นายกฯ ห่วงการส่งออกเดือน ก.ค.-ส.ค.ติดลบหนักที่สุด 3 บิ๊กหอการค้าฯ ฟันธงไตรมาส 3 ส่งออกปรับตัวดีขึ้น ผวาไข้หวัด 2009 ขยายวงรุนแรง กระทบ ศก.-ท่องเที่ยว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงทิศทางการส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือของปี 2552 โดยคาดว่า มูลค่าการส่งออกของไทยปีนี้จะหดตัวมากที่สุดในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่รัฐบาลจะพยายามผลักดันการส่งออกให้ติดลบน้อยที่สุด โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
“ต้องบอกเลยว่า ช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้ ถือเป็นช่วงที่เผชิญวิกฤตสูงสุด เพราะการส่งออกติดลบมากสุด เมื่อเทียบกับตัวเลขของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการติดลบในอัตราที่ค่อนข้างสูง โดยตัวเลขทั้งปี รัฐบาลจะพยายามติดลบให้น้อยสุด 7-8 เดือนแรก ติดลบอยู่ 25-26% ช่วงไตรมาสสุดท้าย ต้องพยายามเร่งให้มาก”
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตัวเลขการส่งออกล่าสุดของเดือนมิถุนายน 2552 ที่ยังคงติดลบในระดับสูง ไม่ได้เหนือไปกว่าที่รัฐบาลได้คาดการณ์ไว้
โดยวานนี้ กระทรวงพาณิชย์รายงานการส่งออกของไทยในเดือนมิถุนายน 2552 มีมูลค่า 12,335 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 25.9% ขณะที่การส่งออกในครึ่งปีแรกมีมูลค่า 68,207 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 23.5%
ส่วนตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ในปีนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวคาดหวังว่า ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี รัฐบาลจะพยายามทำให้เศรษฐกิจฟื้นกลับมาเป็นบวกให้ได้เช่นกัน
นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวถึงสถานการณ์การส่งออกของประเทศ โดยเชื่อว่า ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ การส่งออกจะปรับตัวดีขึ้น หลังจากการที่มีคำสั่งซื้อทยอยเข้ามายังประเทศไทยแล้ว ถึงแม้จะเป็นคำสั่งซื้อในระยะสั้น 3 เดือน โดยประเทศไทยยังคงมีปัจจัยที่ยังส่งผลกระทบต่อการส่งออกคือสภาพคล่องมีปัญหาจากความไม่มั่นใจของผู้ค้า
ดังนั้น ภาคเอกชนจึงต้องการให้รัฐบาลดูแลให้ทางธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เข้ามารับประกันความเสี่ยงให้มากขึ้น โดยอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือ อุตสาหกรรมอาหาร ในขณะที่อุตสาหกรรมที่เป็นสิ่งฟุ่มเฟือยยังคงไม่มีแนวโน้มดีขึ้น เช่น ในอุตสาหกรรมด้านไอทีและรถยนต์
นอกจากนี้ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ยังกล่าวอีกว่า การส่งออกตลอดทั้งปีในปี 2552 เชื่อว่าการส่งออกของประเทศจะติดลบไม่เกินร้อยละ 26 อย่างแน่นอน
นายดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวถึงการส่งออกของไทยช่วงไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไป โดยคาดว่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งเห็นได้จากการส่งออกในช่วงเดือนมิถุนายน 2552 ที่การส่งออกติดลบน้อยลง โดยเริ่มมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ ถึงแม้ว่า จะไม่มากเหมือนในปี 2551
อย่างไรก็ตาม ประธานกรรมการหอการค้าไทย คาดว่า ตลอดทั้งปี 2552 ตัวเลขการส่งออกจะติดลบมากกว่าร้อยละ 10 อย่างแน่นอน เพราะยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องกังวลทั้งเศรษฐกิจโลกและสถานการณ์ภายในประเทศ เช่น การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งในวันนี้ หอการค้าไทย ได้เร่งให้ความรู้กับหอการค้าในส่วนภูมิภาค เพื่อถ่ายทอดความรู้และการป้องกันลงไปในต่างจังหวัด เพื่อไม่ให้กระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม
นอกจากนี้ ประธานกรรมการหอการค้าไทย ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับการส่งออกในปี 2553 นั้น จะเริ่มปรับตัวดีขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปและต้องอาศัยเวลาคำสั่งซื้อจึงจะเข้ามาเป็นปกติ
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานอาวุโส สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงผลกระทบของการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยระบุว่า หากกระจายไปในวงกว้างและรุนแรงมากขึ้น ความสูญเสียที่จะเกิดต่อภาวะเศรษฐกิจจะมีมากขึ้น รัฐบาลจะต้องเตรียมรับมือกับความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นด้วย เพราะหากไม่สามารถควบคุมได้จะกระทบต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งการท่องเที่ยวของประเทศไทยจะได้รับผลกระทบรุนแรงมากที่สุด
นอกจากนี้ นายประมนต์ ยังกล่าวถึงตัวเลขการส่งออกของประเทศ ว่า อัตราแลกเปลี่ยนยังคงเป็นปัจจัยในการแข่งขันของประเทศที่รัฐบาลจะต้องดูแลให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่แข็งค่าไปกว่าคู่แข่งมากนัก และจะต้องมีมาตรการในการกระตุ้นการส่งออก อย่างต่อเนื่อง