xs
xsm
sm
md
lg

สั่งเอ็กซิมแบงก์เตรียมพร้อม อัดสินเชื่อ-ปั๊มลงทุนไทยเข้มแข็ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รมช.คลัง มอบนโยบาย ธสน.ปล่อยกู้เครื่องจักรโครงการไทยเข้มแข็ง เพื่อให้โครงการลงทุนต่างๆ เดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว ส่วนเงินเพิ่มทุน 5 พันล้าน คาดนำส่งได้ไม่เกิน ก.ย.นี้



นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้มอบนโยบายแก่ผู้บริหารธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือ EXIM BANK โดยต้องการให้ ธสน.ปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการส่งออกและนำเข้าสำหรับเครื่องจักรวัตถุดิบต่างๆ ที่ใช้ในโครงการลงทุนไทยเข้มแข็งของรัฐบาล เพื่อให้โครงการต่างๆ เดินได้อย่างรวดเร็วในปีนี้ ส่วนเงินเพิ่มทุนของเอ็กซิมแบงก์ที่ขอไป 5,000 ล้านบาท น่าจะส่งให้พร้อมกับธนาคารรัฐอื่นประมาณเดือนสิงหาคม หรือกันยายน 2552 นี้

นพ.พฤฒิชัย ยังย้ำให้ ธสน.ขยายบทบาทการเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนา สนับสนุนการลงทุนในประเทศที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาด้านการส่งออก เช่น การสนับสนุนโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ระบบการขนส่งและพลังงานทดแทน หลังจากต้นปีที่ผ่านมา ได้เคยร่วมสถาบันการเงินต่างชาติ ระดมทุนด้วยการออกพันธบัตรเอเชีย หรือเอเชียบอนด์ เพื่อสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำของลาว และต้องการให้ ธสน.ช่วยพัฒนาผู้ประกอบการ ลดปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ให้ผู้ส่งออก

นายอภิชัย บุญธีรวร กรรมการผู้จัดการ ธสน.กล่าวว่า ในครึ่งปีแรก ธสน.ได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อและประกันการส่งออกไป 13,372 ล้านบาท จากเป้าหมายวงเงินสินเชื่อทั้งปี 19,700 ล้านบาท โดยเงินกองทุนของธนาคารมีอยู่ 9,300 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 บัญชี ใช้สำหรับปล่อยสินเชื่อ 7,000 ล้านบาท และประกันการส่งออก 2,300 ล้านบาท ซึ่งสามารถประกันได้เพิ่มขึ้น 5 เท่าจากวงเงินที่มีอยู่

แต่ขณะนี้ ธสน.ได้ประกันการส่งออกทั้งหมด 13,000 ล้านบาท เกินจากกรอบวงเงินที่มีอยู่ จึงต้องรอการเพิ่มทุนของรัฐบาลเข้ามาเสริมและจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้รายได้จากการประกันการส่งออกครึ่งปีแรกอยู่ที่ 57 ล้านบาท จากปี 2551 อยู่ที่ 114 ล้านบาท ขณะที่การจ่ายค่าสินไหมทดแทนครึ่งปีแรกเป็นเงิน 72 ล้านบาท จากปี 2551 ทั้งปีจ่ายชดเชย 16 ล้านบาท ซึ่งยอดที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว เพราะผู้ซื้อจากต่างประเทศมีปัญหาการรับซื้อ บริษัทปิดกิจการหรือไม่ยอมรับสินค้าหลังมีการสั่งซื้อแล้ว ซึ่งเป็นปรากฏการณ์เหมือนกับประเทศอื่น แต่คิดว่าคงไม่เลวร้ายเหมือนประเทศต่างๆ มากนัก

นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานกรรมการ ธสน.กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวทำให้ยอดการส่งออกเทียบปีต่อปีลดลงทุกเดือน จึงมองว่า ตัวเลขการส่งออกจะติดลบร้อยละ 20 ในปีนี้ และเป็นห่วงผู้ส่งออกจากปัญหาเงินบาทแข็งค่า จนทำให้ทะลุ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งรัดการลงทุนโครงการไทยเข้มแข็ง เพื่อใช้จ่ายเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่มีในประเทศเพื่อซื้อวัสดุก่อสร้าง เครื่องมือเครื่องจักร เพราะจะเป็นส่วนหนึ่งบรรเทาปัญหาเงินบาทแข็งค่า

ทั้งนี้ ธนาคารได้เร่งขยายธุรกิจและบริการเพื่อบรรเทาผลกระทบของวิกฤตการเงินโลกต่อผู้ส่งออกไทย โดยได้จัดทำโครงการประกันการส่งออก โดยลงนามในบันทึกความร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ และธนาคารของรัฐรวม 10 แห่ง เพื่อขยายบริการประกันการส่งออก (EXIMSurance) คุ้มครองความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อในต่างประเทศให้แก่ผู้ส่งออกที่เป็นลูกค้าของธนาคารนั้นๆ รวมทั้งช่วยให้ผู้ส่งออกมีโอกาสได้รับการขยายสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากกรมธรรม์ EXIMSurance เป็นหลักประกันประเภทหนึ่งที่สามารถโอนสิทธิการรับค่าชดเชยสินไหมทดแทนให้แก่ธนาคารผู้ให้กู้ได้ และธนาคารยังคงพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนผู้ส่งออก

ธนาคารได้ปรับโครงสร้างการทำงานของสาขาและเปิดสาขาย่อยภายใต้ความร่วมมือกับธนาคารออมสินตามแนวนโยบาย “1 สาขา 2 ธนาคาร” เพื่อใช้พื้นที่สาขาร่วมกันและความเชี่ยวชาญของกันและกันให้บริการทางการเงินและคำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ประกอบการในย่านธุรกิจและแหล่งชุมชน โดยปัจจุบันธนาคารมีสาขาย่อยเปิดให้บริการ ณ ที่ทำการสาขาของธนาคารออมสินรวม 3 แห่ง ได้แก่ สาขาย่อยบางรัก วงเวียนใหญ่ และ อ้อมใหญ่ และในครึ่งหลังปี 2552 จะเปิดสาขาย่อยเพิ่มอีก 4 แห่ง ได้แก่ สาขาย่อยติวานนท์ สาธุประดิษฐ์ จักรวรรดิ และ สุราษฎร์ธานี
กำลังโหลดความคิดเห็น