xs
xsm
sm
md
lg

แบงก์เข้มปล่อยกู้-ความเชื่อมั่นลด คาดตลาดบ้านสร้างเองปี52วูบ5%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านชี้แบงก์เข้มปล่อยกู้- ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นจากปัจจัยลบ คาดตลาดรวมบ้านสร้างเองหดตัว 5% เหลือ 52,415 ล้านบาท หลังปัจจัยลบรุมเร้าผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่น แต่จะหันมาใช้บริการบริษัทในสมาคมฯ มากขึ้นคาดเพิ่มแชร์ในตลาดได้ถึง 20% หรือมียอดขายรวม 10,500 ล้านบาทในปี 52 ระบุบ้านราคา 2.5-5 ล้านบาทความต้องการขยายตัวสูงสุด

นายพันธุ์เทพ ทานชิติกุล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวถึงแนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านปี 52ว่า ภาวะวิกฤตการเงินโลกที่เกิดขึ้นทำให้สถาบันการเงินในประเทศมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อแก่ลูกค้ารายย่อยและโครงการอสังหาริมทรัพย์ รวมไปถึงตลาดบ้านสร้างเองด้วย การเข้มงวดการพิจารณาปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินดังกล่าว ส่งผลให้จำนวนลูกค้าบ้านสร้างเองส่วนหนึ่งหายไป นอกจากนี้การขาดความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์เศรษฐกิจ และความผันผวนด้านการเมือง คาดจะส่งผลให้ปีอัตราการขยายตัวของตลาดรวมหดตัวลง
จากแนวโน้มดังกล่าว สมาคมฯคาดว่าในปี 52 ตลาดรวมบ้านสร้างเองจะมีอัตราการเติบโตลดลงประมาณ 5% หรือ มีมูลค่ารวมตลาดบ้านสร้างเองประมาณ 52,415 ล้านบาท จากเดิมที่ปี 51 มูลค่ารวมตลาดบ้านสร้างเองมีอยู่ประมาณ 54,590 ล้านบาท โดยกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านมีแชร์ตลาดรวมอยู่ที่ 18% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 9,800 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 44,790 ล้านบาทอยู่ในมือของกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากปัจจัยลบจะส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันลูกค้าให้การตอบรับกลุ่มบริษัทสร้างบ้านเพิ่มขึ้น สังเกตได้จากตัวเลขอัตราการเติบโตของยอดแชร์ในตลาดรวมบ้านสร้างเองที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี โดยในปี 49 มีแชร์ตลาด 792 ล้านบาท ปี 50 เพิ่มขึ้น 1,435 ล้านบาท ส่วนปี 51 สามารถเพิ่มแชร์มาได้อีก 1,500 ล้านบาท

ส่วนปี 52 สมาคมฯตั้งเป้าว่าจะเพิ่มแชร์ตลาดให้ได้ 20% หรือมียอดขายรวมประมาณ 10,500 ล้านบาท แม้ว่าตลาดจะมีปัจจัยลบเข้ามากระทบ แต่ก็ยังมีปัจจัยบวก เช่น การยอมรับบริษัทรับสร้างบ้านเพิ่มขึ้นของลูกค้า การจัดกิจกรรมของสมาคมฯ การปรับลดลงของอัตราดอกเบี้ย ราคาวัสดุก่อสร้างซึ่งส่งผลทางด้านจิตวิทยาให้มีการตัดสินใจสร้างบ้านของกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

นายพันธุ์เทพ กล่าวต่อว่า จากการเก็บข้อมูลลูกค้าในงานรับสร้างบ้าน และการศึกษาความต้องการของลูกค้าพบว่า ตลาดบ้านระดับราคาต่ำกว่า 2.5 ล้านบาท เป็นกลุ่มที่มีการปรับตัวลดลงโดยมีแชร์อยู่ที่ 18% จากเดิมที่เป็นกลุ่มที่มีดีมานด์ขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งคาดว่าจะเป็นผลมาจากการเข้มงวดการปล่อยกู้ของสถาบันการเงิน เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวส่วนใหญ่จะใช้เงินกู้จากสถาบันการเงินเป็นหลัก ขณะที่ตลาดบ้านระดับราคา 2.5-5 ล้านบาท มีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยมีแชร์อยู่ที่ 32% ส่วนตลาดบ้านกลุ่ม 5-10 ล้านบาทมีแชร์อยู่ที่ 28% บ้านระดับ 10-20 ล้านบาทมีแชร์อยู่ 11% ส่วนบ้านระดับ 20 ล้านบาทขึ้นมีแชร์อยู่ที่ 11%

"ปัจจุบันปัจจัยหลักในการตัดสินใจเลือกผู้ประกอบการหรือบริษัทรับสร้างบ้าน ซึ่งสมาคมฯมีการเก็บข้อมูลและศึกษามาพบว่า ปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกของลูกค้าคือ แบรนด์หรือชื่อเสียงของบริษัท 41% การโฆษณาประชาสัมพันธ์ 10% บริษัทหรือผู้ประกอบการมอยู่ใกล้บ้าน หรือที่ทำงาน 11% ใกล้สถานที่ก่อสร้างบ้าน 8% งบประมาณและความเหมาะสมของราคาบ้าน 28% และอื่นๆ อีก 2%"
กำลังโหลดความคิดเห็น