นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวภายหลังเปิดสาขาย่อยมีนบุรี ว่า แม้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ไม่ปรับดอกเบี้ยนโยบายลดลงในการประชุมครั้งที่ผ่านมา ซึ่งหากการประชุมครั้งต่อไป กนง.ไม่ปรับลดดอกเบี้ยอีกก็จะเป็นการส่งสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยในตลาดถึงจุดต่ำสุดแล้ว
นายขรรค์ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังเตรียมกู้เงินจากระบบโดยออก พ.ร.ก.การให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและฟื้นเศรษฐกิจ ทำให้มีการดูดซับสภาพคล่องจากระบบธนาคารออกไปใช้ ส่งผลให้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นขยับขึ้นไปอีก ดังนั้น การลดดอกเบี้ยของธนาคารทั้งเงินฝากและเงินกู้ถือว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว จึงไม่ต้องปรับลดดอกเบี้ยลงอีก
สำหรับการปล่อยสินเชื่อปีนี้ ธนาคารตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะปล่อยสินเชื่อใหม่กว่า 73,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 20 เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ปล่อยเงินออกสู่ระบบน้อย ทำให้ลูกค้าหันมากู้จาก ธอส. ยอดสินเชื่อจากเดิมที่ตั้งไว้ 5,000 ล้านบาทต่อเดือน ขยับเป็น 7,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งตั้งแต่ต้นปี ธนาคารปล่อยสินเชื่อได้ 37,920 ล้านบาท นอกจากนี้ การที่การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ยังเดินหน้าสร้างบ้านเอื้ออาทร ทำให้มีลูกค้าเข้ามากู้เงินกับธอส.ถึง 1,000 ล้านบาทต่อเดือน เพราะเป็นกลุ่มตลาดที่ราคาบ้านไม่แพง
ส่วนแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์นั้น นายขรรค์ ยอมรับว่าครึ่งปีหลังยังไม่ดีเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม บ้านแนวสูง ทั้งอาคารพาณิชย์และคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้วยังสามารถโอนได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งวัสดุก่อสร้างทั้งเหล็ก และวัสดุต่างๆ เริ่มมีราคาลดลง จึงไม่น่ากระทบต่อต้นทุนของผู้ประกอบการ
นายขรรค์ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังเตรียมกู้เงินจากระบบโดยออก พ.ร.ก.การให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและฟื้นเศรษฐกิจ ทำให้มีการดูดซับสภาพคล่องจากระบบธนาคารออกไปใช้ ส่งผลให้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นขยับขึ้นไปอีก ดังนั้น การลดดอกเบี้ยของธนาคารทั้งเงินฝากและเงินกู้ถือว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว จึงไม่ต้องปรับลดดอกเบี้ยลงอีก
สำหรับการปล่อยสินเชื่อปีนี้ ธนาคารตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะปล่อยสินเชื่อใหม่กว่า 73,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 20 เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ปล่อยเงินออกสู่ระบบน้อย ทำให้ลูกค้าหันมากู้จาก ธอส. ยอดสินเชื่อจากเดิมที่ตั้งไว้ 5,000 ล้านบาทต่อเดือน ขยับเป็น 7,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งตั้งแต่ต้นปี ธนาคารปล่อยสินเชื่อได้ 37,920 ล้านบาท นอกจากนี้ การที่การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ยังเดินหน้าสร้างบ้านเอื้ออาทร ทำให้มีลูกค้าเข้ามากู้เงินกับธอส.ถึง 1,000 ล้านบาทต่อเดือน เพราะเป็นกลุ่มตลาดที่ราคาบ้านไม่แพง
ส่วนแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์นั้น นายขรรค์ ยอมรับว่าครึ่งปีหลังยังไม่ดีเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม บ้านแนวสูง ทั้งอาคารพาณิชย์และคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้วยังสามารถโอนได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งวัสดุก่อสร้างทั้งเหล็ก และวัสดุต่างๆ เริ่มมีราคาลดลง จึงไม่น่ากระทบต่อต้นทุนของผู้ประกอบการ
