บลูมเบิร์กโพลชี้ นักลงทุนทั่วโลก 75% สนับสนุน "เบอร์นันกี" นั่งเก้าอี้ ปธ.เฟดอีกสมัย พร้อมเชื่อมั่น ศก.โลกพ้นวิกฤต ขณะที่อันดับความนิยมประธานธนาคารกลางยุโรป อังกฤษ และจีน เป็นอันดับรองลงมา
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก เผยผลสำรวจนักลงทุนทั่วโลกพอใจการทำงานของนายเบน เบอร์นันกี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการต่อสู้กับวิกฤตการเงินครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ยุคเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) นอกจากนี้ พวกเขายังสนับสนุนให้เบอร์นันกีดำรงตำแหน่งประธานเฟดต่ออีกสมัย ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ นักลงทุน 61% จากผลสำรวจที่จัดทำขึ้นในระหว่างวันที่ 14-17 กรกฎาคม 2552 ระบุว่า เศรษฐกิจโลกเริ่มมีเสถียรภาพหรือฟื้นตัวดีขึ้น และเกือบ 75% ต่างแสดงท่าทีขานรับการทำงานของประธานเฟดคนปัจจุบันพร้อมทั้งชี้ว่า นายเบอร์นันกี สมควรดำรงตำแหน่งประธานเฟดต่อไปอีก 4 ปี
นายวอลเลซ ลิน นักวิเคราะห์จากยูโร แอซเซท เมเนจเมนท์ในฮ่องกงกล่าวว่า นายเบอร์นันกี สามารถทำหน้าที่ประธานเฟดได้ดีที่สุด ขณะที่นักลงทุนรายอื่นๆ ที่ทำการสำรวจได้จัดอันดับความนิยมโดยให้เบอร์นันกี รั้งอันดับหนึ่งนำหน้าประธานธนาคารกลางจากประเทศอื่นๆ โดยมีนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป ตามหลังมาเป็นอันดับ 2 ต่อด้วยนายเมอร์วิน คิง ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ รั้งอันดับ 3 และอันดับ 4 เป็นของนายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน
การแสดงความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้ช่วยเสริมสร้างบทบาทการทำงานของเบอร์นันกีให้โดดเด่นมากขึ้น ในยามที่เขาเผชิญกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสภาคองเกรสเรื่องการใช้อำนาจหน้าที่เกินขอบเขตในการช่วยเหลือสถาบันการเงินที่ประสบปัญหาจากภาวะวิกฤต
อย่างไรก็ตาม นายมาร์ติน เฟลดสเตน นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดแสดงความเห็นชื่นชอบการทำงานของเบอร์นันกี พร้อมทั้งเสนอให้เขาดำรงตำแหน่งประธานเฟดต่ออีกหนึ่งสมัย
ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ก็กล่าวชื่นชมการทำงานของเบอร์นันกี ในฐานะประธานเฟดเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินมาตรการรับมือกับวิกฤตสินเชื่อด้วยการปรับลดดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ระดับ 0-0.25% ในปัจจุบัน และขยายวงเงินสินเชื่อในระบบเศรษฐกิจไป 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปีที่ผ่านมา