อสังหาฯประสานเสียง ผลงานของรัฐบาลเข้าตากรรมการ มาตรการอสังหาฯยาดีพยุงตลาดทั้งระบบแทนการทรุดตัว นายกส.ธุรกิจบ้านจัดสรร ชี้ช่วยกระตุ้นยอดปล่อยสินเชื่อรายย่อยของธนาคารพาณิชย์ไตรมาสแรกพุ่ง 1.6 แสนล้าน แจงหากออกมาตรการเสริมอยากให้ครอบคลุมกลุ่มผู้บริโภคระดับกลาง-ล่างมากขึ้น ค่ายมั่นคงเคหะการฯ อ้อนรัฐขอต่ออายุมาตรการภาษีอสังหาฯสิ้นสุดปี 54
นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดในฐานนายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวถึงมาตรการอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลที่ส่งผลต่อการผลักดันตลาดในช่วงครึ่งปีแรกว่า มาตรการที่รัฐบาลประกาศใช้ในปัจจุบันถือว่าครอบคลุมตลาดอสังหาฯและสามารถช่วยผลัดดันตลาดให้ขยายตัวในระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา หรืออาจจะกล่าวได้ว่าขยายตัวเพิ่มจากปีก่อนหน้าเล็กน้อย แม้ว่ามาตรการหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะมีการประกาศล่าช้าทำให้เหลือเวลาในการใช้น้อยกว่ามาตรการภาษีการโอน ค่าธรรมเนียม และภาษีธุรกิจเฉพาะ
แต่อย่างไรก็ตามผลจากมาตรการภาษีดังกล่าวก็ส่งผลต่อตลาดอสังหาฯอย่างชัดเจน สังเกตได้จากยอดสินเชื่อรายย่อยในไตรมาสแรกที่ผ่านมา มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี51 โดยในไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมายอดการปล่อยสินเชื่อรายย่อยของสถาบันการเงินอยู่ที่ 130,000 ล้านบาท ในขณะที่ในปีนี้สถาบันการเงินมีการเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย แต่ยอดปล่อยสินเชื่อรายย่อยกลับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 160,000 ล้านบาท
“แม้ว่าแบงก์จะเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อแต่หลังจากที่มีการประกาศใช้มาตรการแล้วก็ช่วยให้อสังหาฯคึกคักขึ้น โดยที่แบงก์เองก็มีการแข่งขันการปล่อยสินเชื่อเพิ่มมากขึ้นทำให้ยอดสินเชื่อรายย่อยขยายตัวจากปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามาตรการอสังหาฯที่ออกมาช่วยผลักดันให้ขยายตัวในระดับที่น่าพอใจ ไม่หดตัวตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศ หลังจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลกที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งหากไม่มีการออกมาตรการอสังหาฯ เชื่อว่าตัวเลขสินเชื่อ และการขยายตัวของตลาดจะไม่กระเตื้องขนาดนี้ ”
นายอิสระ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่หากมีการเพิ่มมาตรการใหม่เข้ามาช่วยเหลือภาคธุรกิจอสังหาฯนั้น หากรัฐบาลจะผลักดันออกมาก็ควรจะเน้นการออกมาตรการที่ช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มมากขึ้น เนื่องจากมาตรการนำภาระค่าใช้จ่ายจากการผ่อนบ้านมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามาที่ออกมาให้ประโยชน์แก่กลุ่มผู้ที่มีรายได้40,000-50,000 บาทขึ้นไป แต่กลุ่มที่มีรายได้ระดับกลางและล่างยังไม่ได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าวจึงน่าจะมีมาตรการที่ครอบคลุมกลุ่มดังกล่าวมากขึ้น
