สมาคมรับสร้างบ้านมั่นใจตลาดแข็งแกร่ง 3 วันคนเข้าชมงาน Home Builder Focus 2009 กว่า1หมื่นราย เผยผลสำรวจผู้เข้าชมงานกำลังซื้อยังมีสูง ชี้กว่า 53% ของผู้ชมงานตัดสินใจสร้างบ้านในปีนี้ ระบุ 25%พร้อมสร้างบ้านในไตรมาส2 แจงยอดขายในงาน470 ล้านบาท ต่ำเป้า 30 ล้านบาท ชี้บ้านราคา 2.5-5 ล้านบาทมาแรงสุด ด้านราคาขายเฉลี่ยบ้านภายในงานอยู่ที่หลังละ 4.4 ล้านบาท
นายพันธุ์เทพ ทานชิติกุล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวถึงผลสำเร็จของการจัดงาน Home Builder Focus 2009 ที่ผ่านมาว่า มีผู้เข้าชมงาน 10,000 ราย ซึ่งจากการจัดทำแบบ สอบถามกับกลุ่มผู้เข้าชมงาน 3,000 ราย พบว่า 25%มีความพร้อมที่จะสร้างบ้านภายในไตรมาส2 และอีกกว่า 28% พร้อมที่จะสร้างบ้านในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 52 สะท้อนให้เห็นว่า ลูกค้ายังมีความต้อการสร้างบ้านและยังมีกำลังซื้อดีต่อเนื่อง เพราะปรากฏว่า ลูกค้ากว่า 53% ที่เตรียมตัดสินใจสร้างบ้านในปีนี้
สำหรับยอดจองภายในงานมีมูลค่า 470 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้า 30 ล้านบาท ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้า ในภาวะตลาดปัจจุบัน ทั้งนี้ กลุ่มบ้านที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากที่สุดคือ ระดับราคา 2.5-5 ล้านบาท คิดเป็น 42% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 51ประมาณ10% ส่วนกลุ่มบ้านราคา 5-10 ล้านบาท มีลูกค้าสนใจสร้าง 26% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 2% ขณะที่กลุ่มบ้านราคาต่ำกว่า 2.5 ล้านบาทมีลูกค้าสนใจ 8% ลดลงจากปีที่ผ่านมา 10%
ส่วนบ้านราคา 10-20 ล้านบาทมีลูกค้าสนใจสร้าง 15% เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 4% และบ้านราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป มีลูกค้าสนใจสร้าง 9% เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา2%
ทั้งนี้ จากการสำรวจราคาบ้านที่ขายในงานนี้พบว่า ราคาเฉลี่ยของบ้านที่ลูกค้าตัดสินในสร้างภายในงานอยู่ที่ 4.4 ล้านบาทต่อหลัง ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยที่ใกล้เคียงกับการจัดงานรับสร้างบ้าน ในเดือนส.ค.51 มีราคาเฉลี่ย 4.2 ล้านบาท นอกจากนี้ จากการตอบแบบสอบถามของผู้ชมงานยังพบอีกว่า การลดลงของความต้องการบ้านราคาต่ำกว่า 2.5 ล้านบาท เนื่องจากลูกค้ากลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มที่ต้องใช้เงินกู้จากสถาบันการในการก่อสร้างบ้าน ขณะที่สถาบันการเงินเข้มงวดอนุมัติเงินกู้ ทำให้กลุ่มดังกล่าวได้รับผลกระทบมากกว่ากลุ่มอื่น จึงส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้าให้ชะลอออกไป
ในขณะที่กลุ่มบ้านราคา 2.5-5 ล้านบาทนั้น มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นถึง 10% เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวใช้เงินออมในการสร้างบ้าน แต่ช่วงก่อนหน้ามีการชะลอการตัดสินใจซื้อ เพื่อรอดูความชัดเจนของราคาวัสดุก่อสร้าง แต่ในปัจจุบันราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวเข้าที่แล้ว ทำให้ราคาบ้านอยู่ในระดับที่เหมาะสม ผู้ประกอบการไม่มีการบวกค่าผันผวนของราคาวัสดุก่อสร้างเพิ่ม และมีการจัดแคมเปญ มอบส่วนลดต่างๆ ทำให้ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวตัดสินใจสร้างบ้านเร็วขึ้น
“ การจัดงานในครั้งนี้ เราพบว่ากลุ่มผู้บริโภคคาดหวังเรื่องราคาบ้านเป็นหลัก ซึ่งในช่วงนี้ต้องบอกว่า เป็นโอกาสของผู้ซื้ออย่างแท้จริง ราคาวัสดุก่อสร้างก็ไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น อัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ก็จูงใจ ผู้ประกอบการมีการจัดโปรโมชันกระตุ้นตลาดตั้งแต่ต้นปี คาดว่า จากปัจจัยดังกล่าวน่าจะช่วยกระตุ้นตลาดในช่วงไตรมาสที่ 1-2 ของปีนี้ได้เป็นอย่างดี”
นายพันธุ์เทพ กล่าวคาดว่า ตลาดรับสร้างบ้านในปี 52 จะขยายตัวได้ ซึ่งจากการทำแบบสอบถามผู้เข้าร่วมงานกว่า 2,000 ตัวอย่างพบว่า ความต้องการปลูกสร้างบ้านภายในปี 52 ยังมีมากถึง 53% โดยบ้านราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท เป็นกลุ่มที่ได้รับความสนใจมากที่สุด
สำหรับนโยบายของสมาคมฯ ในช่วงนี้ก็จะเร่งสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค โดยเฉพาะการมุ่งสร้างมาตรฐานของการให้บริการที่ดีในกลุ่มของสมาชิก โดยกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านมีส่วนแบ่งตลาด 18% คิดเป็นมูลค่า 9,800 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดรวม 50,000ล้านบาท ในปีนี้คาดว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 20% คิดเป็นมูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท
