xs
xsm
sm
md
lg

หุ้น BECL บวกรับผลชี้ขาดคดีความ กทพ.จ่ายส่วนแบ่งรายได้ 3.9 พัน ล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นักลงทุนเข้าซื้อหุ้น BECL ดันราคาบวก 40 สตางค์ หรือ 2.56% หลังอนุญาโตตุลาการ ชี้ขาดข้อข้อพิพาทบริษัทกับคู่สัญญา ส่งให้ได้รับส่วนแบ่งรายได้พร้อมดอกเบี้ย จาก กทพ.เป็นเงินกว่า 3,831 ล้านบาท และดอกเบี้ยนับจาก 1 ก.ค.44 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระให้บริษัทเสร็จสิ้น

ราคาหุ้น บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BECL) วานนี้ พบว่า มีแรงซื้อเข้ามาตั้งแต่เปิดตลาด ก่อนปิดตลาดช่วงเช้าที่ราคา 15.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 1.92% มูลค่าซื้อขาย 9.81 ล้านบาท และแรงซื้อมีเข้ามาต่อเนื่องในช่วงบ่าย ก่อนปิดตลาดที่ราคา 16 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 2.56% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 28.65 ล้านบาท

นางพเยาว์ มริตตนะพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BECL) แจ้งว่า บริษัทได้ก่อสร้างทางพิเศษศรีรัช ในพื้นที่ส่วนแรกแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2535 ซึ่งตามสัญญากำหนดว่า วันที่มีการก่อสร้างในพื้นที่ส่วนแรกแล้วเสร็จ ถือว่าเป็นวันเปิดใช้งานของพื้นที่ส่วนแรก และบริษัทมีสิทธิได้รับส่วนแบ่งรายได้ค่าผ่านทางของทางด่วนโครงข่ายในเขตเมืองตั้งแต่วันดังกล่าวเป็นต้นไป แต่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้เริ่มแบ่งรายได้ค่าผ่านทางให้บริษัท เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2536 ทําให้บริษัทสูญเสียรายได้ที่ควรได้รับตามสัญญา

บริษัทจึงได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการเรียกร้องให้ กทพ.ทำการชดเชยรายได้ค่าผ่านทางของทางด่วนโครงข่ายในเขตเมืองระหว่างวันที่ 13 พฤศจิกายน 2535 ถึงวันที่ 2 กันยายน 2536 พร้อมดอกเบี้ยตามสัญญาข้อ 25.6 ให้แก่บริษัทนั้น

โดย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2551 คณะอนุญาโตตุลาการได้มีคำชี้ขาดข้อพิพาทดังกล่าว โดยให้ กทพ.ชำระเงินส่วนแบ่งรายได้ค่าผ่านทางของทางด่วนโครงข่ายในเขตเมืองให้แก่บริษัท สำหรับช่วงเวลาระหว่างวันที่ 13 พฤศจิกายน 2535 ถึงวันที่ 2 กันยายน 2536 รวมเป็นเงิน 1,974,638,648 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราที่กำหนดในสัญญาจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2544 เป็นเงิน 1,856,840,006 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,831,478,654 บาท และดอกเบี้ยนับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2544 เป็นต้นไป จนกว่า กทพ.จะชำระให้บริษัทเสร็จสิ้น

ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 บริษัทสามารถยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอํานาจภายใน 3 ปี นับแต่วันที่อาจบังคับตามคําชี้ขาดได้ เพื่อให้ศาลทําการบังคับตามคําชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ในขณะที่ กทพ.อาจขอให้ศาลเพิกถอนคำชี้ขาดได้ โดยยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำชี้ขาด
กำลังโหลดความคิดเห็น