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมานั้นรัฐบาลก็ได้มีการแก้ไขและปรับหลักเกณฑ์การพัฒนาบ้าน ของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ ) ใหม่ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการรายเล็กและรายย่อยสามารถพัฒนาซับพลายเข้าสู่ตลาดได้มากขึ้น โดยกลุ่มผุ้บริโภคระดับกลาง-ล่างก็จะได้ประโยชน์จากมาตรการในการซื้อบ้านเอื้ออาทรหรือบ้าน บีโอไอ ที่พัฒนาเข้าสู่ตลาดหลังจากนี้มากขึ้น
ด้านนายชูเกียรติ ตั้งมติธรรม ธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายการตลาด บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK กล่าวว่า มาตรการที่รัฐบาลออกมา สามารถพยุงสถาการณ์ตลาดทั้งระบบให้สามารถเดินต่อไปได้ ทั้งที่ควรจะได้รับผลกระทบจนหดตัวลง ทั้งนี้แม้ว่าในช่วงทีผ่านมาจะมีสถานการณ์ ที่เป็นปัจจัยลบเข้ามากระทบต่อภาพรวมตลาดบ้างแต่ก็ไม่ได้ส่งผลให้ตลาดหยดชะงัก เนื่องจากมีมาตรการเข้ามาช่วยเสริม ทำให้ตลาดยังทรงตัวได้
“แม้ช่วงที่ผ่านมาจะมีปัจจัยลบเข้ามากระทบบ้างแต่การออกมาตรการก็สามารถช่วยพยุงสถานการณ์ไว้ได้ ซึ่งในบ้างช่วงตลาดอาจจะชะลอตัวเพราะปัจจัยลบที่เข้ามา แต่เมื่อมีความเชื่อมั่นกลับเข้ามาก็สามารถทำให้การซื้อขายกลับมาได้”
ทั้งนี้ หลังจากรัฐบาลประกาศใช้มาตรการดังกล่าวส่งผลให้ในช่วงเดือน ก.พ.-ก.ค.ที่ผ่านมายอดขายของผู้ประกอบการอสังหาฯถือว่าดีมาก สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน แม้ว่าเมื่อเทียบกับฤดูกาลขาย ในภาวะปกติแล้วยอดขายอาจจะต่ำกว่ากันบ้าง แต่ก็ต่ำกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ส่วนมาตการณ์เสริมที่อยากให้รัฐบาลออกมาเพิ่มนั้น ปัจจุบันถือว่ามาตรการนี้ครอบคลุมมากแล้ว จึงไม่ต้องการมาตรการอะไรมากกว่าปัจจุบัน แต่อยากให้รัฐบาลมีการต่อมาตรการที่มีอยู่ออกไปอีกในปีหน้า เนื่องจาก ภาวะเศรษฐกิจในปีหน้าคาดว่าจะยังฟื้นตัวได้ไม่มากนัก แต่หากมีการยกเลิกมาตรการดังกล่าวไปจะทำให้ภาคอสังหาฯ หดตัวลงหลังเดือน มี.ค.53ได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อตลาดค่อนข้างมาก
นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดในฐานนายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวถึงมาตรการอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลที่ส่งผลต่อการผลักดันตลาดในช่วงครึ่งปีแรกว่า มาตรการที่รัฐบาลประกาศใช้ในปัจจุบันถือว่าครอบคลุมตลาดอสังหาฯและสามารถช่วยผลัดดันตลาดให้ขยายตัวในระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา หรืออาจจะกล่าวได้ว่าขยายตัวเพิ่มจากปีก่อนหน้าเล็กน้อย แม้ว่ามาตรการหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะมีการประกาศล่าช้าทำให้เหลือเวลาในการใช้น้อยกว่ามาตรการภาษีการโอน ค่าธรรมเนียม และภาษีธุรกิจเฉพาะ
แต่อย่างไรก็ตามผลจากมาตรการภาษีดังกล่าวก็ส่งผลต่อตลาดอสังหาฯอย่างชัดเจน สังเกตได้จากยอดสินเชื่อรายย่อยในไตรมาสแรกที่ผ่านมา มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี51 โดยในไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมายอดการปล่อยสินเชื่อรายย่อยของสถาบันการเงินอยู่ที่ 130,000 ล้านบาท ในขณะที่ในปีนี้สถาบันการเงินมีการเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย แต่ยอดปล่อยสินเชื่อรายย่อยกลับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 160,000 ล้านบาท