นายพันธุ์เทพ ทานชิติกุล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวถึงผลสำเร็จของการจัดงาน Home Builder Focus 2009 ที่ผ่านมาว่า มีผู้เข้าชมงาน 10,000 ราย ซึ่งจากการจัดทำแบบ สอบถามกับกลุ่มผู้เข้าชมงาน 3,000 ราย พบว่า 25%มีความพร้อมที่จะสร้างบ้านภายในไตรมาส2 และอีกกว่า 28% พร้อมที่จะสร้างบ้านในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 52 สะท้อนให้เห็นว่า ลูกค้ายังมีความต้อการสร้างบ้านและยังมีกำลังซื้อดีต่อเนื่อง เพราะปรากฏว่า ลูกค้ากว่า 53% ที่เตรียมตัดสินใจสร้างบ้านในปีนี้
สำหรับยอดจองภายในงานมีมูลค่า 470 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้า 30 ล้านบาท ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้า ในภาวะตลาดปัจจุบัน ทั้งนี้ กลุ่มบ้านที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากที่สุดคือ ระดับราคา 2.5-5 ล้านบาท คิดเป็น 42% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 51ประมาณ10% ส่วนกลุ่มบ้านราคา 5-10 ล้านบาท มีลูกค้าสนใจสร้าง 26% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 2% ขณะที่กลุ่มบ้านราคาต่ำกว่า 2.5 ล้านบาทมีลูกค้าสนใจ 8% ลดลงจากปีที่ผ่านมา 10%
ส่วนบ้านราคา 10-20 ล้านบาทมีลูกค้าสนใจสร้าง 15% เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 4% และบ้านราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป มีลูกค้าสนใจสร้าง 9% เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา2%
ทั้งนี้ จากการสำรวจราคาบ้านที่ขายในงานนี้พบว่า ราคาเฉลี่ยของบ้านที่ลูกค้าตัดสินในสร้างภายในงานอยู่ที่ 4.4 ล้านบาทต่อหลัง ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยที่ใกล้เคียงกับการจัดงานรับสร้างบ้าน ในเดือนส.ค.51 มีราคาเฉลี่ย 4.2 ล้านบาท นอกจากนี้ จากการตอบแบบสอบถามของผู้ชมงานยังพบอีกว่า การลดลงของความต้องการบ้านราคาต่ำกว่า 2.5 ล้านบาท เนื่องจากลูกค้ากลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มที่ต้องใช้เงินกู้จากสถาบันการในการก่อสร้างบ้าน ขณะที่สถาบันการเงินเข้มงวดอนุมัติเงินกู้ ทำให้กลุ่มดังกล่าวได้รับผลกระทบมากกว่ากลุ่มอื่น จึงส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้าให้ชะลอออกไป
ในขณะที่กลุ่มบ้านราคา 2.5-5 ล้านบาทนั้น มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นถึง 10% เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวใช้เงินออมในการสร้างบ้าน แต่ช่วงก่อนหน้ามีการชะลอการตัดสินใจซื้อ เพื่อรอดูความชัดเจนของราคาวัสดุก่อสร้าง แต่ในปัจจุบันราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวเข้าที่แล้ว ทำให้ราคาบ้านอยู่ในระดับที่เหมาะสม ผู้ประกอบการไม่มีการบวกค่าผันผวนของราคาวัสดุก่อสร้างเพิ่ม และมีการจัดแคมเปญ มอบส่วนลดต่างๆ ทำให้ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวตัดสินใจสร้างบ้านเร็วขึ้น
“ การจัดงานในครั้งนี้ เราพบว่ากลุ่มผู้บริโภคคาดหวังเรื่องราคาบ้านเป็นหลัก ซึ่งในช่วงนี้ต้องบอกว่า เป็นโอกาสของผู้ซื้ออย่างแท้จริง ราคาวัสดุก่อสร้างก็ไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น อัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ก็จูงใจ ผู้ประกอบการมีการจัดโปรโมชันกระตุ้นตลาดตั้งแต่ต้นปี คาดว่า จากปัจจัยดังกล่าวน่าจะช่วยกระตุ้นตลาดในช่วงไตรมาสที่ 1-2 ของปีนี้ได้เป็นอย่างดี”
นายพันธุ์เทพ กล่าวคาดว่า ตลาดรับสร้างบ้านในปี 52 จะขยายตัวได้ ซึ่งจากการทำแบบสอบถามผู้เข้าร่วมงานกว่า 2,000 ตัวอย่างพบว่า ความต้องการปลูกสร้างบ้านภายในปี 52 ยังมีมากถึง 53% โดยบ้านราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท เป็นกลุ่มที่ได้รับความสนใจมากที่สุด
สำหรับนโยบายของสมาคมฯ ในช่วงนี้ก็จะเร่งสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค โดยเฉพาะการมุ่งสร้างมาตรฐานของการให้บริการที่ดีในกลุ่มของสมาชิก โดยกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านมีส่วนแบ่งตลาด 18% คิดเป็นมูลค่า 9,800 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดรวม 50,000ล้านบาท ในปีนี้คาดว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 20% คิดเป็นมูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท