xs
xsm
sm
md
lg

ทหารไทยชี้สัญญาณ NPL ปีหน้าพุ่ง รับเลื่อนขายหนี้เน่าเหตุ ศก.ไม่เอื้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แบงก์ทหารไทย เลื่อนขายหนี้เอ็นพีแอลและเอ็นพีเอหลังเศรษฐกิจชะลอ ชี้ปีหน้าสัญญาณเอ็นพีแอลเพิ่มแน่ คาด กนง.มีมติปรับลดดอกเบี้ย 0.25-0.50% ด้าน บสก.เผยยังตั้งใจเข้าซื้อหนี้จากทหารไทย แต่เชื่อจบไม่ทันปีนี้ ชี้สัญญาณแบงก์ต่างๆแห่หายหนี้เสียมีมากขึ้น

นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB เปิดเผยถึงแผนการขายหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) และทรัพย์สินรอการขาย (เอ็นพีเอ) จำนวน 35,000 ล้านบาท ของธนาคารว่าน่าจะเลื่อนออกไปเป็นปี 2552 จากเดิมที่คาดว่าจะสามารถจำหน่ายออกไปได้ปลายปีนี้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอลงทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านราคาและมีผู้สนใจเข้ามาซื้อมากขึ้น

ส่วนสัญญาณเอ็นพีแอลเกิดใหม่ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ และในปีหน้าอาจจะมีเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งกลุ่มที่จะมีโอกาสเป็นเอ็นพีแอล คือ กลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) แต่ธนาคารก็ได้ตั้งสำรองตามคุณภาพสินทรัพย์อยู่แล้วจึงไม่น่าห่วงแต่อย่างใด

สำหรับการยืดเยื้อของสถานการณ์ทางการเมืองและการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมืองนั้นได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยส่งผลกระทบต่อลูกค้ากลุ่มส่งออกที่ต้องส่งสินค้าผ่านทางเครื่องบิน แต่ในส่วนลูกค้าของธนาคารเองก็ได้รับผลกระทบระดับหนึ่งซึ่งจะเป็นในกลุ่มของโรงแรม แต่ธนาคารก็ได้ให้ความช่วยเหลือในการด้านกระแสเงินสดเป็นอันดับแรก และหลังจากนั้น เชื่อว่า จะต้องเป็นความร่วมมือจากภาครัฐและธนาคารพาณิชย์ที่จะเข้ามาช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบอาจจะเป็นลักษณะของการตั้งกองทุน หรือรูปแบบอื่นๆเช่นเดียวกับกรณีที่ช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบภัยสึนามิ

นายบุญทักษ์ ยังกล่าวอีกว่า ธนาคารยังคงมีแผนเดินทางไปแสดงข้อมูลให้กับนักลงทุนในต่างประเทศในช่วงปีหน้าเช่นเดิม เพราะว่าการแสดงข้อมูลที่ถูกต้องให้กับนักลงทุนเป็นเรื่องที่สำคัญ

ส่วนกรณีของไอเอ็นจีกรุ๊ปที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารก็ยังยืนยันแผนการลงทุนในธนาคารตามที่ได้เคยกล่าวไปแล้วหลายครั้ง เนื่องจากยังมั่นใจพื้นฐานระยะยาวของประเทศไทย

ส่วนในเรื่องการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 3 ธันวาคมนี้คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25-0.50% ตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ที่ส่งให้เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัวตามมาด้วย อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันก็ได้ปรับลดลงมากแล้วตามราคาน้ำมันที่อยู่ต่ำกว่า 50 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ซึ่งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงก็จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจได้

ล่าสุด ธนาคารได้ร่วมมือกับบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ลงนามในสัญญาความร่วมมือแพ็คเก็จทางการเงินเต็มรูปแบบ (Total Financial Solution Package) ครอบคลุมสินเชื่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง (Working Capital) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ การบริการ Cash Management และสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการสถานีน้ำมันบางจากกว่า 1,500 ล้านบาท

สำหรับการเสนอความร่วมมือทางการเงินนี้เป็นการให้บริการแบบครบวงจร นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีแบบไม่มีหลักประกันวงเงินรวมประมาณ 100 ล้านบาทให้กับผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการซื้อน้ำมันหรือผลิตภัณฑ์ของบางจากฯผ่านช่องทางธุรกรรมระบบ Dill Payment ของธนาคาร

ทั้งนี้ การให้บริการนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นของบริการทางการเงินที่ครอบคลุมความต้องการทางการเงินของธุรกิจ Suply Chain ซึ่งเป็นการสร้างบรรทัดฐานในการให้บริการของธนาคาร

**บสก.คาดซื้อหนี้ TMB เสร็จไม่ทันปีนี้**

ด้าน นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่าล่าสุดธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB ได้ให้บสก.เสนอเงื่อนไขในการประมูล ซื้อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท และสินทรัพย์รอการขาย (NPA) มูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่ง บสก.ก็เสนอเงื่อนไขที่เป็นไปได้และมีความยืดหยุ่นในการทำธุรกิจเข้าไป และทาง TMB ก็รับข้อเสนอและจะเชิญให้ บสก.เข้าไปรับฟังเงื่อนไขอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นช่วงต้นปีหน้า

“บสก.ก็มีความตั้งใจที่จะเข้าไปประมูลก็คาดว่าจะไม่ทันปีนี้ เพราะยังต้องรอข้อมูลอีกบางส่วนราคาที่เราเสนอก็ปกติ ถ้าคิดว่ารับได้ในเงื่อนไขที่ปฏิบัติได้เราก็เข้าไปนอกจากนี้ในส่วนของสถาบันการเงินอื่นๆ ที่ บสก.กำลังเจรจาอยู่ก็มีเอไอจีและสถาบันการเงินต่างประเทศ แต่เป็นพอร์ตไม่ใหญ่มาก” นายบรรยง กล่าว

สำหรับรายได้รวมของ บสก.ปีนี้ ยังเชื่อว่า จะได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 11,700 ล้านบาท โดยล่าสุดสิ้นเดือน พ.ย.บสก.ทำรายได้รวมทั้งสิ้น 11,200 ล้านบาท ขาดอีกเพียง 500 ล้านบาท ก็คาดว่าจะได้ไม่ยากเพราะก่อนหน้านี้ในช่วงเดือน ต.ค. บสก.ได้จัดงานส่งเสริมการขายไปและก็ยังมียอดโอนเข้ามาอย่างต่อเนื่องจนถึงเดือนนี้

ส่วนปีหน้าคาดว่าหากคำนวณตามเดิม คาดว่า กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จะตั้งเป้ารายได้รวมของบ ส.ก.ไว้ที่ 11,730 ล้านบาท ซึ่งก็ถือเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย เพราะภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอาจมีผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคแต่บสก.ก็จะใช้กลยุทธ์โดยการจัดงานส่งเสริมการขายมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าธนาคารพาณิชย์ต่างๆมองว่าสัญญาณการเกิด NPL ใหม่จะเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นเหตุให้เริ่มมีการขาย NPL ที่ค้างอยู่ออกมาซึ่ง บสก.เองก็ยังสามารถซื้อหนี้ได้ต่อเนื่องแม้ปีนี้ยอดซื้อทรัพย์จะเกินเป้าหมายที่กำหนดแล้วก็ตาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า TMB ตั้งเป้าหากสามารถขาย NPA และ NPL จำนวน 3.5 หมื่นล้านบาทได้ภายในปีนี้จะสามารถลดหนี้ก่อนหักสำรองเหลือ 9% จากปัจจุบันอยู่ 14% ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น