“แม้ว่าแบงก์จะเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อแต่หลังจากที่มีการประกาศใช้มาตรการแล้วก็ช่วยให้อสังหาฯคึกคักขึ้น โดยที่แบงก์เองก็มีการแข่งขันการปล่อยสินเชื่อเพิ่มมากขึ้นทำให้ยอดสินเชื่อรายย่อยขยายตัวจากปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามาตรการอสังหาฯที่ออกมาช่วยผลักดันให้ขยายตัวในระดับที่น่าพอใจ ไม่หดตัวตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศ หลังจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลกที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งหากไม่มีการออกมาตรการอสังหาฯ เชื่อว่าตัวเลขสินเชื่อ และการขยายตัวของตลาดจะไม่กระเตื้องขนาดนี้ ”
นายอิสระ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่หากมีการเพิ่มมาตรการใหม่เข้ามาช่วยเหลือภาคธุรกิจอสังหาฯนั้น หากรัฐบาลจะผลักดันออกมาก็ควรจะเน้นการออกมาตรการที่ช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มมากขึ้น เนื่องจากมาตรการนำภาระค่าใช้จ่ายจากการผ่อนบ้านมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามาที่ออกมาให้ประโยชน์แก่กลุ่มผู้ที่มีรายได้40,000-50,000 บาทขึ้นไป แต่กลุ่มที่มีรายได้ระดับกลางและล่างยังไม่ได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าวจึงน่าจะมีมาตรการที่ครอบคลุมกลุ่มดังกล่าวมากขึ้น
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมานั้นรัฐบาลก็ได้มีการแก้ไขและปรับหลักเกณฑ์การพัฒนาบ้าน ของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ ) ใหม่ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการรายเล็กและรายย่อยสามารถพัฒนาซับพลายเข้าสู่ตลาดได้มากขึ้น โดยกลุ่มผุ้บริโภคระดับกลาง-ล่างก็จะได้ประโยชน์จากมาตรการในการซื้อบ้านเอื้ออาทรหรือบ้าน บีโอไอ ที่พัฒนาเข้าสู่ตลาดหลังจากนี้มากขึ้น
ด้านนายชูเกียรติ ตั้งมติธรรม ธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายการตลาด บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK กล่าวว่า มาตรการที่รัฐบาลออกมา สามารถพยุงสถาการณ์ตลาดทั้งระบบให้สามารถเดินต่อไปได้ ทั้งที่ควรจะได้รับผลกระทบจนหดตัวลง ทั้งนี้แม้ว่าในช่วงทีผ่านมาจะมีสถานการณ์ ที่เป็นปัจจัยลบเข้ามากระทบต่อภาพรวมตลาดบ้างแต่ก็ไม่ได้ส่งผลให้ตลาดหยดชะงัก เนื่องจากมีมาตรการเข้ามาช่วยเสริม ทำให้ตลาดยังทรงตัวได้
“แม้ช่วงที่ผ่านมาจะมีปัจจัยลบเข้ามากระทบบ้างแต่การออกมาตรการก็สามารถช่วยพยุงสถานการณ์ไว้ได้ ซึ่งในบ้างช่วงตลาดอาจจะชะลอตัวเพราะปัจจัยลบที่เข้ามา แต่เมื่อมีความเชื่อมั่นกลับเข้ามาก็สามารถทำให้การซื้อขายกลับมาได้”
ทั้งนี้ หลังจากรัฐบาลประกาศใช้มาตรการดังกล่าวส่งผลให้ในช่วงเดือน ก.พ.-ก.ค.ที่ผ่านมายอดขายของผู้ประกอบการอสังหาฯถือว่าดีมาก สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน แม้ว่าเมื่อเทียบกับฤดูกาลขาย ในภาวะปกติแล้วยอดขายอาจจะต่ำกว่ากันบ้าง แต่ก็ต่ำกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ส่วนมาตการณ์เสริมที่อยากให้รัฐบาลออกมาเพิ่มนั้น ปัจจุบันถือว่ามาตรการนี้ครอบคลุมมากแล้ว จึงไม่ต้องการมาตรการอะไรมากกว่าปัจจุบัน แต่อยากให้รัฐบาลมีการต่อมาตรการที่มีอยู่ออกไปอีกในปีหน้า เนื่องจาก ภาวะเศรษฐกิจในปีหน้าคาดว่าจะยังฟื้นตัวได้ไม่มากนัก แต่หากมีการยกเลิกมาตรการดังกล่าวไปจะทำให้ภาคอสังหาฯ หดตัวลงหลังเดือน มี.ค.53ได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อตลาดค่อนข้างมาก