“โอฬาร” แนะรัฐใช้ 3 แนวทาง กระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นได้เร็ว คุมค่าเงินบาทอ่อน เร่งปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอี-เบิกจ่ายงบประมาณ หากทำได้รวดเร็ว เชื่อ ศก.ไทยฟื้นตัวเป็นรูปตัว “ยู” ภายใน 12 เดือน แต่หากล่าช้า อาจลากยาวไปถึง 18 เดือน
นายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวปาฐกถาเรื่อง “ภาพรวมเศรษฐกิจมหภาคของประเทศไทยในปัจจุบัน” โดยสนับสนุนนโยบายใช้ค่าเงินบาทอ่อนของ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อเพิ่มรายได้ให้ภาคการส่งออก การท่องเที่ยวและเกษตร โดยเห็นว่าเงินบาทควรอ่อนค่าที่ระดับ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งไตรมาสแรกปีนี้ ธปท.สามารถดูแลให้เงินบาทอ่อนค่าประมาณ 35.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แต่กลับมาแข็งค่าไตรมาส 2 อยู่ที่ระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
นอกจากนี้ ยังเสนอให้รัฐบาลเร่งปล่อยสินเชื่อให้ธุรกิจเอสเอ็มอี ท่องเที่ยว ที่อยู่อาศัย อุปโภคบริโภค เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ การปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์หดตัวถึง 220,000 ล้านบาท และให้รัฐบาลเร่งการเบิกจ่ายและการใช้จ่ายงบประมาณโดยเร็ว รวมทั้งจะต้องไม่ขึ้นภาษี แต่จะต้องลดภาษีแทน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตัวโดยเร็ว
หากรัฐบาลทำตามข้อเสนอแนะทั้ง 3 เรื่องได้เร็ว นายโอฬาร เชื่อว่า จะทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวเป็นรูปตัวยู (U) กลับไปอยู่ระดับใกล้เคียงไตรมาส 3 ปี 2551 ซึ่งมีอัตราการขยายตัวประมาณร้อยละ 3.9 ภายในเวลา 12 เดือนจากนี้ แต่หากรัฐบาลดำเนินนโยบายล่าช้าจะต้องใช้เวลาฟื้นตัวถึง 18 เดือน ส่วนจีดีพีไตรมาส 4 ปีนี้เทียบกับปีที่ผ่านมาเป็นบวก เพราะจีดีพีไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ต่ำมากติดลบร้อยละ 4.3 เพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจอย่างหนัก