นายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวปาฐกถาเรื่อง ภาพรวมเศรษฐกิจมหภาคของประเทศไทยในปัจจุบัน โดยสนับสนุนนโยบายใช้ค่าเงินบาทอ่อนของ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อเพิ่มรายได้ให้ภาคการส่งออก การท่องเที่ยวและเกษตร โดยเห็นว่าเงินบาทควรอ่อนค่าที่ระดับ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งไตรมาสแรกปีนี้ ธปท.สามารถดูแลให้เงินบาทอ่อนค่าประมาณ 35.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แต่กลับมาแข็งค่าไตรมาส 2 อยู่ที่ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
นอกจากนี้ ยังเสนอให้รัฐบาลเร่งปล่อยสินเชื่อให้ธุรกิจเอสเอ็มอี ท่องเที่ยว ที่อยู่อาศัย อุปโภคบริโภค เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ การปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์หดตัวถึง 220,000 ล้านบาท และให้รัฐบาลเร่งการเบิกจ่ายและการใช้จ่ายงบประมาณโดยเร็ว รวมทั้งจะต้องไม่ขึ้นภาษี แต่จะต้องลดภาษีแทน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตัวโดยเร็ว หากรัฐบาลทำตามข้อเสนอแนะทั้ง 3 เรื่องได้เร็ว จะทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวเป็นรูปตัวยูกลับไปอยู่ระดับใกล้เคียงไตรมาส 3 ปี 2551 ซึ่งมีอัตราการขยายตัวประมาณร้อยละ 3.9 ภายในเวลา 12 เดือนจากนี้ หากรัฐบาลดำเนินนโยบายล่าช้าจะต้องใช้เวลาฟื้นตัวถึง 18 เดือน ส่วนจีดีพีไตรมาส 4 ปีนี้เทียบกับปีที่ผ่านมาเป็นบวก เพราะจีดีพีไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ต่ำมากติดลบร้อยละ 4.3 เพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจอย่างหนัก
นอกจากนี้ ยังเสนอให้รัฐบาลเร่งปล่อยสินเชื่อให้ธุรกิจเอสเอ็มอี ท่องเที่ยว ที่อยู่อาศัย อุปโภคบริโภค เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ การปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์หดตัวถึง 220,000 ล้านบาท และให้รัฐบาลเร่งการเบิกจ่ายและการใช้จ่ายงบประมาณโดยเร็ว รวมทั้งจะต้องไม่ขึ้นภาษี แต่จะต้องลดภาษีแทน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตัวโดยเร็ว หากรัฐบาลทำตามข้อเสนอแนะทั้ง 3 เรื่องได้เร็ว จะทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวเป็นรูปตัวยูกลับไปอยู่ระดับใกล้เคียงไตรมาส 3 ปี 2551 ซึ่งมีอัตราการขยายตัวประมาณร้อยละ 3.9 ภายในเวลา 12 เดือนจากนี้ หากรัฐบาลดำเนินนโยบายล่าช้าจะต้องใช้เวลาฟื้นตัวถึง 18 เดือน ส่วนจีดีพีไตรมาส 4 ปีนี้เทียบกับปีที่ผ่านมาเป็นบวก เพราะจีดีพีไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ต่ำมากติดลบร้อยละ 4.3 เพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจอย่างหนัก