รมว.คลัง เดินสายตรวจเยี่ยม “ออมสิน-ธ.ก.ส.” ขณะลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี “ผอ.ออมสิน” แจงภารกิจสนองนโยบายรัฐ เพิ่มวงเงินสินเชื่อธนาคารประชาชนอีกเท่าตัวจาก 5 หมื่นบาท เป็น 1 แสนบาท พร้อมขยับลดดอกเบี้ยเหลือ 0.5%ต่อเดือน จากเดิม 1%ต่อเดือน เผยยอด 6 เดือนปล่อยกู้ไปแล้ว 4 พันล้าน ด้าน ธ.ก.ส.เร่งเครื่องปล่อยกู้แปรรูปยางพาราจากวงเงินรวม 8 พัน ล.
วานนี้ (2 ก.ค.) นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมทั้งเยี่ยมชมกิจการธนาคารออมสิน สาขาถนนราษฎรอุทิศ อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี และมอบนโยบายแก่ผู้บริหารธนาคารออมสิน รวมถึงเป็นประธานมอบเงินสินเชื่อธนาคารประชาชน ตามนโยบายกระจายสินเชื่อสู่ฐานรากของรัฐบาลให้กับประชาชน
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินได้ขยายวงเงินสินเชื่อสำหรับสินเชื่อธนาคารประชาชนเพื่อนำไปลงทุนหรือเป็นเงินหมุนเวียนสำหรับประกอบอาชีพค้าขายขนาดเล็ก ด้วยวงเงินกู้สูงสุด 100,000 บาท จากเดิมไม่เกิน 50,000 บาท
พร้อมกันนั้น ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจาก 1% ต่อเดือน เหลือเพียง 0.50% ต่อเดือน เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญาเงินกู้ สำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 30,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 0.75% ต่อเดือน และวงเงินกู้ตั้งแต่ 30,000-100,000 บาท ได้ขยายระยะเวลาผ่อนชำระเป็นไม่เกิน 5 ปี จากเดิมสูงสุดไม่เกิน 3 ปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ด้านผลประกอบการสินเชื่อธนาคารประชาชน 6 เดือนของปี 2552 (1 ม.ค.- 30 มิ.ย.) นั้น ธนาคารได้อนุมัติสินเชื่อรายใหม่ไปแล้วจำนวนกว่า 104,000 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อประมาณ 4,000 ล้านบาท
**เร่ง ธ.ก.ส.ปล่อยกู้แปรรูปยาง**
นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน นายกรณ์ จาติกวณิช ในฐานะประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและเป็นประธานในการมอบวงเงินสินเชื่อแก่สหกรณ์การเกษตรในโครงการสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางพาราตามมติคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบให้ ธ.ก.ส.ปล่อยสินเชื่อจำนวน 8,000 ล้านบาท ในเป้าหมายแปรรูปยางพาราจำนวน 2 แสนตัน
นายกรณ์ กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวไม่ใช่การแทรกแซงราคายางเหมือนในอดีตที่รัฐต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อยางเก็บสต๊อกยาง และจำหน่ายยางเอง ซึ่งจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี แต่โครงการดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของเกษตรกรในการสร้างมูลค่าเพิ่มจากการแปรรูปผลผลิตยางพารา
ขณะที่ นายเจร เร็วอุไร ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การดำเนินการตามโครงการดังกล่าวขณะนี้มีสถาบันเกษตรกรที่ได้รับอนุมัติวงเงินสินเชื่อแล้ว 2 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านวังใหญ่ จำกัด อ.เวียงสระ และสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านโพธิ์น้อย จำกัด อ.วิภาวดี โดยได้รับวงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท มีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยจนถึง 31 ธ.ค. 52 ทั้งนี้ สถาบันเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถติดต่อขอรับบริการได้ที่ธ.ก.ส.ในพื้นที่ปลูกยางพาราทุกสาขาทั่วประเทศจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2552 นี้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ ธ.ก.ส.สาขาสุราษฎร์ธานี ตั้งเป้าหมายสินเชื่อปีนี้ไว้ที่ 5,956 ล้านบาท ประกอบด้วยสินเชื่อปกติ 3,200 ล้านบาท เป็นสินเชื่อที่สนับสนุนการทำสวนยางพารามีวงเงินสูงถึง 2,622 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีสินเชื่อพลังงานทดแทน 1,260 ล้านบาท สินเชื่อสร้างงานในชนบท 1,069 ล้านบาท สินเชื่อพัฒนาธุรกิจชุมชน 403 ล้านบาท และสินเชื่อนอกภาคเกษตร 24 ล้านบาท
