xs
xsm
sm
md
lg

GC หั่นเป้าปี 52 เหลือ 2.9 พันล้าน เหตุราคาเมล็ดพลาสติกร่วง-เศรษฐกิจพ่นพิษ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โกลบอล คอนเน็คชั่นส์ คาด รายได้ปี 52 ระดับ 2.9 พันล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่เคยทำได้ 3.4 พันล้านบาท เหตุราคาเมล็ดพลาสติกร่วงกว่า 15% อีกทั้งวิกฤตเศรษฐกิจพ่นพิษตลาดรถยนต์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ชะลอตัว ส่งผลจำนวนลูกค้าหด ปรับแผนเน้นสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มเป็น 70-75% พร้อมพยุงกำไรขั้นต้นคุมขาดทุนจากสต๊อกสินค้า

นายสมชาย คุลีเมฆิน ผู้อำนวยการ บริษัท โกลบอล คอนเน็คชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GC เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2552 ไว้ที่ 2,800-2,900 ล้านบาท ซึ่งมีรายได้ลดลงจากปี 2551 ที่ทำได้ 3,400 ล้านบาท เนื่องจากราคาสินค้าวัตถุดิบประเภทเมล็ดพลาสติกปรับตัวลดลงจากปี 2551 ประมาณ 15% มาอยู่ที่ราคาเฉลี่ย 40-50 บาทต่อกิโล รวมถึงภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เกิดการชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อลูกค้าในกลุ่มธุรกิจยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ที่บริษัทมีอยู่

ทั้งนี้ บริษัทพยายามที่จะรักษาอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ในปีนี้ให้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ทำไว้ 76.54 ล้านบาท และรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ปีนี้ให้ได้ที่ประมาณ 6-7% ซึ่งใกล้เคียงกับปีก่อนที่มี 7.08% โดยการควบคุมการขาดทุนจากสต๊อกสินค้า (Stock lost) ผลจากจำนวนลูกหนี้ในปีนี้ที่ลดลง เนื่องจากบริษัทมีการบริหารการปล่อยสินเชื่อที่ระมัดระวังขึ้น รวมถึงราคาสินค้าที่ต่ำลง อัตราดอกเบี้ยในช่วงขาลง และจำนวนลูกหนี้ที่ลดลง

อย่างไรก็ดี จากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเช่นนี้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มลูกค้าที่ทำการซื้อขายอยู่กับบริษัทในบางกลุ่มธุรกิจ ดังนั้น บริษัทจึงมีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนสินค้า โดยจะเน้นไปที่สินค้าโภคภัณฑ์ (Bu1) โดยเพิ่มขึ้นมาเป็น 70-75% และลดในส่วนของสินค้าเอ็นจิเนียริ่ง (Bu 2 และ Bu 3) ลงมาที่ 20% จากเดิมที่คาดว่าจะเพิ่มที่ 30% เนื่องจากมองว่าภาคสินค้าโภคภัณฑ์ยังโตได้ในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ เพราะมองว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ และจากการบริโภคภายในประเทศที่ยังความต้องการอยู่ สำหรับในภาคสินค้าเอ็นจิเนียริ่งนั้นคาดว่าจะเกิดการชะลอตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อธุรกิจกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์โลกเพราะยอดขายลดลง ทำให้ต้องลดกำลังการผลิตและลดจำนวนพนักงานตามไปด้วย

“ถึงแม้บริษัทจะได้รับผลกระทบกับบางธุรกิจแต่เราก็ยังมีส่วนที่ยังเติบโตไปได้อีก และแม้เราจะมียอดขายลดลงบ้างแต่เราก็ไม่มีหนี้ เนื่องจากตอนนี้เรากู้เงินกับธนาคารไปแค่ 20% ถือว่าบริษัทไม่มีเงินกู้ระยะยาวเลยและจำนวนลูกหนี้ก็ลดลงเยอะมาก ทำให้เราไม่กังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากนัก และแม้ว่าจะมียอดขายน้อยลงแต่เราก็ยังจะสามารถจ่ายเงินปันผลในงวดปี 2552 ได้เต็มที่ โดยพยายามรักษาระดับการจ่ายปันผลให้ใกล้เคียงกับปี 2551 ที่จ่ายไป 0.32 สตางค์” นายสมชาย กล่าว

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นนี้ ส่งผลกระทบต่อลูกค้าของบริษัทในบางกลุ่มธุรกิจเท่านั้น ซึ่งจะเป็นในส่วนของลูกค้าประเภท Bu2 และ Bu3 แต่ในส่วนของลูกค้าประเภท Bu1 ยังคงสามารถดำเนินธุรกิจไปได้ตามปกติ และตลาดของธุรกิจกลุ่มนี้ก็ยังสามารถเติบโตไปได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงกลุ่มลูกค้าประเภท Bu1 ที่บริษัทมีอยู่นั้นล้วนเป็นลูกค้าประเภทระดับบนที่มีผลประกอบการค่อนข้างดี คือ ลูกค้ากลุ่มบรรจุภัณฑ์ ประเภทผลิตถุงบรรจุสินค้าอุปโภคและบริโภค ซึ่งแตกต่างจากลูกค้าประเภท Bu2 - Bu3 ที่แนวโน้มมีอัตราลดลง ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนลูกค้าทั้งหมด 1,900 ราย ซึ่งเป็นลูกค้าที่มีการหมุนเวียนทางธุรกิจจำนวน 900 ราย
กำลังโหลดความคิดเห็น