กรมธุรกิจพลังงาน แจ้งขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมัน เจ้าของสถานีบริการ และหน่วยงานภาครัฐ ปฏิบัติตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี หลังสิ้นสุดมาตรการลดภาษีสรรพสามิต 6 เดือน 31 ม.ค.นี้ โดยคาดว่า ราคาน้ำมันทั่วประเทศจะปรับเพิ่มขึ้น ตามประกาศของ สนพ. โดยสั่งให้หยุดขายน้ำมันจนกว่า จนท.จะตรวจวัดเสร็จสิ้น เพื่อตรวจน้ำมันคงเหลือ และเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน จากส่วนต่างราคาขายปลีกที่เพิ่มขึ้น
วันนี้ (20 มกราคม 2552) กรมธุรกิจพลังงาน ได้แจ้งขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมัน เจ้าของสถานีบริการ และหน่วยงานภาครัฐ ปฏิบัติตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ในกรณีสิ้นสุดมาตรการลดภาษีสรรพสามิต ตามมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนหลังครบกำหนด 6 เดือน ในวันที่ 31 มกราคม 2552 ที่จะถึงนี้
หนังสือขอความร่วมมือ ระบุว่า ตามที่รัฐบาลได้ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จากปัญหาภาวะเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากราคาน้ำมันแพง โดยลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2551 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2552 ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 20 น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 5 ปรับลดลง ซึ่งได้มีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจวัดปริมาณน้ำมันคงเหลือ เพื่อนำมาคำนวณเงินชดเชยผลขาดทุนจากการปรับลดภาษีสรรพสามิตให้แก่ผู้ประกอบการ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2551 ที่ผ่านมา เพื่อป้องกันการหยุดจำหน่ายน้ำมันของผู้ค้าน้ำมันและสถานีบริการ
ขณะนี้ ใกล้สิ้นสุดระยะเวลา 6 เดือน ตามมาตรการดังกล่าวแล้ว และรัฐบาลไม่มีนโยบายขยายระยะเวลาของมาตรการออกไป ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง จะปรับเพิ่มขึ้น ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 ตามประกาศราคาขายปลีกของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องตรวจวัดปริมาณน้ำมันคงเหลือ ณ คลังน้ำมันของผู้ค้าน้ำมันและสถานีบริการทุกรายทั่วประเทศอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากส่วนต่างของราคาน้ำมันขายปลีกที่ปรับเพิ่มขึ้น และขอความร่วมมือให้ผู้ค้าน้ำมัน และเจ้าของสถานีบริการทุกแห่งอำนวยความสะดวก แก่เจ้าหน้าที่ของทางราชการ ที่จะเข้าไปทำการตรวจวัด ตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 31 มกราคม 2552 ดังนี้
1. หยุดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ตั้งแต่เวลา 24.00 น. จนกว่าเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจวัด
2. ตรวจสอบและลงลายมือชื่อรับรองผลการตรวจวัด
3. แจ้งปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงที่อยู่ในระหว่างการขนส่ง ที่ซื้อ หรือได้มา ก่อนเวลา 24.00 น. และมาถึงภายหลังเวลาดังกล่าว รวมทั้งน้ำมันเชื้อเพลิงที่รับฝาก (ถ้ามี) ต่อกรมธุรกิจพลังงาน อย่างช้า ไม่เกินวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2552
ดังนั้น ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจวัดสถานีบริการทุกรายที่จดทะเบียนเป็นผู้ค้าน้ำมันมาตรา 11 ต่อ ธพ. และพลังงานจังหวัดทุกจังหวัด รวมทั้ง สถานีบริการที่ไม่ได้เข้าตรวจวัดเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2551 ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่ไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจวัดปริมาณน้ำมันคงเหลือ และไม่หยุดจำหน่ายน้ำมัน ตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 31 มกราคม 2552 เป็นต้นไป จนกว่าเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจวัดเสร็จ จะมีความผิดตามพระราชกำหนดแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2516 คือ จำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท