ASTVผู้จัดการรายวัน – ตลาดรับสร้างบ้าส่งสัญญาณทิศทางที่ดี “รอแยลเฮ้าส์”เผยเตรียมขยายช่องทางขายเจาะตลาดต่างจังหวัด นำร่องพื้นที่จังหวัดปริมณฑล พร้อมเปิดสาขาใหม่บงแคหลังทำสัญญาเช่าพื้นที่ทำสำนักงานขาย แจงอย่างช้าปี53 อย่างเร็วปีนี้เห็นสาขาใหม่ชลบุรีแน่ ชี้ตลาดต่ำกว่า3ล้านแข่งดุ ขณะตลาดบนลูกค้าเลือกผู้ประกอบการที่แบรนด์
นายศักดา โควิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รอแยลเฮ้าส์ จำกัด กล่าวว่าช่วง 2เดือนที่ผ่านมา ตลาดรับสร้างบ้านเริ่มปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติ จากที่ช่วงปลายปี 51 ลูกค้าชะลอการตัดสินใจปลูกสร้างบ้านออกไป ทั้งนี้แม้ว่าตลาดจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นแต่จำนวนลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมบูทและสำนักงานขายยังมีปริมาณน้อยกว่าปกติ แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจำนวนลูกค้าที่เข้ามาจะลดลงแต่การตัดสินใจของลูกค้ากลับเร็วขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาติดต่อบริษัทมีความต้องการสร้างบ้านที่แท้จริง เฉพาะช่วง2เดือนที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายแล้ว 140ล้านบาท
"เมื่อสภาพตลาดเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้บริษัทเริ่มมีความเชื่อมั่นในการรุกธุรกิจตามแผนที่วางไว้ โดยก่อนหน้า บริษัทได้ศึกษาที่จะขยายสาขาเพิ่มอีก 1 สาขาในเขตบางแค รวมถึงขยายสาขาออกไปยังต่างจังหวัด ซึ่งในช่วงแรกจะเริ่มเปิดสาขาในเขตพื้นที่จังหวัดปริมณฑลก่อน และจะขยายออกไปในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ชลบุรี "
ล่าสุด บริษัทได้ทำสัญญาเช่าพื้นที่ในเขตบางแคเพื่อเปิดสำนักงานขายสาขาใหม่เพิ่ม นอกจากนี้ยังได้ซื้อที่ดิน1แปลงในจังหวัดนครปฐม เพื่อรองรับการขยายสาขาใหม่ ส่วนในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ คาดว่าจะเปิดสาขาแน่นอนแล้วคือชลบุรี เนื่องจากมีลูกค้าของบริษัทกว่า10ราย ที่ใช้บริการสร้างบ้านกับบริษัทอยู่ ส่วนใหญ่จะสร้างบ้านระดับราคา6ล้านบาทขึ้นไป
“การขยายสาขาไปในต่างจังหวัดนั้น ต้องรอดูภาวะตลาดต่อเนื่องอีกสักระยะ หากตลาดยังดีเหมือนช่วง2เดือนแรกของปีนี้ ก็คาดว่าจะเปิดตัวสาขาในต่างจังหวัดแน่นอน แต่หากสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยคงชะลอออกไปก่อน แต่ยืนยันว่าไม่เกินปี2553 จะเปิดสาขาใหม่ในต่างจังหวัดแน่นอน”
สำหรับการวางเป้าการขายในปี 52 กำหนดยอดขายรวมไว้ที่ 800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มียอดขายเท่ากับ 750 ล้านบาท ยอดขายดังกล่าวจะมาจากตลาดกลุ่มบ้านระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทคิดเป็น 10% ของยอดรวม บ้านระดับ3-5ล้านประมาณ 30% บ้านกลุ่มราคา6-10ล้านบาท 40% และบ้านราคาเกิน 10 ล้านบาทอีก 10% โดยตลาดบ้านระดับ6-10ล้านบาท และ10ล้านบาทขึ้นไป การแข่งขันจะไม่รุนแรงมากนัก เนื่องจากลูกค้าจะเลือกผู้ประกอบการที่ความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจในแบรนด์ของผู้ประกอบการ
ส่วนตลาดบ้านระดับ3-5ล้านบาท จะแข่งขันกันด้วยกลุยุทธ์และแบบบ้าน ร่วมถึงการจัดแคมเปญ ในขณะที่บ้านระดับ3ล้านบาทลงมา จะเน้นโปรโมชันและการให้ส่วนลดต่างๆ ซึ่งการแข่งขันในตลาดนี้จะรุนแรงมากกว่าปีที่ผ่านมา
