xs
xsm
sm
md
lg

ฮิลลารีจี้จีนอุดหนุนพันธบัตรต่อ ชี้ช่วยเมการอดมังกรได้ประโยชน์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประธานาธิบดี หู จิ่นเทา จับมือกับนางฮิลลารี คลินตัน ในกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2552 - เอเจนซี
เอเอฟพี - ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ในระหว่างการเดินทางเยือนประเทศจีน ได้กระตุ้นให้จีนซื้อพันธบัตรสหรัฐฯ ต่อ ระบุนี่จะเป็นการช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขับเคลื่อนต่อไป และเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากจีน ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนไม่พอใจที่คลินตันประกาศจะไม่ปล่อยให้ปัญหาสิทธิมนุษยชนหน่วงเหนี่ยวความร่วมมือกับจีนในการแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลก ภาวะโลกร้อนและความมั่นคง

ก่อนเดินทางออกจากปักกิ่งเมื่อบ่ายวันอาทิตย์ (22 ก.พ.) ฮิลลารี่ คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้จีนลงทุนในพันธบัตรสหรัฐฯ เพิ่ม โดยกล่าวว่า “เศรษฐกิจระหว่างจีนและสหรัฐฯ มีความเกี่ยวพันสอดคล้องกัน สหรัฐฯ จำเป็นต้องฉีดยาแรงกระตุ้นเศรษฐกิจ นั่นหมายความว่าเราต้องกู้เงินเพิ่ม และเมื่อเศรษฐกิจขับเคลื่อนก็จะช่วยให้จีนสามารถฟื้นการส่งออกมายังตลาด (สหรัฐฯ) ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่สุดของจีนได้อีกครั้ง”
ศิลปินชาวจีน เผิง เสี่ยวผิง กำลังอวดโฉมตุ๊กตาปั้นแป้งรูปฮิลลารี่ คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ในมือถือกังหันลมและพุทราเชื่อมซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของปักกิ่ง เพื่อสื่อถึงการมาเยือนเมืองหลวงมังกรของคลินตันเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา - เอเอฟพี
“มันคงไม่เป็นผลดีต่อจีนหากเราไม่สามารถผลักดันเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนไปได้อีกครั้ง ฉันแน่ใจว่ารัฐบาลจีนและธนาคารกลางจะดำเนินการตัดสินใจอย่างชาญฉลาดในการลงทุนพันธบัตรสหรัฐฯ ต่อไป” คลินตันกล่าว

ซึ่งหลังจากพบปะกับผู้นำระดับสูงแดนมังกรเมื่อวันเสาร์ (21 ก.พ.) คลินตันก็เคยให้สัมภาษณ์ว่า จีนยังคงเชื่อมั่นในพันธบัตรสหรัฐฯ และรัฐบาลวอชิงตันก็ยินดีอย่างยิ่งสำหรับการลงทุน ขณะที่หยาง เจี๋ยฉือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศจีนก็ระบุว่า จีนจะไม่ลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐอย่างฉับพลัน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดที่แน่ชัด

ทั้งนี้ ตามข้อมูลล่าสุดของวอชิงตันระบุว่า จีนเป็นประเทศผู้ถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ รายใหญ่สุดด้วยมูลค่าสูงถึง 696,200 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ขณะที่ญี่ปุ่นถืออยู่ 578,300 ล้านเหรียญสหรัฐ

นอกจากประเด็นข้างต้นแล้ว เมื่อวันเสาร์ (21 ก.พ.) คลินตันยังได้พบปะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนเกี่ยวกับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ มากกว่าจะเน้นเรื่องปัญหาสิทธิมนุษยชนดังเช่นในการพบปะครั้งก่อนๆ

โดยจีนและสหรัฐฯ ตกลงว่า ในการเจรจาหารือว่าด้วยเรื่องเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำนั้นจะขยายขอบข่ายครอบคลุมประเด็นความมั่นคงและประเด็นอื่นๆ ด้วย ซึ่งรายละเอียดของการหารือนั้นจะได้ข้อสรุปในการพบปะนอกรอบระหว่างประธานาธิบดีหู จิ่นเทา และประธานาธิบดี บารัค โอบามา ในการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศพัฒนาและกำลังพัฒนา 20 ประเทศ หรือ จี20 ที่กรุงลอนดอน ของอังกฤษ ในเดือนเมษายนนี้

ส่วนประเด็นสิทธิมนุษยชนที่คราวนี้ไม่ถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นหลัก เมื่อวันศุกร์ (20 ก.พ.) องค์กรนิโทษกรรมสากลและกลุ่มสนับสนุนทิเบตได้แสดงความไม่พอใจ หลังจากที่คลินตันประกาศว่าจะไม่ปล่อยให้ความกังวลด้านสิทธิมนุษยชนหน่วงเหนี่ยวความร่วมมือกับจีนในการแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลก ภาวะโลกร้อนและปัญหาด้านความมั่นคง ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอเคยบอกว่าสหรัฐฯ จะยังคงกดดันจีนในความกังวลที่มีมายาวนานของวอชิงตันต่อประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน รวมไปถึงการปกครองทิเบตด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น