xs
xsm
sm
md
lg

รับสร้างบ้านใจชื้นต้นทุนวัสดุลด หนุนลูกค้าตัดสินใจก่อนราคาขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธุรกิจรับสร้างบ้านพอหายใจคล่องขึ้น หลังแนวโน้มราคาวัสดุก่อสร้างครึ่งปีหลังทรงตัว ผู้บริหารโฟร์พัฒนาฯชี้ ผ่าน 2 เดือนแรกของครึ่งปีหลัง ราคาวัสดุก่อสร้างเพิ่มเพียง 0.20% เทียบกับครึ่งปีแรกที่ปรับตัวเฉลี่ยเกือบ 2 %ต่อเดือน เผยทำสำรวจล่าสุด กำลังซื้อยังมีต่อเนื่องถึงปี 2552 ผู้บริโภครอปลูกสร้างบ้านอีกกว่า 50%

นายปราโมทย์ ธีรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฟร์พัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2551 เป็นต้นมาพบว่า ราคาวัสดุก่อสร้างมีความผันผวนลดลงจากในช่วงครึ่งปีแรกเป็นอย่างมาก โดยตั้งแต่เดือน ก.ค.-ส.ค.ที่ผ่านมา ราคาเฉลี่ยวัสดุก่อสร้างปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 0.20% เท่านั้น ขณะที่ในช่วงครึ่งปีแรกราคาเฉลี่ยวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น ถึง 11.2% หรือเฉลี่ยเดือนละเกือบ 2% โดยสาเหตุหลักเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ประกอบกับราคาเหล็กลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง หลังจากปริมาณเหล็กค้างสต๊อกในประเทศจีนมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น

สำหรับสถานการณ์ดังกล่าว ถือว่าส่งผลดีโดยตรงต่อธุรกิจรับสร้างบ้าน ซึ่งต้นทุนกว่า 70% เป็นเรื่องของวัสดุก่อสร้างเป็นหลัก โดยเมื่อช่วงครึ่งปีแรกของปี 2551 การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้างส่งผลให้ต้นทุนของบริษัทฯเพิ่มขึ้นประมาณ 4.2 % แต่ในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นมา ต้นทุนของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นอีกเพียง 0.59% ทำให้การบริหารและการจัดการต้นทุนทำได้ง่ายขึ้น

นายปราโมทย์ กล่าวว่า ในส่วนของการประเมินกำลังซื้อในตลาดรับสร้างบ้านครึ่งปีหลังนั้น จากการสำรวจของบริษัทฯในกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาติดต่อในช่วงที่มีการจัดงานรับสร้างบ้าน 2008 โดยสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมาพบว่ากว่า 50% ต้องการปลูกสร้างบ้านภายในปี 2552 และอีก 14% ต้องการปลูกสร้างบ้านภายในปี 2553 ที่น่าสังเกตอีกประการก็คือ บ้านระดับราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาทถือเป็นกลุ่มที่มี ความต้องการจะปลูกสร้างมากที่สุด รองลงมาเป็นบ้านระดับราคา 5-8 ล้านบาท โดยทั้งสองกลุ่มดังกล่าวมีปริมาณความต้องการปลูกสร้างสูงกว่า 90%

"แม้ราคาวัสดุก่อสร้างจะไม่ขยับขึ้นสูง แต่เรื่องของราคาน้ำมัน ก็ยังคงมีความผันผวนอยู่ แต่คงไม่ขึ้นไปสูงเหมือนกับช่วงต้นปีทีผ่านมา ส่วนราคาบ้านช่วงนี้ น่าจะไม่ขยับตัวเพิ่มขึ้นมาก และเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้บริโภค จะเป็นเจ้าของบ้านในราคาที่ไม่สูงมากนัก "

สำหรับภาวะตลาดรับสร้างบ้านในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากความผันผวนของราคาวัสดุก่อสร้างที่ลดลง ประกอบกับเป็นช่วงที่ผู้บริโภคตัดสินใจที่จะปลูกสร้างบ้าน โดยในส่วนของบริษัทฯ ปัจจุบันส่วนใหญ่จะเน้นทำตลาดสำหรับบ้านในระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท และ 5-10 ล้านบาทเป็นหลัก และมีโครงการจัดสรรภายใต้ชื่อโครงการบ้านบุษบา บนถนนติวานนท์ เน้นกลุ่มลูกค้าระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น