“ในปีนี้ลูกค้าจะเลือกสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านมากขึ้น เพราะไม่มั่นใจกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และผู้ประกอบการที่จะได้เปรียบ คือ กลุ่มที่มีภาพลักษณ์ดี มีแบรนด์ที่แข็งแกร่งเข้าถึงลูกค้าในวงกว้าง และเป็นที่ยอมรับของลูกค้า”
นายศักดา โควิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รอแยลเฮ้าส์ จำกัด กล่าวว่าช่วง 2เดือนที่ผ่านมา ตลาดรับสร้างบ้านเริ่มปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติ จากที่ช่วงปลายปี 51 ลูกค้าชะลอการตัดสินใจปลูกสร้างบ้านออกไป ทั้งนี้แม้ว่าตลาดจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นแต่จำนวนลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมบูทและสำนักงานขายยังมีปริมาณน้อยกว่าปกติ แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจำนวนลูกค้าที่เข้ามาจะลดลงแต่การตัดสินใจของลูกค้ากลับเร็วขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาติดต่อบริษัทมีความต้องการสร้างบ้านที่แท้จริง เฉพาะช่วง2เดือนที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายแล้ว 140ล้านบาท
"เมื่อสภาพตลาดเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้บริษัทเริ่มมีความเชื่อมั่นในการรุกธุรกิจตามแผนที่วางไว้ โดยก่อนหน้า บริษัทได้ศึกษาที่จะขยายสาขาเพิ่มอีก 1 สาขาในเขตบางแค รวมถึงขยายสาขาออกไปยังต่างจังหวัด ซึ่งในช่วงแรกจะเริ่มเปิดสาขาในเขตพื้นที่จังหวัดปริมณฑลก่อน และจะขยายออกไปในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ชลบุรี "
ล่าสุด บริษัทได้ทำสัญญาเช่าพื้นที่ในเขตบางแคเพื่อเปิดสำนักงานขายสาขาใหม่เพิ่ม นอกจากนี้ยังได้ซื้อที่ดิน1แปลงในจังหวัดนครปฐม เพื่อรองรับการขยายสาขาใหม่ ส่วนในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ คาดว่าจะเปิดสาขาแน่นอนแล้วคือชลบุรี เนื่องจากมีลูกค้าของบริษัทกว่า10ราย ที่ใช้บริการสร้างบ้านกับบริษัทอยู่ ส่วนใหญ่จะสร้างบ้านระดับราคา6ล้านบาทขึ้นไป
“การขยายสาขาไปในต่างจังหวัดนั้น ต้องรอดูภาวะตลาดต่อเนื่องอีกสักระยะ หากตลาดยังดีเหมือนช่วง2เดือนแรกของปีนี้ ก็คาดว่าจะเปิดตัวสาขาในต่างจังหวัดแน่นอน แต่หากสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยคงชะลอออกไปก่อน แต่ยืนยันว่าไม่เกินปี2553 จะเปิดสาขาใหม่ในต่างจังหวัดแน่นอน”
สำหรับการวางเป้าการขายในปี 52 กำหนดยอดขายรวมไว้ที่ 800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มียอดขายเท่ากับ 750 ล้านบาท ยอดขายดังกล่าวจะมาจากตลาดกลุ่มบ้านระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทคิดเป็น 10% ของยอดรวม บ้านระดับ3-5ล้านประมาณ 30% บ้านกลุ่มราคา6-10ล้านบาท 40% และบ้านราคาเกิน 10 ล้านบาทอีก 10% โดยตลาดบ้านระดับ6-10ล้านบาท และ10ล้านบาทขึ้นไป การแข่งขันจะไม่รุนแรงมากนัก เนื่องจากลูกค้าจะเลือกผู้ประกอบการที่ความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจในแบรนด์ของผู้ประกอบการ
ส่วนตลาดบ้านระดับ3-5ล้านบาท จะแข่งขันกันด้วยกลุยุทธ์และแบบบ้าน ร่วมถึงการจัดแคมเปญ ในขณะที่บ้านระดับ3ล้านบาทลงมา จะเน้นโปรโมชันและการให้ส่วนลดต่างๆ ซึ่งการแข่งขันในตลาดนี้จะรุนแรงมากกว่าปีที่ผ่านมา
“ในปีนี้ลูกค้าจะเลือกสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านมากขึ้น เพราะไม่มั่นใจกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และผู้ประกอบการที่จะได้เปรียบ คือ กลุ่มที่มีภาพลักษณ์ดี มีแบรนด์ที่แข็งแกร่งเข้าถึงลูกค้าในวงกว้าง และเป็นที่ยอมรับของลูกค้า”
