รมว.พลังงาน เรียกบอร์ด กบง.ประชุมด่วน วันนี้ ถกรับมือผลกระทบราคาน้ำมัน หลังจบมาตรการ 6 เดือน คาด ใช้เงินกองทุน 3 พันล้าน เข้าไปดูแลเสถียรภาพตลาด โดยอาจปรับขึ้นแบบขั้นบันได เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบแรงเกินไป จนกระทบความเชื่อมั่นการบริโภค
นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เพื่อหารือมาตรการรับมือผลกระทบการปรับขึ้นราคาน้ำมัน หลังจากหมดมาตรการ 6 เดือน ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 นี้ ซึ่งจะต้องยกเลิกการอุดหนุนการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันให้กับผู้ประกอบการ และจะส่งผลให้การจัดเก็นภาษีดังกล่าว ขยับขึ้นไปชนเพดานในอัตราเดิม คือ น้ำมันเบนซินจัดเก็บลิตรละ 5 บาท และน้ำมันดีเซลลิตรละ 4 บาท ของรัฐบาลในวันที่ 1 ก.พ.นี้
การประชุมในวันนี้ เป็นการหาทางออกเพื่อแบ่งเบาภาระผลกระทบที่จะตกไปสู่ประชาชน ซึ่งหากมีการปรับขึ้นในครั้งเดียว อาจทำให้ราคาปรับเพิ่มสูงเกินไป ในขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลก ยังคงปรับลงต่อเนื่อง และอาจทำให้กลไกตลาดถูกบิดเบือนมากเกินไป โดยคาดว่า กบง.อาจใช้วมาตรการปรับขึ้นแบบขั้นบันได โดบแบ่งออกเป็น 3 ครั้งๆ ละ 50 สตางค์ โดยใช้กองทุนน้ำมันเชื้องเพลิงเข้ามาดูแลจุดเหมาะสมของราคา เพื่อไม่ให้กระทบต่อความเชื่อมั่นการบริโภค
“เบื้องต้น รัฐบาลประเมินสถานการณ์ว่า อาจต้องใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ เข้ามาช่วยในการชะลอปรับขึ้นราคาน้ำมัน เนื่องจากภาษีสรรพสามิตน้ำมันอัตราใหม่ จะปรับราคาขายปลีกน้ำมันเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ซึ่งการประมาณการณ์เดิมคาดว่า ต้องใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ประมาณ 3 พันล้านบาท ก็จะปรับเพิ่มอีก 5-6 ร้อยล้านบาท รวมแล้วประมาณ 3.5-3.6 พันล้านบาท ส่วนวิธีการหรือรูปแบบที่จะใช้ชะลอการปรับขึ้นราคาน้ำมันนั้น จะมีการหารือในที่ประชุม กบง.วันนี้”
นอกจากนี้ นพ.วรรณรัตน์ ยังเชื่อว่า ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 นี้ ราคาขายปลีกน้ำมันหน้าสถานีบริการทั่วประเทศ ต้องถูกปรับราคาขึ้นแน่นอน ส่วนจะขึ้นในอัตราเท่าไรนั้น คาดว่า จะได้ความชัดเจนในวันนี้