เอเจนซี - ราคาน้ำมันช่วงหนึ่งของการซื้อขายดิ่งต่ำกว่า 85 ดอลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 12 เดือน เมื่อวันพฤหัสบดี (9) สืบเนื่องจากความกังวลด้านดีมานด์ของตลาดที่มีน้ำหนักกว่ากรณีที่มีบางชาติสมาชิกของโอเปกเรียกร้องให้ลดกำลังผลิตลง
กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน แถลงว่า จะจัดประชุมฉุกเฉินในวันที่ 18 พฤศจิกายน ณ กรุงเวียนนา เพื่อหารือถึงผลกระทบจากวิกฤตการเงินต่อตลาดน้ำมัน ซึ่งช่วยกดราคาน้ำมันร่วงต่ำลงจากที่เคยทำสถิติสูงสุด 147 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนกรกฎาคม
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 2.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปิดที่ 86.59 ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงซื้อขายระหว่างวันตกลงไปที่ 84.63 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2007 ขณะที่น้ำมันดิบเบรนต์ของลอนดอน ลดลง 1.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
“เรายังคงกังวลเกี่ยวกับขนาดดีมานด์ของตลาดสถิติ (ของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ) เมื่อวานนี้ (8) ที่ลดน้อยลง” ทิม อีแวนส์ นักวิเคราะห์จากซิตีฟิวเจอร์สเพอร์สเพคทีฟ กล่าว
สต๊อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ดีมานด์ของชาติผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกแห่งนี้ยังเฉื่อยชาต่อเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจและราคาน้ำมันที่แพง
ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 เมื่อวันพฤหัสบดี (9) โดยเฉพาะดาวโจนส์ที่ทรุดลงต่ำกว่า 9,000 จุด เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 5 ปี ปิดที่ 8,879.19 จุด ขณะที่นักลงทุนกังวลต่อความเคลื่อนไหวของรัฐบาลทั่วโลกที่ร่วมกันละลายวิกฤตตลาดสินเชื่อที่อาจไม่เพียงพอช่วยให้โลกหลีกพ้นสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
นักวิเคราะห์ กล่าวว่า แม้เมื่อวันพุธ (8) ธนาคารกลางของชาติๆทั่วโลกร่วมมือกันลดอัตราดอกเบี้ยลงและออกมาตรการอื่นๆ เพื่อสร้างความสงบให้กับนักลงทุน แต่ยังมีสัญญาณเหลือล้นว่าตลาดสินเชื่อยังคงติดขัด