บอร์ด กบง.มีมติให้เก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพิ่มรอบที่ 5 โดยเรียกเก็บจากเบนซิน 91 และแก๊สโซฮอล์ 70 สตางค์/ลิตร ส่วนดีเซล บี2 เก็บเพิ่ม 40 สตางค์/ลิตร มีผลหลังเที่ยงคืน วันนี้ ผู้บริหาร ปตท.ลุ้นให้น้ำมันโลกปรับขึ้นไปที่จุดสูงสุดอีกรอบ
มีรายงานแจ้งว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันนี้ (5 มีนาคม 2552) ที่ประชุมมีมติให้เรียกเก็บเงินจากการจำหน่ายน้ำมันเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มเติมอีก เป็นครั้งที่ 5 โดยมีผลหลังเที่ยงคืน วันนี้
ทั้งนี้ กบง.จะเรียกเก็บจากเบนซิน 91 แก๊สโซฮอลล์ 91 และแก๊สโซฮอลล์ 95 ลิตรละ 70 สตางค์ ส่วนดีเซล B2 เก็บเพิ่มลิตรละ 40 สตางค์ โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ เนื่องจากทิศทางราคาในตลาดโลกปรับลดลง โดยการเรียกเก็บเงินเพิ่มในครั้งนี้ ก็เพื่อลดภาระการชดเชยภาษีสรรพสามิตน้ำมันจาก 125 ล้านบาท ในเดือนกุมภาพันธ์ 2552 ให้ลดลงมาเหลือ 15 ล้านบาท
นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุม โดยระบุว่า การปรับเพิ่มอัตราเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ครั้งนี้ จะไม่ส่งผลต่อการขึ้นของราคาขายปลีกของราคาน้ำมัน เนื่องจากได้มีการบริหารจัดการด้วยการนำไปหักกับค่าการตลาดที่ผู้ค้าน้ำมันควรจะปรับลดราคาลงโดยที่ค่าการตลาดของผู้ค้า ณ วันที่ 5 มีนาคม 2552 ดังนี้ แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 2.22 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 2.27 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 3.03 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ 2.33 บาทต่อลิตร และดีเซลหมุนเร็ว B2 อยู่ที่ 1.84 บาทต่อลิตร ในส่วนเบนซิน 91 แม้ว่าเก็บภาษีสรรพสามิตครบแล้ว แต่เนื่องจากค่าการตลาดยังอยู่ในระดับสูง จึงต้องเก็บเพิ่ม
โดยการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ใหม่จะมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้ แก๊สโซฮอล์ 95 จากเดิมเรียกเก็บ 0.87 บาทต่อลิตร เพิ่มเป็น 1.57 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 จากเดิมเรียกเก็บ 0.27 บาทต่อลิตร เพิ่มเป็น 0.97 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ E20 จากเดิมชดเชย 1.23 บาทต่อลิตร เป็นชดเชย 0.53 บาทต่อลิตร และดีเซลหมุนเร็ว B2 จากเดิมเรียกเก็บ 1.12 บาทต่อลิตร เพิ่มเป็น 1.52 บาทต่อลิตร
นายสุรงค์ บูลกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจการค้าระหว่าประเทศ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงสถานะการณ์ราคาน้ำมัน โดยระบุว่า แนวโน้มในระยะกลางถึงระยะยาว ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะฟื้นตัวขึ้น โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง หากมาตรการกระตุ้นของรัฐบาลประเทศต่างๆ ทั่วโลกผลักดันเศรษฐกิจฟื้นตัว ความต้องการบริโภคน้ำมันจะกลับมาอีกครั้งแน่นอน
“น้ำมันเป็นตัวแปรขับเคลื่อนหลักของการขนส่งและอุตสาหกรรม โดยเฉพาะสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่เชื่อว่าราคาน้ำมันพร้อมดีดกลับขึ้นมา คาดว่า ภายใน 1-2 ปีนี้ อาจมีโอกาสเห็นราคาน้ำมันขึ้นไป 150 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อีกครั้ง”
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยลดลงอย่างมากจนเข้าใกล้ระดับต้นทุนที่ 20-30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และผู้ผลิตน้ำมันหลายแห่งลดกำลังผลิต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งถัดไปของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพื่อการส่งออก (โอเปก) ไม่น่ามีมติลดกำลังผลิตน้ำมันลงอีก เพราะกระทบรายได้ของสมาชิกโอเปกเอง