แบงก์อีจีเอฟ แนะลดสัดส่วนถือครองดอลลาร์ ชูกลุ่มประเทศ "เอเชีย-แฟซิฟิก" น่าจับตา หลังค่าเงินแข็งค่าทั้งภูมิภาค ระบุ "บอนด์เกาหลี" ยังเนื้อหอม เตือนระวังความเสี่ยงที่มาพร้อมผลตอบแทนสูง พร้อมชี้ช่องลุย "พันธบัตรรัฐบาล" ดูความแข็งแกร่งของประเทศ มากกว่าเบนช์มาร์ก กูรูการลงทุนมองปี 2012 เศรษฐกิจโลกฟื้น ระบุเอเชีย หัวจักรสำคัญ
นางสาวพาเมล่า ลิน EFG Private Bank Limited กล่าวในงานสัมมนา "แนวโน้มและโอกาสของการลงทุนตราสารทางการเงินต่างประเทศ" ซึ่งจัดขึ้นโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด ว่า จากแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้นักลงทุนที่ถือครองเงินดอลลาร์ส่วนใหญ่ ลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ ลงจากเดิมมากขึ้น แล้วหันไปลงทุนในสกุลเงินอื่นแทน ซึ่งการลงทุนในช่วงนี้ นักลงทุนจะต้องจับตามองการเติบโตของเศรษฐกิจประกอบด้วย ว่ามีแนวโน้มเป็นเช่นไร โดยอยากแนะนำให้นักลงทุนหันไปกระจายลงทุนในสกุลเงินต่างๆบ้าง เช่น นิวซีแลนด์ดอลลาร์ หรือออสเตรเลียดอลลาร์ และที่น่าจับตามองได้แก่สกุลเงินเอเชีย ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้ง การฟื้นตัวและแนวโน้มทางเศรษฐกิจของประเทศที่ถือครองค่าเงินเหล่านี้นั้นดีกว่าด้วย
ทั้งนี้ การที่ภาพรวมเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ส่งผลให้อัตราการเเลกเปลี่ยน มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะการลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ (เอฟไอเอฟ) หรือการลงทุนในประเทศ ที่ค่าเงินมีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยหากค่าเงินของประเทศใดประเทศหนึ่งอ่อนค่าหรือด้อยค่าลง จะทำให้สกุลเงินในประเทศนั้นๆหมดความหมายและหายไปจากโลก ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะส่งผลกระทบต่อประเทศนั้นๆเป็นอย่างมาก
"นักลงทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ นิยมที่จะฝากเงินในหลายๆสกุล เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการด้อยค่าของค่าเงิน โดยหากจะเลือกลงทุนในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเพียงสกุลเงินเดียวแล้ว ค่าเงินมีการอ่อนค่าลง จะทำให้ความเสี่ยงจากการซื้อดอลลาร์มากขึ้น เราจึงมองว่าค่าเงินดอลลาร์หลังจากนี้ จะอ่อนตัวลงไปอีก และทำให้ค่าเงินสกุลอื่นๆแข็งค่าขึ้น ซึ่งการอ่อนค่าของดอลลาร์จะทำให้นักลงทุนที่ถือครองอยู่ขายออกมา จนทำให้ค่าเงินมีการแข็งค่าขึ้นในช่วงระยะเวลาเพียงสั้นๆ "นางสาวพาเมล่า กล่าว
ทั้งนี้ การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลที่น่าสนใจนั้น พบว่าการลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ ยังให้ผลตอบแทนที่ดี แต่นักลงทุนจะต้องระมัดระวังความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นตามผลตอบแทนด้วย ขณะที่อินโดนีเซีย เป็นอีกประเทศที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าพันธบัตรไทย ที่ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 1-2 % แต่ที่ไม่มีการเข้าไปลงทุนนั้น เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงเรื่องการเมืองและความไม่สงบในประเทศ
