xs
xsm
sm
md
lg

ผลประชุม กนง.วันที่ 14 ม.ค.นี้ ชี้ชะตาเงินบาท-ตลาดหุ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์วิจัยกสิกรฯ แนะจับตาผลประชุม กนง.วันที่ 14 ม.ค.นี้ ชี้ชะตาค่าเงินบาท-ตลาดหุ้นไทย รวมถึงความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล พร้อมประเมินทิศทางค่าเงินดอลลาร์ และนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลังตัวเลขว่างงานพุ่งสูงสุดรอบ 63 ปี

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวถึงภาวะตลาดเงินและตลาดทุนในสัปดาห์แรกของปี 2552 ระบุว่า ค่าเงินบาทในประเทศ (Onshore) ปรับตัวอย่างผันผวนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แม้มีแรงขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯของผู้ส่งออก แต่เงินบาทกลับปรับตัวอ่อนค่าลงตามปัจจัยทางเทคนิคในช่วงต้นสัปดาห์ ท่ามกลางความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุนจากความหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

นอกจากนี้ เงินบาทยังถูกกดดันจากการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เงินบาทดีดตัวกลับมาแข็งค่าขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์หลังจากนักลงทุนบางส่วนเทขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อทำกำไร แต่การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากความวิตกต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ยังคงเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนขายหุ้นและสกุลเงินในเอเชีย เพื่อปรับลดสถานะการลงทุนที่มีความเสี่ยง

ศูนย์วิจัยกสิกรฯ ยังคาดการณ์ว่า ในสัปดาห์หน้า (12-16 ม.ค.) ค่าเงินบาทในประเทศอาจเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.70-35.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยปัจจัยที่ควรจับตา คือ ผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 14 มกราคม 2552 นี้ รวมถึงความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ตลอดจนทิศทางของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ส่วนภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 459.06 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.02 จาก 449.96 จุด ณ สิ้นปี 2551 ขณะที่มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสัปดาห์เพิ่มขึ้นร้อยละ 574.03 จาก 11,707.85 ล้านบาท ในสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 78,914.42 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่เพิ่มขึ้นจาก 5,853.93 ล้านบาท ในสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 15,782.88 ล้านบาท โดยนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิที่ 1,518.19 ล้านบาท และ 514.25 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 2,032.43 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 172.15 จุด ปรับตัวขึ้นร้อยละ 5.66 จาก 162.93 จุด ณ สิ้นปีก่อน

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล นอกจากนี้ ดัชนียังปรับตัวตามทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศ สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์หน้า (12-16 ม.ค.) คาดว่า ดัชนีน่าจะแกว่งตัวผันผวนอยู่ในกรอบแคบๆ ตามปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ

ขณะที่นักลงทุนคงจะจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของ กนง.รวมถึงการประกาศรายละเอียดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และประเด็นทางการเมือง โดยคาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 455 และ 429 จุด ขณะที่แนวต้าน คาดว่า จะอยู่ที่ 478 และ 520 จุด ตามลำดับ
กำลังโหลดความคิดเห็น