำบ้าง แต่มองว่าคงไม่เยอะมากนัก อาจจะมีนักลงทุนบางส่วนที่เข้าไปเกร็งกำไรในระยะสั้นในตลาดนี้มากขึ้น เพราะการลงทุนนั้น ค่อนข้างที่จะมีความเสี่ยงในการลงทุนสูงกว่าการลงทุนในกองทุนทองคำ อีกทั้งการลงทุนในตลาดฟิวเจอร์สนักลงทุนต้องคอยติดตามข่าวสารต่างๆอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในกองทุนทองคำนั้น เรามีผู้จัดการกองทุนเป็นผู้ดูแลในเรื่องของผลตอบแทนที่ได้รับให้อยู่ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ที่เข้ามาลงทุนกับกองทุนทองคำของเรานั้น มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายย่อย ซึ่งในส่วนนี้จะมองถึงการลงทุนหรือมองแนวโน้มในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้ามากกว่าการมองราคาวันต่อวัน
"การลงทุนในตลาดฟิวเจอร์สนั้น ค่อนข้างที่จะใช้เงินในการลงทุนน้อยกว่ากองทุนรวมดังนั้น นักลงทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นหากเกร็งกำไรช่วงสั้นๆถูก หรือเกร็งกำไรถูกทาง เมื่อซื้อไปแล้วตลาดเป็นช่วงขาขึ้น ผลกำไรที่ได้รับนั้นก็ค่อนข้างที่จะสูง แต่ในทางกลับกันหากตลาดเป็นช่วงขาลง นักลงทุนจะต้องนำเงินมาใส่เพิ่ม และหากนักลงทุนไม่มีเงินในส่วนนี้แล้วจะทำอย่างไร จึงถือเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม" อิศราบอก
สัญญา หาญพัฒนกิจพานิช ผู้ช่วยผู้อำนวยการทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก โบรกเกอร์ที่มีปริมาณการซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สสูงสุดอันดับ 1 ในตลาดอนุพันธ์ กล่าวว่า “การที่ชมรมเอฟไอคลับ มีแนวคิดที่จะนำโกลด์ฟิวเจอร์สขนาดเล็กลงมาซื้อขายนั้นถือว่าเป็นไอเดียที่ดีและน่าสนับสนุน เพราะด้วยขนาดสัญญา 50 บาท ในปัจจุบันนั้นมีมูลค่าสูงเกินกว่านักลงทุนหลายคนจะสามารถลงทุนได้แต่ขนาดควรจะลดเป็นเท่าไหร่นั้นคงต้องคุยกันละเอียดอีกที โดยส่วนตัวเชื่อว่าควรจะลดขนาดให้เหลือ 10 บาทต่อสัญญาก่อน แล้วในอนาคตจะปรับให้ลดเหลือ 5 บาท หรือ 1 บาทนั้นค่อยว่ากันอีกที
ทั้งนี้ หากมีโกลด์ฟิวเจอร์สขนาด 1 บาทเกิดขึ้นจริง ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อกองทุนรวมที่ลงทุนในทองคำได้ เพราะว่ายอดการลงทุนหรือจำนวนเงินที่ใช้ลงทุนนั้น มีความต่างกัน โดยกองทุนรวมทองคำนั้นส่วนมากมียอดการลงทุนขั้นต่ำอยู่ที่ 10,000 บาท ในการเข้าลงทุน แต่ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์สขนาด 1 บาท คนที่เข้าไปลงทุนจะใช้เงินขั้นต่ำในการลงทุนต่อ 1 สัญญาเพียง 1,400 บาทเท่านั้น
ซึ่้งหากนักลงทุนมีเงิน 10,000 บาท อาจจะเข้ามาลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์สขนาด 1 บาท จากนั้นนำเงินที่เหลือไปลงทุนในสินทรัพย์หรือกองทุนรวมอย่างอื่นเพื่อต่อยอดให้กับเงินเหล่านั้นได้ และการมีโกลด์ฟิวเจอร์สขนาด 1 บาทออกมานั้น ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกการลงทุนให้แก่นักลงทุนนรายย่อยมากกว่า โดยอาจจะทำให้นักลงทุนที่มีเงินทุนไม่มากได้เข้ามาร่วมลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์สเพิ่มขึ้น
ส่วนผลกระทบต่อบรรดาร้านค้าปลีกทองคำ คงไม่มีเท่าไหร่เพราะมองว่าเป็นลูกค้าคนละกลุ่มกัน หากมองในทางกลับกันกับเป็นข้อดีต่อบรรดาร้านค้าปลีกทองคำที่จะหาลูกค้าทองคำแท่งเพิ่มโดยผ่านธุรกิจโกลด์ฟิวเจอร์ส และก็จะทำให้นักลงทุนขนาดเล็กสามารถใช้ประโยชน์จากโกลด์ฟิวเจอร์สได้เช่นเดียวกับนักลงทุนรายใหญ่ๆ