รมช.คลัง สั่งกรมบัญชีกลาง เตรียมพร้อมจ่าย 2 พัน เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ปชช.หลัง พ.ร.บ.งบฯ รายจ่ายเพิ่มเติมปี 52 ผ่านสภา มั่นใจเป็นไปตามแผน เงินถึงมือรากหญ้าภายในเดือนนี้ และอย่างช้า คาดว่า ไม่เกินเดือน มี.ค.นี้ แน่นอน
นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโดยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐที่มีรายได้ไม่ถึงเดือนละ 15,000 บาท โดยจ่ายเงินช่วยเหลือให้คนละ 2,000 บาท ขณะนี้ได้มอบหมายให้กรมบัญชีกลางเตรียมพร้อมเรื่องการจ่ายเงินแล้ว เมื่อผลการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2552 ผ่านสภาเรียบร้อยแล้ว คาดว่า กระบวนการน่าจะเสร็จเรียบร้อยภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2552 นี้ และน่าจะพร้อมจ่ายเงินได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2552 เป็นต้นไป พร้อมกับเงินเดือน เพื่อไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมโอนเงิน
นพ.พฤฒิชัย กล่าวว่า เบื้องต้นกรมบัญชีกลางได้ประชุมชี้แจงถึงแนวทางการเบิกจ่ายเงินให้ส่วนราชการทราบแล้ว เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยให้ส่วนราชการตรวจสอบและรับรองความถูกต้องของข้อมูลบุคคลที่ได้รับเงินเดือน ค่าจ้าง ค่าตอบแทน เบี้ยหวัด บำนาญ ต่ำกว่า 15,000 บาท ผู้ที่รับบำนาญจะไม่รวมเงินช่วยค่าครองชีพเบี้ยหวัดบำนาญ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบำนาญรายเดือนน้อย และให้ส่งภายในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2552 นี้ หลังจากนั้นรอการจ่ายเงินช่วยให้ผู้มีสิทธิต่อไป โดยไม่ต้องออกคำสั่งใดๆ อีก
สำหรับบุคลากรภาครัฐที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือมี 9 กลุ่ม คือ ข้าราชการพลเรือนทุกประเภท ครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำรวจ ทหาร ลูกจ้างประจำเงินงบประมาณ ผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง และฝ่ายรักษาความสงบ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน และอาสาสมัครทหารพราน ซึ่งต้องมีฐานเงินก่อน พ.ร.บ.มีผลบังคับใช้เท่านั้น
ส่วนการจ่ายเงินจะมีหลายวิธี คือ ถ้าเป็นข้าราชการและผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญที่อยู่ในระบบจ่ายตรง กรมบัญชีกลางจะโอนเงินเข้าบัญชีของผู้มีสิทธิโดยตรง กรณีจ่ายผ่านส่วนราชการ ส่วนราชการต้องส่งคำขอเบิกผ่านระบบจีเอฟเอ็มไอเอส กรมบัญชีกลางจะโอนเงินให้ส่วนราชการ เพื่อจ่ายเข้าบัญชีข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และบุคคลผู้มีสิทธิต่อไป
นพ.พฤฒิชัย กล่าวว่า ในส่วนของภาคประชาชนหรือบุคลากรของรัฐกลุ่มที่เป็นผู้ประกันตนในกองทุนประกันสังคมที่อยู่ในข่ายได้รับการช่วยเหลือตามมาตรการนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดวิธีการจ่ายเงินให้ถึงประชาชนผู้มีสิทธิโดยตรงต่อไป
ล่าสุด นายบัณฑูร สุภัควณิช ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ออกมากล่าวยืนยันว่า การจัดสรรงบกลางปีให้รายละ 2,000 บาท ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 61(2) รัฐบาลสามารถดำเนินการได้ เพราะเป็นการทำงบประมาณแบบบูรณาการ กำหนดแนวทางการใช้เงินวัตถุประสงค์ประโยชน์ชัดเจน เชื่อว่า รัฐบาลจะอัดฉีดใส่ระบบได้ทันทีสิ้นเดือนนี้
นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโดยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐที่มีรายได้ไม่ถึงเดือนละ 15,000 บาท โดยจ่ายเงินช่วยเหลือให้คนละ 2,000 บาท ขณะนี้ได้มอบหมายให้กรมบัญชีกลางเตรียมพร้อมเรื่องการจ่ายเงินแล้ว เมื่อผลการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2552 ผ่านสภาเรียบร้อยแล้ว คาดว่า กระบวนการน่าจะเสร็จเรียบร้อยภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2552 นี้ และน่าจะพร้อมจ่ายเงินได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2552 เป็นต้นไป พร้อมกับเงินเดือน เพื่อไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมโอนเงิน
นพ.พฤฒิชัย กล่าวว่า เบื้องต้นกรมบัญชีกลางได้ประชุมชี้แจงถึงแนวทางการเบิกจ่ายเงินให้ส่วนราชการทราบแล้ว เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยให้ส่วนราชการตรวจสอบและรับรองความถูกต้องของข้อมูลบุคคลที่ได้รับเงินเดือน ค่าจ้าง ค่าตอบแทน เบี้ยหวัด บำนาญ ต่ำกว่า 15,000 บาท ผู้ที่รับบำนาญจะไม่รวมเงินช่วยค่าครองชีพเบี้ยหวัดบำนาญ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบำนาญรายเดือนน้อย และให้ส่งภายในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2552 นี้ หลังจากนั้นรอการจ่ายเงินช่วยให้ผู้มีสิทธิต่อไป โดยไม่ต้องออกคำสั่งใดๆ อีก
สำหรับบุคลากรภาครัฐที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือมี 9 กลุ่ม คือ ข้าราชการพลเรือนทุกประเภท ครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำรวจ ทหาร ลูกจ้างประจำเงินงบประมาณ ผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง และฝ่ายรักษาความสงบ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน และอาสาสมัครทหารพราน ซึ่งต้องมีฐานเงินก่อน พ.ร.บ.มีผลบังคับใช้เท่านั้น
ส่วนการจ่ายเงินจะมีหลายวิธี คือ ถ้าเป็นข้าราชการและผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญที่อยู่ในระบบจ่ายตรง กรมบัญชีกลางจะโอนเงินเข้าบัญชีของผู้มีสิทธิโดยตรง กรณีจ่ายผ่านส่วนราชการ ส่วนราชการต้องส่งคำขอเบิกผ่านระบบจีเอฟเอ็มไอเอส กรมบัญชีกลางจะโอนเงินให้ส่วนราชการ เพื่อจ่ายเข้าบัญชีข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และบุคคลผู้มีสิทธิต่อไป
นพ.พฤฒิชัย กล่าวว่า ในส่วนของภาคประชาชนหรือบุคลากรของรัฐกลุ่มที่เป็นผู้ประกันตนในกองทุนประกันสังคมที่อยู่ในข่ายได้รับการช่วยเหลือตามมาตรการนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดวิธีการจ่ายเงินให้ถึงประชาชนผู้มีสิทธิโดยตรงต่อไป
ล่าสุด นายบัณฑูร สุภัควณิช ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ออกมากล่าวยืนยันว่า การจัดสรรงบกลางปีให้รายละ 2,000 บาท ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 61(2) รัฐบาลสามารถดำเนินการได้ เพราะเป็นการทำงบประมาณแบบบูรณาการ กำหนดแนวทางการใช้เงินวัตถุประสงค์ประโยชน์ชัดเจน เชื่อว่า รัฐบาลจะอัดฉีดใส่ระบบได้ทันทีสิ้นเดือนนี้
