เอเอฟพี - ราคาน้ำมันทะยานขึ้นไปเหนือ 71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้วเมื่อวันพุธ(10) ทำสถิติสูงสุดในรอบ 8 เดือน หลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯทรุดฮวบ ด้านวอลล์สตรีทร่วงพอประมาณจากความกังวลต่ออัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอาจกระทบต่อผู้บริโภค และการใช้จ่ายภาคธุรกิจ
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 1.32 ดอลลาร์ ปิดที่ 71.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งของการซื้อขายทะยานไปถึง 71.79 ดอลลาร์ สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2008 ขณะที่ เบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.58 ดอลลาร์ ปิดที่ 70.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (อีไอเอ) เปิดเผยเมื่อวันพุธ(10) ว่าคลังน้ำมันดิบสำรองสหรัฐฯ ลดลงถึง 4.4 ล้านบาร์เรล ในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 มิถุนายน ส่งสัญญาณว่ามีอุปสงค์ที่แข้มแข็งในชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ที่สุดของโลกแห่งนี้ ทั้งนี้ รายงานของอีไอเอมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าสต๊อกน้ำมันดิบจะลดลงเพียง 700,000 บาร์เรลเท่านั้น
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ(10) ร่วงลงแรงจากความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่อาจกระทบต่อผู้บริโภคและการใช้จ่ายทางธุรกิจ
การปรับลดของวอลล์สตีทยังมีขึ้นตามหลังการประมูลพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ที่จุดชนวนแรงเทขายพันธบัตรด้วยมูลค่า 19,000 ล้านบาท ทำให้เกรงว่าอาจมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย หรือกระตุ้นอัตราเงินเฟ้อ
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 24.04 จุด (0.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,739.02 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 3.28 จุด (0.35 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 939.15 จุด แนสแดก ลดลง 7.05 จุด (0.38 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,853.08 จุด