ก.ล.ต.เดินหน้าตรวจสอบ เอส.อี.ซี ออโต้เซลล์ – ปิคนิค ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจค้นสถานที่ทำการ 4 แห่ง ยึด-อายัดหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำตามผิดตามกฎหมายหลักทรัพย์ พร้อมเปิดรับความเห็น 2 กรณี การกำหนดประเภทธุรกรรม และหลักเกณฑ์ทรัสตี ก่อนนำ "ทรัสต์" มาประยุกต์ใช้ หวังเป็นเครื่องมือใหม่ในการจัดการทรัพย์สิน ช่วยแก้ไขข้อจำกัดในการระดมทุน เพื่อพัฒนาตลาดทุนไทยให้มีประสิทธิภาพ ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ ตั้งแต่วันนี้ถึง 16 ก.พ. นี้
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เร่งตรวจสอบหลักฐานในกรณีการกระทำที่อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท เอส.อี.ซี ออโต้เซลล์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ SECC และ บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNIC และบริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด โดยได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าตรวจค้นสถานที่ทำการหลายแห่ง และได้ยึดและอายัดเอกสารหลักฐานที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนสอบสวนการกระทำผิดตามกฎหมายหลักทรัพย์
ทั้งนี้ เมื่อ วันที่ 22 มกราคม 2552 เจ้าหน้าที่ ก.ล.ต.จำนวน 30 คน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติกว่า 30 นาย ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท. สมคิด บุญถนอม กระจายกำลังเข้าตรวจค้นสถานที่ทำการ 4 แห่ง ย่านศรีนครินทร์และหลักสี่ ตามหมายค้นที่ได้รับอนุมัติจากศาลอาญา โดยได้ยึดและอายัดเอกสารหลักฐานที่อาจเกี่ยวข้องกับการกระทำที่มีเหตุต้องสงสัยกรณีการทุจริต หรือการสร้างราคาหลักทรัพย์ หรือเรื่องอื่นๆ ที่อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายหลักทรัพย์ ซึ่งสำนักงาน ก.ล.ต. จะได้นำหลักฐานที่ยึดและอายัดได้ในครั้งนี้มาประกอบการพิจารณาดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนร่วมในการกระทำผิดต่อไป
นอกจากนี้ ก.ล.ต.ยังแจ้งเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การประยุกต์ใช้ทรัสต์กับตลาดทุนเพื่อให้การพัฒนาตลาดทุนไทยมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเปิดรับฟังความคิดเห็นจนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2552
ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถนำทรัสต์มาใช้กับตลาดทุนได้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องต่อการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชน ตามที่พระราชบัญญัติทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน พ.ศ. 2550 ได้สร้างเครื่องมือใหม่ในการจัดการทรัพย์สินอีกลักษณะหนึ่งที่เรียกว่า "ทรัสต์" โดยกลไกของทรัสต์สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับธุรกรรมในตลาดทุนได้หลากหลายประเภท เช่น ในการออกหลักทรัพย์ การใช้ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trust: REIT) และการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ (securitization) เป็นต้น
การประยุกต์ใช้ทรัสต์กับตลาดทุนเป็นพัฒนาการที่สำคัญของตลาดทุนอีกก้าวหนึ่ง ซึ่งจะช่วยแก้ไขข้อจำกัดบางประการในการระดมทุน และสามารถสร้างรูปแบบการลงทุนที่เป็นทางเลือกใหม่ได้อีกด้วย สำนักงาน ก.ล.ต. จึงได้จัดทำหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการใช้ทรัสต์ในตลาดทุน และเปิดรับฟังความคิดเห็นในสองเรื่อง ได้แก่
1. การกำหนดประเภทของธุรกรรมในตลาดทุนที่จะนำทรัสต์มาใช้ เพื่อให้การใช้ทรัสต์มีประสิทธิภาพและไม่เป็นช่องทางเลี่ยงเพื่อให้สามารถถือครองทรัพย์สินที่เป็นกรณีต้องห้ามตามกฎหมายอื่นได้
2. หลักเกณฑ์การให้ความเห็นชอบบุคคลที่ให้บริการเป็นทรัสตี ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการทรัพย์สินในกองทรัสต์ จึงต้องเป็นผู้มีความสามารถและมีความรับผิดชอบสูง โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
