xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.คลังห่วงทุจริตระบาดแบงก์ ตร.เพิ่มข้อหาฟอกเงินหนุ่มธอส.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กรรมาธิการการเงินการคลังฯ เชิญผู้บริหารกระทรวงคลัง ธปท.และแบงก์พาณิชย์ หารือประเด็นทุจริตทั้งกรณี ธอส. ออมสินและธนชาต พบ ธอส.ทวงเงินคืนแล้วเกือบ 300 ล้าน ไม่กระทบลูกค้า แนะนำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระมัดระวังมากขึ้นโดยเฉพาะระบบคอมพิวเตอร์ ขณะที่กองปราบเพิ่มข้อหาพนักงาน ธอส.ร่วมกันฟอกเงิน พร้อมเร่งรวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับแฟนสาวในข้อหาเดียวกันอีกราย

ที่รัฐสภาวานนี้ (27 พ.ค.) กรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน สภาผู้แทนฯ เชิญผู้แทนจากกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และผู้บริหารของธนาคารพาณิชย์มาสอบถามถึงการดำเนินงานของธนาคาร

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี โฆษกคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมว่า เป็นห่วงกรณีพนักงานของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ยักยอกเงินจำนวน 499.27ล้านบาท หลังจากที่ประชุมได้รับฟังคำชี้แจงจากนายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธอส.แล้วทราบว่า จำนวนเงินที่หายไปทั้งหมดไม่ส่งผลกระทบต่อเงินต้นหรือดอกเบี้ยเงินฝากของประชาชน หากแต่เป็นความเสียหายโดยตรงต่อ ธอส.เอง เพราะได้มีการโอนออกจากบัญชีที่ จ่ายเงินฝากแต่ละประเภท ขณะนี้สามารถติดตามเงินและทรัพย์สินกลับมาได้แล้วเกือบ 300 ล้านบาท ยังคงเหลืออีกประมาณ 200 ล้านบาทที่ต้องติดตามต่อไป

"คณะกรรมาธิการแสดงความเป็นห่วงและแนะนำกระทรวงการคลัง ผู้บริหารแบงก์ชาติให้เพิ่มความระมัดระวังต่อความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ เนื่องจากปัจจุบันสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐได้เปลี่ยนแปลงระบบคอมพิวเตอร์เกี่ยวเนื่องกับระบบ Core Banking จึงขอให้เร่งตรวจสอบและสร้างบรรทัดฐานระบบคอมพิวเตอร์แบบใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม Core Banking พร้อมกับปรับปรุงเครื่องมือและความรู้ของบุคลากรต่อระบบการตรวจสอบเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ฝากเงิน" นายอรรถวิทย์กล่าว

นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังได้สอบถามผู้บริหารของธนาคารออมสินเกี่ยวกับการโอนตัวเลขเงินผิดพลาดแต่ลูกค้าแสดงสปิริตมาคืนให้ ได้รับคำชี้แจงว่าธนาคารออมสินว่าได้เปลี่ยนแปลงตัวเลขของบัญชีดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ของธนาคารธนชาติบันทึกตัวเลขเงินฝากของลูกค้าผิดพลาดนั้นผู้บริหารธนาคารธนชาต ชี้แจงว่าได้ดำเนินการนำเงินส่วนที่ขาดเข้าบัญชีให้แล้ว ขณะเดียวกันกำลังดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ธนาคารธนชาตที่ทุจริตด้วย

***เพิ่มข้อหาฟอกเงินหนุ่ม ธอส.

วันเดียวกันที่กองบังคับการปราบปราม พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป.พ.ต.ต.อดิเรก จินตรานันท์ สว.กก.1 บก.ป.พร้อมกำลังตำรวจกองปราบปราม เดินทางไปอายัดตัวนายสมเกียรติ ปัญญาวรคุณเดช อายุ 33 ปี อดีตพนักงานธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สาขาเซ็นหลุยส์ 3 ผู้ต้องหายักยอกเงิน ธอส.เป็นเงินกว่า 400 ล้านบาท จากเรือนจำคลองเปรม ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1450/2552 ลงวันที่ 25 พ.ค.2552 ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน

นอกจากนี้ พ.ต.ต.ธีรพัฒน์ ธารีไทย พ.ต.ต.สุทธิเวท บุญยรัตกลิน สว.กก.1 บก.ป.พร้อมกำลังเข้าจับกุมนางพุทธชาติ วงศ์จันทะ อายุ 26 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1451/2552 ลงวันที่ 25 พ.ค.2552 ในข้อหาเดียวกัน จับกุมผู้ต้องหาได้ที่บ้านเลขที่ 105 หมู่ 5 ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จ.หนองคาย ก่อนควบคุมตัวทั้งสองมาสอบสวนดำเนินคดีที่ กก.1 บก.ป.

"หลังจากผู้แทน ธอส.ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายสมเกียรติ ฐานยักยอกทรัพย์มูลค่ากว่า 400 ล้านบาทไปแล้วนั้น ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ ธอส.ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายสมเกียรติ เพิ่มเติม ในความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ เนื่องจาก ธอส.เป็นธนาคารของรัฐ นายสมเกียรติ เป็นลูกจ้าง ธอส.จึงถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ กรณีนี้จะต้องส่งสำนวนคดีให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาภายใน 30 วัน เมื่อส่งสำนวนคดีให้กับ ป.ป.ช.แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่มีอำนาจในการควบคุมตัวผู้ต้องหา" พ.ต.อ.พรศักดิ์กล่าวและว่า เมื่อได้พิจารณาข้อกฎหมายร่วมกับเจ้าหน้าที่ ธอส.แล้วพบว่า การกระทำความผิดของนายสมเกียรติ ยังเข้าข่ายมูลฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน อีกด้วย จึงสั่งการให้พนักงานสอบสวน บก.ป.เร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญา ออกหมายจับนายสมเกียรติ กับพวก ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน โดยเบื้องต้นพบหลักฐานที่ชัดเจนว่า นางพุทธชาติ แฟนสาวของนายสมเกียรติ ร่วมกระทำความผิดด้วย จึงพิจารณาขออนุมัติศาลอาญา ออกหมายจับนางพุทธชาติ ในข้อหาเดียวกันด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น