พอใจกันทุกฝ่าย “ประดิษฐ์” เล่นบทสยบศึก ธอส.สั่ง “นริศ-ขรรค์” ช่วยกันทำงานตามหน้าที่ นำเหตุการณ์ฉาวมาเป็นบทเรียน ยันเพิ่มทุนให้ 3 พันล้าน เพิ่มธุรกรรมสินเชื่อทะลุ 1 แสนล้าน “ขรรค์” โชว์ผลงานครึ่งปีปล่อยกู้ใหม่กว่า 4.6 หมื่นล้าน กำไรสุทธิ 2 พันล้าน
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า หลังจากรับฟังผลการดำเนินงานจากผู้บริหารธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) แล้วได้มอบนโยบายการดำเนินงานของ ธอส.ให้ร่วมแก้ไข ร่วมปรับปรุงสถาบันแห่งนี้ โดยเหตุการณ์ที่พนักงานธนาคารกระทำการทุจริตนั้น คิดว่า พนักงานทุกคนผู้บริหารทุกระดับ มีส่วนความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่อยากให้ทุกคนคิดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประสบการณ์ที่จะทำให้ ธอส.มีความแข็งแกร่งขึ้น
ซึ่งก่อนที่จะเข้ามากำกับดูแล ธอส.ธนาคารแห่งนี้เดินหน้าด้วยความมั่นคงในสายตาของพี่น้องประชาชนทั่วไป แต่จากวันนี้ไปสิ่งที่ ธอส.ต้องทำให้เกิดขึ้น คือ เอาปัญหาที่เกิดขึ้นมาเป็นประสบการณ์เรียนรู้ ธนาคารควรตรวจสอบและมีการเข้ามาดูให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องใครถูก ใครผิด ได้มีผลสรุปจากคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้ว ถือว่าจบแล้ว และได้ให้ นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานกรรมการบริหาร รับไปดำเนินการต่อแล้ว จากนี้ไปอยากให้มองไปข้างหน้าบริหารธนาคารให้เติบโตแข็งแรงเป็นเสาหลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ
“อยากให้กำลังใจคณะผู้บริหารที่ได้ร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรค แล้วนำปัญหานั้นมาเป็นประสบการณ์ขององค์กรทุกองค์กรมีปัญหา และทุกปัญหาที่เกิดขึ้นทุกคนต้องช่วยกันแก้ไข ถ้าเป็นพลังของทั้งองค์กรผมมั่นใจว่าเราจะแก้ปัญหาต่างๆ ไปได้ ผมมั่นใจในคณะกรรมการธนาคารทุกคน ผมมั่นใจในกรรมการผู้จัดการ มั่นใจในคณะผู้บริหาร ผมเชื่อมั่นว่า ถ้าเราคิดเช่นนี้ ธอส.จะผ่าพันอุปสรรคในช่วงวิกฤตของโลกของประเทศ และของสถาบันได้อย่างแน่นอน” นายประดิษฐ์ กล่าว
นายประดิษฐ์ กล่าวต่อว่า ค่อนข้างจะแน่นอนว่ากระทรวงการคลังจะเพิ่มทุนให้ ธอส.3 พันล้านบาท ซึ่งเหตุผลสำคัญที่ตัดสินใจเพิ่มทุนให้ เพราะเห็นว่า ธอส.เป็นสถาบันการเงินที่มีศักยภาพในการที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไปได้ และขอให้ ธอส. ปรับแผนเร่งปล่อยสินเชื่อในปีนี้ให้ได้ในระดับ 1 แสนล้านบาท ซึ่งคิดว่าจากผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ธอส.จะสามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ ขอให้เน้นเรื่องคุณภาพสินเชื่อ และการบริหารความเสี่ยง ตามมาตรฐานสากลในการดำเนินธุรกิจ
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธอส.กล่าวว่า หลังจากที่รับมอบนโยบายจาก รมช.ประดิษฐ์ แล้ว ได้เรียกประชุมผู้บริหารระดับตั้งแต่หัวหน้าส่วนขึ้นไปทั้งธนาคาร เพื่อถ่ายทอดนโยบายและกำลังใจที่ได้รับจาก รมช.คลัง อีกทั้งในการประชุมผู้จัดการสาขาทั่วประเทศในช่วงอาทิตย์แรกของเดือนสิงหาคมที่จังหวัดเชียงรายจะได้มีการทำแผนและกำหนดเป้าสินเชื่อใหม่เพื่อให้เป็นไปตามที่ได้รับนโยบาย และจากนี้ไปจะเสนอแผนการทำธุรกิจและแผนเพิ่มประสิทธิภาพของธนาคารในช่วง 5 เดือนหลังของปี 2552 ในการประชุมคณะกรรมการธนาคารเดือนสิงหาคม 2552
สำหรับผลการดำเนินงานของ ธอส.ในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2552 ที่มีการปล่อยสินเชื่อมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแล้ว 4.6 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่ 7.35 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 2 พันล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่ 3.4 พันล้านบาท