นางสาวพาเมล่ากล่าวย้ำว่า การลงทุนในพันธบัตร นอกจากจะดูเบนช์มาร์กเป็นหลักแล้ว อยากให้นักลงทุนไปดูความแข็งแกร่งของประเทศที่จะลงทุนมากกว่า โดยเมื่อดูถึงผลตอบแทนของพันธบัตรของแต่ละประเทศจะพบว่า ผลตอบแทนของ การ์ต้า จะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเกาหลี ประเทศก็รวยกว่าด้วย แต่นักลงทุนยังไม่ให้ความสนใจเท่าเกาหลี โดยกองทุนของเรานั้น มีการถือพันธบัตรถึง 25 %ของพอร์ตการลงทุน ซึ่งกลุ่มประเทศที่น่าสนใจได้แก่ การ์ต้า สิงคโปร์ มาเลเซีย และเกาหลี เป็นประเทศที่ค่อนข้างจะรวย ผลตอบแทนที่ได้รับก็ค่อนข้างดี ขณะที่กลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ อีสเทิร์นยุโรป ที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจเยอะ เช่น โรมาเนีย
นอกจากนี้ การลงทุนในหุ้นกู้เอกชนถือว่ามีความน่าใจ เนื่องจากผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับนั้นค่อนข้างดี โดยความเสี่ยงในเรื่องของการผิดนัดชำระหนี้สำหรับการลงทุนในหุ้นกูนั้น พบว่ามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นและได้ปรับตัวลดลงมาแล้ว ซึ่งนักลงทุนต้องเลือกบริษัทที่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในเกณฑ์และผลตอบแทนที่ดี
นายณสุ จันทร์สม กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน อีเอฟจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมการลงทุนในช่วงนี้มีความน่าสนใจ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงปี 2012 ซึ่งที่ผ่านมาเศรษฐกิจเริ่มเห็นจุดต่ำสุด ทั้งนี้ ประเทศในแถบเอเชียได้ช่วยเหลือให้ภาพรวมเศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้น โดยการอัดฉีดเม็ดเงินเข้ากระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากเอเชียไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากวิกฤตเศรษฐกิจในครั้งนี้ ขณะที่ยุโรปเมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกา คาดว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่า เนื่องจากประสบกับปัญหาจากวิกฤตมากกว่า ทำให้เศรษฐกิจที่คาดว่าจะโตขึ้นนั้นเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป
นางสาวพาเมล่า ลิน EFG Private Bank Limited กล่าวในงานสัมมนา "แนวโน้มและโอกาสของการลงทุนตราสารทางการเงินต่างประเทศ" ซึ่งจัดขึ้นโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด ว่า จากแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้นักลงทุนที่ถือครองเงินดอลลาร์ส่วนใหญ่ ลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ ลงจากเดิมมากขึ้น แล้วหันไปลงทุนในสกุลเงินอื่นแทน ซึ่งการลงทุนในช่วงนี้ นักลงทุนจะต้องจับตามองการเติบโตของเศรษฐกิจประกอบด้วย ว่ามีแนวโน้มเป็นเช่นไร โดยอยากแนะนำให้นักลงทุนหันไปกระจายลงทุนในสกุลเงินต่างๆบ้าง เช่น นิวซีแลนด์ดอลลาร์ หรือออสเตรเลียดอลลาร์ และที่น่าจับตามองได้แก่สกุลเงินเอเชีย ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้ง การฟื้นตัวและแนวโน้มทางเศรษฐกิจของประเทศที่ถือครองค่าเงินเหล่านี้นั้นดีกว่าด้วย
ทั้งนี้ การที่ภาพรวมเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ส่งผลให้อัตราการเเลกเปลี่ยน มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะการลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ (เอฟไอเอฟ) หรือการลงทุนในประเทศ ที่ค่าเงินมีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยหากค่าเงินของประเทศใดประเทศหนึ่งอ่อนค่าหรือด้อยค่าลง จะทำให้สกุลเงินในประเทศนั้นๆหมดความหมายและหายไปจากโลก ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะส่งผลกระทบต่อประเทศนั้นๆเป็นอย่างมาก
"นักลงทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ นิยมที่จะฝากเงินในหลายๆสกุล เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการด้อยค่าของค่าเงิน โดยหากจะเลือกลงทุนในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเพียงสกุลเงินเดียวแล้ว ค่าเงินมีการอ่อนค่าลง จะทำให้ความเสี่ยงจากการซื้อดอลลาร์มากขึ้น เราจึงมองว่าค่าเงินดอลลาร์หลังจากนี้ จะอ่อนตัวลงไปอีก และทำให้ค่าเงินสกุลอื่นๆแข็งค่าขึ้น ซึ่งการอ่อนค่าของดอลลาร์จะทำให้นักลงทุนที่ถือครองอยู่ขายออกมา จนทำให้ค่าเงินมีการแข็งค่าขึ้นในช่วงระยะเวลาเพียงสั้นๆ "นางสาวพาเมล่า กล่าว
ทั้งนี้ การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลที่น่าสนใจนั้น พบว่าการลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ ยังให้ผลตอบแทนที่ดี แต่นักลงทุนจะต้องระมัดระวังความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นตามผลตอบแทนด้วย ขณะที่อินโดนีเซีย เป็นอีกประเทศที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าพันธบัตรไทย ที่ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 1-2 % แต่ที่ไม่มีการเข้าไปลงทุนนั้น เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงเรื่องการเมืองและความไม่สงบในประเทศ
นางสาวพาเมล่ากล่าวย้ำว่า การลงทุนในพันธบัตร นอกจากจะดูเบนช์มาร์กเป็นหลักแล้ว อยากให้นักลงทุนไปดูความแข็งแกร่งของประเทศที่จะลงทุนมากกว่า โดยเมื่อดูถึงผลตอบแทนของพันธบัตรของแต่ละประเทศจะพบว่า ผลตอบแทนของ การ์ต้า จะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเกาหลี ประเทศก็รวยกว่าด้วย แต่นักลงทุนยังไม่ให้ความสนใจเท่าเกาหลี โดยกองทุนของเรานั้น มีการถือพันธบัตรถึง 25 %ของพอร์ตการลงทุน ซึ่งกลุ่มประเทศที่น่าสนใจได้แก่ การ์ต้า สิงคโปร์ มาเลเซีย และเกาหลี เป็นประเทศที่ค่อนข้างจะรวย ผลตอบแทนที่ได้รับก็ค่อนข้างดี ขณะที่กลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ อีสเทิร์นยุโรป ที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจเยอะ เช่น โรมาเนีย
นอกจากนี้ การลงทุนในหุ้นกู้เอกชนถือว่ามีความน่าใจ เนื่องจากผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับนั้นค่อนข้างดี โดยความเสี่ยงในเรื่องของการผิดนัดชำระหนี้สำหรับการลงทุนในหุ้นกูนั้น พบว่ามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นและได้ปรับตัวลดลงมาแล้ว ซึ่งนักลงทุนต้องเลือกบริษัทที่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในเกณฑ์และผลตอบแทนที่ดี
นายณสุ จันทร์สม กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน อีเอฟจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมการลงทุนในช่วงนี้มีความน่าสนใจ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงปี 2012 ซึ่งที่ผ่านมาเศรษฐกิจเริ่มเห็นจุดต่ำสุด ทั้งนี้ ประเทศในแถบเอเชียได้ช่วยเหลือให้ภาพรวมเศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้น โดยการอัดฉีดเม็ดเงินเข้ากระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากเอเชียไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากวิกฤตเศรษฐกิจในครั้งนี้ ขณะที่ยุโรปเมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกา คาดว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่า เนื่องจากประสบกับปัญหาจากวิกฤตมากกว่า ทำให้เศรษฐกิจที่คาดว่าจะโตขึ้นนั้นเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป