เอเจนซี/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันแตะระดับ 65 ดอลลาร์ สูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อวันอังคาร(21) จากรายงานผลประกอบการอันสดใสของบริษัทต่างๆช่วยเติมความหวังต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิตที่อาจช่วยกอบกู้อุปสงค์พลังงาน ขณะที่วอลล์สตรีทขยับเล็กน้อย หลังประธานเฟดแถลงภาวะเศรษฐกิจรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรส
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 74 เซ็นต์ ปิดที่ 64.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งของการซื้อขายทะยานขึ้นไปถึง 65.53 ดอลลาร์ สูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ขณะที่เบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 43 เซ็นต์ ปิดที่ 66.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีดตัวมีขึ้นหลังจากบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ ในจำนวนนั้นรวมไปถึงแคเทอร์พิลลาร์ อิงค์และเมอร์ค แอนด์ โค รายงานผลกระกอบการในช่วงไตรมาสสองแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมาย นับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจถือเป็นลางดีสำหรับการบริโภคพลังงานโลกที่ดำดิ่งเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 25 ปี ภายใต้แรงฉุดของภาวะถดถอย
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดในแดนบวกเล็กน้อยเมื่อวันอังคาร (21) โดยได้ปัจจัยหนุนจากรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆและความเห็นอย่างระมัดระวังของประธานธนาคารกลางมะกัน
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 67.79 จุด (0.77 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,914.94 จุด แนสแดก เพิ่มขึ้น 6.91 จุด (0.36 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,916.20 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 3.45 จุด (0.36 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 954.58 จุด
เบน เบอร์นันกี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ แถลงต่อสภาคองเกรสเมื่อวันอังคาร (21) การฟื้นตัวกำลังมาถึง แต่ ณ เวลานี้ยังไม่ถึงเวลาที่ผ่อนปรนความพยายามอย่างก้าวร้าวในการเขย่าเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะถดถอย