xs
xsm
sm
md
lg

คลังต่อรอง4แบงก์ลดดอกเบี้ย เงินกู้ธ.ก.ส.จำนำข้าวแสนล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คลังดอดขอ 4 แบงก์ลดดอกเบี้ยเงินกู้ ธ.ก.ส.จำนำข้าว 1.1 แสนล้านบาท จาก 4.95% ลงเหลือ 1.89% หลังดอกเบี้ยในตลาดลดลงมามากแล้ว ระบุหากไม่ให้ความร่วมมือก็จะรีไฟแนนซ์โดยใช้เงินกู้ รสก. 2 แสนล้านเพื่อลดภาระดอกเบี้ย เผยกรุงไทย-ออมสินพร้อมให้ความร่วมมือแล้วและขอให้สิทธิปล่อยกู้ ธ.ก.ส.แทนหากTMB-SCIBปฏิเสธ

นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล รองผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้เจรจากับธนาคารพาณิชย์ 3 แห่ง คือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) KTB ธนาคารทหารไทย จำกัด(มหาชน) TMB ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด(มหาชน) SCIB และธนาคารออมสินที่ร่วมโครงการปล่อยกู้ 1.1 แสนล้านบาทในโครงการรับจำนำผลผลิตทางการเกษตรของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เพื่อให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากสัญญากู้ยืม 1 ปี 6 เดือนที่อยู่ในอัตรา 4.95% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในตลาดปัจจุบันลดต่ำลงมากแล้ว

โดยมีรายงานว่าธนาคารกรุงไทยและธนาคารออมสินมีความพร้อมที่จะร่วมมือกับกระทรวงการคลังเพื่อลดดอกเบี้ยให้กับธ.ก.ส. เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าหากลดดอกเบี้ยลงจากเดิม 4.95% เหลือ 1.98% ธนาคารทั้ง 2 แห่งก็ยังมีกำไรจากการปล่อยกู้เนื่องจากหากธนาคารทำธุรกรรมกับธนาคารแห่งประเทศไทยหรือปล่อยกู้ในตลาดเงินก็จะได้ดอกเบี้ยเพียง 1.25% เท่านั้น ซึ่งดอกเบี้ย 1.98% นี้ถือว่าดีกว่าแบกรับสภาพคล่องไว้ในธนาคารโดยไม่ดำเนินการอย่างใดเลย

“ตอนนี้ยังไม่ได้รับเอกสารตอบรับจากธนาคารทั้ง 4 แห่งแต่ทราบมาว่ามีออมสินและกรุงไทยที่พร้อมจะลดดอกเบี้ยให้ ส่วนทหารไทยกับนครหลวงไทนหากไม่ลดดอกเบี้ยให้สบน.ก็จะใช้วิธีการอื่นเพื่อลดต้นทุนดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจากการกู้เงินในครั้งนี้” นายจักรกฤศฎิ์กล่าว

นายจักรกฤศฎิ์กล่าวว่า สบน.ได้พยายามหามาตรการเพื่อลดต้นทุนในการกู้เงินของรัฐบาลมาโดยตลอดซึ่งเงิน 1.1 แสนล้านบาท สำหรับโครงการรับจำนำข้าวและผลผลิตทางการเกษตรอื่นของธ.ก.ส.ที่มีดอกเบี้ย 4.98% ขณะที่ดอกเบี้ยอาร์/พี 1 วันอยู่ในระดับ 1.25% เท่านั้น จะทำให้รัฐบาลต้องรับภาระดอกเบี้ยสูงเกินไป ซึ่งตามเป้าหมายแล้วต้นทุนดอกเบี้ยในส่วนนี้สบน.จะพยายามลดลงให้เหลือ 3.0% หรือไม่เกิน 3 พันล้านบาท

สำหรับธนาคารนครหลวงไทยและธนาคารทหารไทยนั้นหากไม่ยอมลดดอกเบี้ยให้จริงสบน.ก็จะนำเงินในส่วนที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติกรอบวงเงินสำรองเพื่อให้รัฐวิสาหกิจกู้ (Short term facility) จำนวน 2 แสนล้านบาทจากธนาคารพาณิชย์ 6 แห่ง มาเพื่อรีไฟแนนซ์หนี้ในส่วนนี้ไปเพื่อลดภาระดอกเบี้ยเนื่องจากดอกเบี้ยจากวงเงินสำรองเพื่อให้รัฐวิสาหกิจกู้มีต้นทุนเพียง 2.0% เท่านั้น

ส่วนวงเงินกู้ในส่วนของ ธนาคารทหารไทย 1.5 หมื่นล้านบาท และธนาคารนครหลวงไทยอีก 1.5 หมื่นล้านบาทนั้น ธนาคารออมสินมีความพร้อมที่จะไปรับรีไฟแนนซ์เงินกู้จำนวน 3 หมื่นล้านบาทจากธนาคารทั้ง 2 แห่งหากไม่ยอมลดดอกเบี้ยให้กับธ.ก.ส.เนื่องจากภาวะตลาดในปัจจุบันมีทางเลือกในการรับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยน้อยหากทิ้งไว้ให้เป็นสภาพคล่องในธนาคารก็จะเป็นภาระต้นทุนดอกเบี้ยของธนาคารเอง

รายละเอียดโครงการจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 51/52 และผลผลิตทางการเกษตรของธ.ก.ส.ในครั้งนี้ ธ.ก.ส. จะเป็นผู้กู้เงินเองทั้งหมดจำนวน 1.1 แสนล้านบาทจากธนาคารกรุงไทย 4 หมื่นล้านบาท ธนาคารออมสิน 4 หมื่นล้านบาท ธนาคารทหารไทย 1.5 หมื่นล้านบาท และธนาคารนครหลวงไทยอีก 1.5 หมื่นล้านบาท ในกรอบระยะเวลา 1 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.95% โดยมีกระทรวงการคลังค้ำประกันและรับผิดชอบอัตราดอกเบี้ยรวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานทั้งหมดคาดประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น