ผู้ที่เกี่ยวข้องและบุคคลที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดของเรื่องดังกล่าวและแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ www.sec.or.th หรือทางโทรสารหมายเลข 0-2263-6291 หรือทาง e-mail ที่ inva@sec.or.th ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2552
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เร่งตรวจสอบหลักฐานในกรณีการกระทำที่อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท เอส.อี.ซี ออโต้เซลล์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ SECC และ บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNIC และบริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด โดยได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าตรวจค้นสถานที่ทำการหลายแห่ง และได้ยึดและอายัดเอกสารหลักฐานที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนสอบสวนการกระทำผิดตามกฎหมายหลักทรัพย์
ทั้งนี้ เมื่อ วันที่ 22 มกราคม 2552 เจ้าหน้าที่ ก.ล.ต.จำนวน 30 คน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติกว่า 30 นาย ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท. สมคิด บุญถนอม กระจายกำลังเข้าตรวจค้นสถานที่ทำการ 4 แห่ง ย่านศรีนครินทร์และหลักสี่ ตามหมายค้นที่ได้รับอนุมัติจากศาลอาญา โดยได้ยึดและอายัดเอกสารหลักฐานที่อาจเกี่ยวข้องกับการกระทำที่มีเหตุต้องสงสัยกรณีการทุจริต หรือการสร้างราคาหลักทรัพย์ หรือเรื่องอื่นๆ ที่อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายหลักทรัพย์ ซึ่งสำนักงาน ก.ล.ต. จะได้นำหลักฐานที่ยึดและอายัดได้ในครั้งนี้มาประกอบการพิจารณาดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนร่วมในการกระทำผิดต่อไป
นอกจากนี้ ก.ล.ต.ยังแจ้งเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การประยุกต์ใช้ทรัสต์กับตลาดทุนเพื่อให้การพัฒนาตลาดทุนไทยมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเปิดรับฟังความคิดเห็นจนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2552
ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถนำทรัสต์มาใช้กับตลาดทุนได้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องต่อการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชน ตามที่พระราชบัญญัติทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน พ.ศ. 2550 ได้สร้างเครื่องมือใหม่ในการจัดการทรัพย์สินอีกลักษณะหนึ่งที่เรียกว่า "ทรัสต์" โดยกลไกของทรัสต์สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับธุรกรรมในตลาดทุนได้หลากหลายประเภท เช่น ในการออกหลักทรัพย์ การใช้ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trust: REIT) และการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ (securitization) เป็นต้น
การประยุกต์ใช้ทรัสต์กับตลาดทุนเป็นพัฒนาการที่สำคัญของตลาดทุนอีกก้าวหนึ่ง ซึ่งจะช่วยแก้ไขข้อจำกัดบางประการในการระดมทุน และสามารถสร้างรูปแบบการลงทุนที่เป็นทางเลือกใหม่ได้อีกด้วย สำนักงาน ก.ล.ต. จึงได้จัดทำหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการใช้ทรัสต์ในตลาดทุน และเปิดรับฟังความคิดเห็นในสองเรื่อง ได้แก่
1. การกำหนดประเภทของธุรกรรมในตลาดทุนที่จะนำทรัสต์มาใช้ เพื่อให้การใช้ทรัสต์มีประสิทธิภาพและไม่เป็นช่องทางเลี่ยงเพื่อให้สามารถถือครองทรัพย์สินที่เป็นกรณีต้องห้ามตามกฎหมายอื่นได้
2. หลักเกณฑ์การให้ความเห็นชอบบุคคลที่ให้บริการเป็นทรัสตี ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการทรัพย์สินในกองทรัสต์ จึงต้องเป็นผู้มีความสามารถและมีความรับผิดชอบสูง โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
ผู้ที่เกี่ยวข้องและบุคคลที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดของเรื่องดังกล่าวและแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ www.sec.or.th หรือทางโทรสารหมายเลข 0-2263-6291 หรือทาง e-mail ที่ inva@sec.or.th ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2552