สภาฯ ผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณเพิ่มเติมปี 52 ฉลุยด้วยคะแนน 238 ต่อ 1 หลังฝ่ายค้านวอล์กเอาต์ตาม “สุนัย” ที่ปากแข็ง ด่า ปชป.แล้วไม่ถอนคำพูดตามคำสั่งประธานจนถูกเชิญออกนอกห้อง พร้อมตั้ง กมธ.วิสามัญ 30 คน แปรญัตติให้เสร็จใน 5 วัน
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาวาระด่วนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2552 ได้เสร็จสิ้นลงเมื่อเวลา 00.50 น.วันที่ 29 ม.ค. หลังจากนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เสนอปิดประชุม
โดยก่อนหน้านั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวสรุปสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.พร้อมขอให้สมาชิกช่วยกันออกเสียงเห็นชอบ และนายวิทยา บูรณศิริ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้านได้ตั้งข้อสังเกตว่า 6 มาตรการเร่งด่วนที่รัฐบาลชุดก่อนทำไว้ซึ่งเป็นแนวคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น เพื่อแก้ปัญหาน้ำมันราคาแพง ซึ่งตอนนั้นราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ 140 กว่าเหรียญต่อบาร์เรล แต่ขณะนี้ราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ 41 เหรียญกว่าเท่านั้น จึงมีคำถามว่ามีความจำเป็นหรือไม่ที่จะทำมาตรการเหล่านี้ต่อไป นอกจากนี้การจ่ายเงินให้กับผู้ประกันตนคนละ 2,000 บาทนั้น อาจทำให้รัฐบาลต้องกู้เงินมาใช้ ทางที่ดีหากรัฐบาลต้องการลดภาระให้กับผู้ประกันตน ควรจะงดการเก็บเงินเข้ากองทุนประกันสังคมจะดีกว่า ซึ่งนายอภิสิทธิ์ได้ชี้แจงว่า 6 มาตรการนั้นได้มีการปรับเปลี่ยนเหลือ 5 มาตรการ โดยได้ยกเลิกมาตรการงดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน เพราะราคาน้ำมันลดลงมาแล้ว ส่วนการให้ใช้น้ำ-ไฟฟรี ก็ปรับเปลี่ยนจาก 150 หน่วย ลดลงเหลือ 90 หน่วยเพื่อช่วยเหลือคนที่ขาดแคลนจริงๆ ส่วนการจ่ายเงิน 2,000 บาท ให้ผู้ประกันตนนั้น ก็เพราะต้องการให้ผู้ประกันตนได้เอาเงินไปใช้จ่ายเพื่อให้เงินหมุนเวียนในระบบ ส่วนการลดภาระการจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคมรัฐบาลก็มีเช่นกัน
ทั้งนี้ หลังจากนายชินวรณ์ได้เสนอปิดการอภิปรายแล้ว ได้เกิดความขลุกขลักเล็กน้อยเนื่องจากมีสมาชิกหลายคนต้องการจะพูดต่อ แต่นายชัย ชิดชอบ ประธานการชุมได้ขอให้นายชินวรณ์ถอนญัตติปิดการอภิปรายก่อน และอนุญาตให้นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคชาติไทยพัฒนา พูดได้เพียงคนเดียวประมาณ 5 นาที ซึ่งไม่ใช่ประเด็นสำคัญนัก
หลังจากนั้นนายชินวรณ์ได้เสนอปิดการอภิปรายอีกครั้ง และมีการนับองค์ประชุม ปรากฏว่ามีผู้เข้าประชุม 258 คน ซึ่งเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด นายชัยจึงให้มีการลงมติว่าจะรับหลักการร่าง พ.ร.บ.นี้หรือไม่ ปรากฏว่ามี ส.ส.ที่รับหลักการ 238 คน ไม่รับหลักการ 1 คน งดออกเสียง 4 คน ไม่ลงคะแนนเสียง 15 คน ทั้งนี้ ในระหว่างลงมติมี ส.ส.ฝ่ายค้านอยู่ในห้องประชุมไม่กี่คน เนื่องจาก ส.ส.จำนวนหนึ่งได้ตามนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทยออกไป หลังจากที่นายสุนัยถูกเชิญออกนอกห้องประชุม เพราะไม่ทำตามคำสั่งของประธานสภาที่ให้ถอนคำพูด กรณีที่นายสุนัยกล่าวหาว่าพรรคประชาธิปัตย์ชอบทำลายคนดี อย่างไรก็ตาม ถือว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2552 ผ่านการรับหลักการในวาระที่ 1
หลังจากนั้นมีการลงมติตั้งคณะกรรมการวิสามัญ 35 คน ประกอบด้วย รัฐบาล 8 คน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 27 คน แบ่งเป็นพรรคเพื่อไทย 10 ประชาธิปัตย์ 10 คน ภูมใจไทย 2 คน เพื่อแผ่นดิน 2 คน ชาติไทยพัฒนา 1 คน รวมใจไทยชาติพัฒนา+กิจสังคม 1 คน ประชาราช+ราษฎร 1 คน โดยให้คณะกรรมาธิการชุดนี้แปรญัตติให้เสร็จสิ้นภายใน 5 วัน
สำหรับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2552 จากการเสนอของรัฐบาล มีวงเงินไม่เกิน 116,700,000,000 บาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น จำนวน 97,560,523,700 บาท และสำหรับรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลังจำนวน 19,139,476,300 บาท โดยให้เหตุผลว่ารัฐบาลมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินในการดำเนินการตามนโยบายเร่ง่วนเพื่อเร่งรัดฟื้นฟูเศรษฐกิจและกระจายไปสู่ระบบเศรษฐกิจทุกภาคส่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและภาคธุรกิจ โดยลดค่าครองชีพและเพิ่มรายได้ และดำเนินการโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในชนบท