น้ำมันโลกดิ่งลงต่อเนื่องเหลือ 36 ดอลลาร์/บาเรล แต่ราคาขายปลีกในประเทศยังนิ่ง ผู้บริหาร ปตท.ลั่น ไม่ปรับลดราคาขายปลีกในวันนี้ อ้างค่าการตลาดต่ำกว่า 1 บาท พร้อมยืนยัน ราคาน้ำมันในประเทศ ผันแปรตามราคาในตลาดโลก
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท.จะยังไม่มีการพิจารณาปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศลงในวันนี้ ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ของสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ ปิดตลาดปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 40 ดอลลาร์ต่อบาเรล ลงมาอยู่ที่ระดับ 36.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แล้วก็ตาม
นายประเสริฐ มองว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันในขณะนี้ยังคงมีความผันผวนขณะที่ค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันในปัจจุบันอยู่ที่ระดับกว่า 1 บาทต่อลิตร ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่สะท้อนความเป็นจริงมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม นายประเสริฐ ยืนยันว่า ปตท.จะติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับเปลี่ยนราคาขายปลีกในประเทศ ให้เป็นธรรมต่อผู้บริโภค
สำหรับแนวโน้มราคาขายปลีกน้ำมันในปีหน้า นายประเสริฐ ระบุว่า ราคาจะขึ้นอยู่กับปัจจัยมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันที่จะหมดอายุในเดือน มกราคม 2552 หากทางรัฐบาลไม่มีการขยายเวลาภาษีดังกล่าวออกไป ราคาน้ำมันถ้ามีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปอีก 3-4 บาทต่อลิตร รวมทั้งการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันว่าจะมีนโยบายเก็บเงินเข้ากองทุนเพิ่มขึ้นหรือลดลง
นายประเสริฐ กล่าวเสริมว่า ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศไทยผันแปรตามราคาน้ำมันในตลาดโลก ซึ่งเป็นต้นทุนหลักของผู้ประกอบการภายในประเทศ ดังนั้นราคาขายปลีกราคาน้ำมันของประเทศไทย จะเคลื่อนไหวขึ้นลงตามทิศทางของราคาน้ำมันในตลาดโลกเป็นหลัก
นอกจากนี้ นายประเสริฐ ยังกล่าวถึงกรณีที่ ปตท.เตรียมปรับขึ้นราคาก๊าซ NGV เพิ่มเป็น 11 บาทต่อกิโลกรัม ในวันที่ 1 มกราคม 2552 โดยระบุว่า กระแสข่าวดังกล่าว ไม่ใช่มติของ ปตท.ซึ่งต้องรอการหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน แต่ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดเดิม ได้อนุมัติให้ปรับขึ้นก๊าซ NGV ได้ไม่เกิน 12 บาทต่อกิโลกรัม ในปีหน้า
