ตำรวจกองปราบปรามควบคุมตัวหนุ่ม ธอส. และอดีตเมียไปฝากขังในคดีฟอกเงิน พร้อมคัดค้านการประกันตัว ตำรวจเผยยังมีผู้ต้องหาที่หนุ่ม ธอส.โอนเงินให้อีกจำนวน 3-4 ราย กำลังจะจับกุมดำเนินคดี
วันนี้ (28 พ.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.ท.เชาวลิต หาญเสน่ห์ลักษณ์ พนักงานสอบสวน บก.ป.พร้อมด้วย พ.ต.ต.ธีรพัฒน์ ธารีไทย สว.กก.1 บก.ป. ควบคุมตัว นายสมเกียรติ ปัญญาวรคุณเดช อายุ 33 ปี อดีตพนักงานธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สาขาเซนต์หลุยส์ 3 ผู้ต้องหายักยอกเงินออกจากบัญชีดอกเบี้ยธนาคารดังกล่าว เป็นจำนวนเงินกว่า 400 ล้านบาท และนางพุทธชาติ วงศ์จันทะ อายุ 26 ปี อดีตภรรยาสาวของนายสมเกียรติ ผู้ต้องหาในคดีเดียวกัน ไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญารัชดา โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้ผู้ต้องหาทั้งสองประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน พร้อมทั้งยังยื่นเรื่องคัดค้านการให้ประกันตัวทั้งคู่ต่อศาล โดยให้เหตุผลว่าเกรงจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และเกรงว่าจะหลบหนี
พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป.กล่าวว่า ภายหลังจากที่มีการจับกุมพร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ต้องหาทั้งสองแล้วนั้น ทางด้านนายสมเกียรติได้รับทราบข้อกล่าวหาและปฏิเสธที่จะให้การในชั้นพนักงานสอบสวน และจะขอให้ปากคำในชั้นศาลเท่านั้น ส่วนนางพุทธชาติยอมให้การต่อพนักงานสอบสวนและให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลทรัพย์สินที่เคยได้รับจาก นายสมเกียรติเป็นอย่างดี แต่นางพุทธชาติได้ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่าไม่ทราบว่าเงินสดที่นายสมเกียรติเคยโอนให้ภายหลังจากเลิกรากันไปจำนวน 5 ล้านบาท รวมถึงทรัพย์สินอื่นๆ ที่เคยได้รับจากนายสมเกียรตินั้นได้มาจากการยักยอกเงินของธนาคาร นอกจากนี้ จากการสืบสวนพบว่า นายสมเกียรติยังโอนเงินให้บุคคลอีกประมาณ 3-4 ราย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องดังกล่าวในฐานความผิดร่วมกันฟอกเงิน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันเดียวกัน พ.ต.อ.พรศักดิ์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ พ.ต.ท.อดินันท์ ชัยนันท์ รองผกก.1 บก.ป. และพ.ต.ต.อดิเรก จินตรานันท์ สว.กก.1 บก.ป. ได้เดินทางนำหนังสือไปแจ้งต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตามขั้นตอนของกฎหมายในการดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาในคดีฟอกเงิน เพื่อให้ทางคณะกรรมการ ปปง.รับทราบก่อนนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ขั้นตอนคณะกรรมการธุรกรรมการเงิน และจัดตั้งเจ้าหน้าที่ขึ้นมาในการตรวจสอบ ติดตาม และอายัดทรัพย์ที่เชื่อว่าผู้ต้องหาได้มาจากการกระทำความผิดต่อไป