สหภาพฯ บินไทย เรียกร้องนายกฯ สั่งระงับย้ายบริการเที่ยวบินออกจากดอนเมือง 29 มี.ค. ออกไปก่อน เพราะยังไม่มีการประเมินผลกระทบอย่างรอบด้าน ทั้งยังมีข้อกังขาในสังคม ทั้งในเรื่องของการรีบเร่ง และการบิดเบือนข้อมูล ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้ ขณะที่ "ดีดี" การบินไทย ไม่สนเสียงคัดค้าน สั่งเดินหน้าตามแผน
กลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) นำโดยนายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ จำนวนกว่า 100 คน เดินทางมายังด้านหน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ถนนเศษฐศิริ เพื่อยื่นข้อเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระงับการย้ายการให้บริการเที่ยวบินของการบินไทย ออกจากท่าอากาศยานดอนเมือง ไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เนื่องจากเห็นว่า ไม่ก่อประโยชน์ให้กับบริษัทและประชาชน เพราะเป็นการย้ายเฉพาะสายการบินไทย แต่ในส่วนของสายการบินเอกชน ยังคงให้บริการต่อ
อย่างไรก็ตาม จากการชุมนุมทำให้การจราจรบนถนนเศษฐศิริ ตั้งแต่ด้านหน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ จนถึงถนนพระราม 6 ไม่สามารถจราจรได้ ส่วนความปลอดภัยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 กว่า 120 นาย และเจ้าหน้าที่เทศกิจของกรุงเทพมหานคร คอยดูแลความเรียบร้อยในการชุมนุม
นางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพแรงงานการบินไทย ระบุว่า สาเหตุการคัดค้านการย้ายเที่ยวบินในประเทศจากท่าอากาศยานดอนเมืองไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของสายการบินไทย เพราะประเด็นนี้ ยังเป็นข้อโต้แย้งในสังคมอย่างรุนแรง โดยเฉพาะประเด็นเรื่องความโปร่งใส และผลดีผลเสียของการบินไทยในอนาคต
นอกจากนั้น ยังพบว่าข้อเท็จจริงที่ฝ่ายบริหารของการบินไทยนำข้อมูลมาประกอบการพิจารณาการย้ายเที่ยวบินนั้นไม่ตรงกับความเป็นจริง โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าใช้จ่ายประมาณปีละ 648 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันพบว่าไม่สามารถลดค่าใช้จ่ายได้ตามที่ชี้แจงในเบื้องต้น และยังไม่มีความชัดเจนของข้อมูลว่าจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายที่แท้จริงเป็นจำนวนเท่าใด รวมทั้งสายการบินนกแอร์ และสายการบินวันทูโก ก็ยังคงให้บริการอยู่ที่ท่าอากาศยานดอนเมืองเหมือนเดิม
ดังนั้น สหภาพฯ จึงขอรัฐบาลในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ สั่งระงับการย้ายเที่ยวบินในประเทศจากท่าอากาศยานดอนเมืองในวันที่ 29 มีนาคม 2552 นี้ ออกไปก่อน เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพิจารณาผลดีผลเสียที่จะเกิดจากการย้ายเที่ยวบินอย่างรอบคอบ รวมทั้งศึกษาผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการด้วย
"ที่ผ่านมาคณะกรรมการฟื้นฟูและการพัฒนาเครือข่ายการขนส่งทางอากาศ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินพลเรือนและศูนย์กลางของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาค ซึ่งมีนายศรีสุข จันทรางศุ เป็นประธาน ไม่ได้พิจารณาข้อมูลผลกระทบของสายการบินไทยในการย้ายเที่ยวบินในประเทศอย่างรอบคอบ
รวมทั้งไม่ได้พิจารณาประเด็นปัญหาครั้งแรกที่การบินไทยต้องย้ายเที่ยวบินในประเทศมาที่ท่าอากาศยานดอนเมืองเมื่อปี 2550 เพราะประสบปัญหาความคับคั่งแออัดและความไม่พร้อมในการให้บริการของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งจนถึงปัจจุบันปัญหาดังกล่าวยังไม่ได้รับการแก้ไข และเห็นว่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังไม่เหมาะสมที่จะเป็น SINGLE AIRPORT"
ทั้งนี้ นายชุมพล กาญจนะ ประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เข้ารับข้อร้องเรียนกลุ่มผู้ชุมนุม และยืนยันจะนำเรื่องเสนอให้กับนายกรัฐมนตรีได้พิจารณาต่อไป
**บินไทย เมินเสียงค้าน-ใส่เกียร์ห้าลุย
พล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย กล่าวว่า การบินไทยพร้อมที่จะย้ายเที่ยวบินภายในประเทศทั้งหมดจากสนามบินดอนเมืองไปสุวรรณภูมิ โดยในวันที่ 28 มีนาคม 2552 นี้ มีเที่ยวบินสุดท้าย คือ TG1047 จากขอนแก่น เวลา 20.40 น และ TG 1124 ออกจากดอนเมือง 22.15 น.ไปเชียงใหม่ โดยขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมเคาน์เตอร์เช็คอิน และพื้นที่รองรับพิเศษเรียบร้อยแล้ว
ด้านนายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) กล่าวว่า การย้ายเที่ยวบินจะทำให้เที่ยวบินในประเทศของสุวรรณภูมิเพิ่มขึ้นวันละ 46 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 8,000 คนต่อวัน ซึ่งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีความพร้อมที่จะรองรับได้ พร้อมกันนี้ได้เตรียมเพิ่มเจ้าหน้าที่เพื่อให้คำแนะนำแก่ผู้โดยสาร
นายเสรีรัตน์ ยืนยันว่า ทสภ.มีความพร้อมรองรับในทุกด้าน ทั้งความปลอดภัย การตรวจบัตรโดยสารในประเทศ 36 เคาน์เตอร์ การเพิ่มรถเข็น รวมทั้งการเพิ่มเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำ ซึ่งสุวรรณภูมิได้นำนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏ วิทยาเขตหัวหิน ด้านการบิน 45 คน มาให้คำแนะนำแก่ผู้โดยสาร นอกจากนี้ยังเปิดคอลเซ็นเตอร์ เพื่อให้บริการ 24 ชั่วโมง ที่หมายเลข 02-1321888 และศูนย์รักษาความปลอดภัย 02-1324000