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า หลังจากรับฟังผลการดำเนินงานจากผู้บริหารธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) แล้วได้มอบนโยบายการดำเนินงานของ ธอส.ให้ร่วมแก้ไข ร่วมปรับปรุงสถาบันแห่งนี้ โดยเหตุการณ์ที่พนักงานธนาคารกระทำการทุจริตนั้น คิดว่า พนักงานทุกคนผู้บริหารทุกระดับ มีส่วนความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่อยากให้ทุกคนคิดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประสบการณ์ที่จะทำให้ ธอส.มีความแข็งแกร่งขึ้น
ซึ่งก่อนที่จะเข้ามากำกับดูแล ธอส.ธนาคารแห่งนี้เดินหน้าด้วยความมั่นคงในสายตาของพี่น้องประชาชนทั่วไป แต่จากวันนี้ไปสิ่งที่ ธอส.ต้องทำให้เกิดขึ้น คือ เอาปัญหาที่เกิดขึ้นมาเป็นประสบการณ์เรียนรู้ ธนาคารควรตรวจสอบและมีการเข้ามาดูให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องใครถูก ใครผิด ได้มีผลสรุปจากคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้ว ถือว่าจบแล้ว และได้ให้ นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานกรรมการบริหาร รับไปดำเนินการต่อแล้ว จากนี้ไปอยากให้มองไปข้างหน้าบริหารธนาคารให้เติบโตแข็งแรงเป็นเสาหลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ
“อยากให้กำลังใจคณะผู้บริหารที่ได้ร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรค แล้วนำปัญหานั้นมาเป็นประสบการณ์ขององค์กรทุกองค์กรมีปัญหา และทุกปัญหาที่เกิดขึ้นทุกคนต้องช่วยกันแก้ไข ถ้าเป็นพลังของทั้งองค์กรผมมั่นใจว่าเราจะแก้ปัญหาต่างๆ ไปได้ ผมมั่นใจในคณะกรรมการธนาคารทุกคน ผมมั่นใจในกรรมการผู้จัดการ มั่นใจในคณะผู้บริหาร ผมเชื่อมั่นว่า ถ้าเราคิดเช่นนี้ ธอส.จะผ่าพันอุปสรรคในช่วงวิกฤตของโลกของประเทศ และของสถาบันได้อย่างแน่นอน” นายประดิษฐ์ กล่าว
นายประดิษฐ์ กล่าวต่อว่า ค่อนข้างจะแน่นอนว่ากระทรวงการคลังจะเพิ่มทุนให้ ธอส.3 พันล้านบาท ซึ่งเหตุผลสำคัญที่ตัดสินใจเพิ่มทุนให้ เพราะเห็นว่า ธอส.เป็นสถาบันการเงินที่มีศักยภาพในการที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไปได้ และขอให้ ธอส. ปรับแผนเร่งปล่อยสินเชื่อในปีนี้ให้ได้ในระดับ 1 แสนล้านบาท ซึ่งคิดว่าจากผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ธอส.จะสามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ ขอให้เน้นเรื่องคุณภาพสินเชื่อ และการบริหารความเสี่ยง ตามมาตรฐานสากลในการดำเนินธุรกิจ
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธอส.กล่าวว่า หลังจากที่รับมอบนโยบายจาก รมช.ประดิษฐ์ แล้ว ได้เรียกประชุมผู้บริหารระดับตั้งแต่หัวหน้าส่วนขึ้นไปทั้งธนาคาร เพื่อถ่ายทอดนโยบายและกำลังใจที่ได้รับจาก รมช.คลัง อีกทั้งในการประชุมผู้จัดการสาขาทั่วประเทศในช่วงอาทิตย์แรกของเดือนสิงหาคมที่จังหวัดเชียงรายจะได้มีการทำแผนและกำหนดเป้าสินเชื่อใหม่เพื่อให้เป็นไปตามที่ได้รับนโยบาย และจากนี้ไปจะเสนอแผนการทำธุรกิจและแผนเพิ่มประสิทธิภาพของธนาคารในช่วง 5 เดือนหลังของปี 2552 ในการประชุมคณะกรรมการธนาคารเดือนสิงหาคม 2552
สำหรับผลการดำเนินงานของ ธอส.ในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2552 ที่มีการปล่อยสินเชื่อมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแล้ว 4.6 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่ 7.35 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 2 พันล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่ 3.4 พันล้านบาท