ท่าอากาศยานไทย รับอานิสงส์เงินทดแทนจากบริษัทเอกชนที่รับสัมปทานตามสำสั่งศาลแพ่งมูลค่ากว่า 8.3 พันล้านบาท ส่งผลให้ปี 51 กำไรสุทธิรวม 7.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 571% ขณะที่รายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท
นางจิราพร เชมนะสิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานแผนงานและการเงิน บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT กล่าวถึง ผลการดำเนินงานประจำปี สิ้นสุด 30 กันยายน 2551 ว่า บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิรวม 7,321.05 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 5.12 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,089.76 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.76 บาท หรือมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 6,231.29 ล้านบาท คิดเป็น 571.80%
โดยบริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการดำเนินงานรวม 22,010.87 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรวม 18,515.89 ล้านบาท กำไรจากการดำเนินงาน 3,494.98 ล้านบาท กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษีเงินได้นิติบุคคล และส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย 11,324.49 ล้านบาท
สำหรับสาเหตุหลักของการเพิ่มขึ้นของผลประกอบการ เนื่องจากเมื่อวันที่ 31 มกราคม และ 25 เมษายน 2551 ศาลแพ่งได้พิเคราะห์คดีระหว่างบริษัทกับบริษัทเอกชนสองราย ที่ได้รับสัมปทานให้ประกอบการโครงการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรและโครงการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ โดยมีคำสั่งให้บริษัททั้ง 21 แห่งชำระเงินค่าทดแทนต่างๆ ให้แก่บริษัทจำนวน 8,331.54 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้บันทักไว้ในงบการเงินเรียบร้อยแล้ว
ด้านรายละเอียดของรายได้นั้น บริษัทมีรายได้ที่เกี่ยวกับกิจการบิน (Aeronautical Revenues) 15,065.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,919.14 ล้านบาท หรือ 14.60% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณจราจรทางอากาศรวม 6 ท่าอากาศยาน โดยจำนวนเที่ยวบิน ผู้โดยสาร และปริมาณสินค้า เพิ่มขึ้น 0.96% , 4.08% และ 5.74% ตามลำดับ
ขณะที่ปริมาณจราจรทางอากาศของสายการบินราคาประหยัด มีสัดส่วนของเที่ยวบิน 26.50% เมื่อเทียบกับปริมาณเที่ยวบินรวม ลดลงจากปีก่อน 0.70% แต่จำนวนผู้โดยสารที่มีสัดส่วน 21.30% เมื่อเทียบกับปริมาณผู้โดยสารรวม เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.20%
พร้อมกันนี้ จากการปรับเพิ่มอัตราค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2550 และปรับเพิ่มอัตราค่าธรรมเนียมสนามบิน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2550 ส่งผลให้รายได้ค่าธรรมเนียมสนามบิน 4,216.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 278.95 ล้านบาท หรือ 7.08% รายได้ค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน 10,417.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,635.54 ล้านบาท หรือ 18.62% และรายได้เครื่องอำนวยความสะดวก 431.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.65 ล้านบาท หรือ 1.09%
ส่วนรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการบิน (Non - Aeronautical Revenues) จำนวน 6,945.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 590.32 ล้านบาท หรือ 9.29% ประกอบด้วย รายได้ค่าเช่าสำนักงานและอสังหาริมทรัพย์ 1,480.64 ล้านบาท ลดลง 43.96 ล้านบาท หรือ 2.88% รายได้เกี่ยวกับบริการ 3,164.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 345.75 ล้านบาท หรือ 12.27% และรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ 2,300.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 288.53 ล้านบาท หรือ 14.34%
ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 18,515.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 511.21 ล้านบาท หรือ 2.84% ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายพนักงาน 3,909.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 981.16 ล้านบาท หรือ 33.51% ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน 5,100.31 ล้านบาท ลดลง 629.82 ล้านบาท หรือ 10.99% ค่าซ่อมแซม 683.96 ล้านบาท ลดลง 48.42 ล้านบาท หรือ 6.61% ค่าตอบแทนการใช้ที่ราชพัสดุ 955.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109.41 ล้านบาท หรือ 12.93% และค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินและค่าตัดจำหน่าย 7,866.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98.88 ล้านบาท หรือ 1.27%
นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้อื่น 9,166.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,180.81 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้ค่าทดแทนตามคำสั่งศาลแพ่ง 8,331.54 ล้านบาท ดอกเบี้ยรับและอื่นๆ ลดลง 150.73 ล้านบาท ขณะที่ค่าใช้จ่ายอื่นรวม 1,354.13 ล้านบาท
สำหรับฐานะทางการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน 51 บริษัทและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวม 146,455.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2,988.99 ล้านบาท หรือ 2.08% หนี้สินรวม 70,147.58 ล้านบาท ลดลง 3,642.17 ล้านบาท หรือ 4.94% และส่วนของผู้ถือหุ้น 76,308.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,631.16 ล้านบาท หรือ 9.52%
นางจิราพร เชมนะสิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานแผนงานและการเงิน บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT กล่าวถึง ผลการดำเนินงานประจำปี สิ้นสุด 30 กันยายน 2551 ว่า บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิรวม 7,321.05 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 5.12 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,089.76 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.76 บาท หรือมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 6,231.29 ล้านบาท คิดเป็น 571.80%
โดยบริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการดำเนินงานรวม 22,010.87 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรวม 18,515.89 ล้านบาท กำไรจากการดำเนินงาน 3,494.98 ล้านบาท กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษีเงินได้นิติบุคคล และส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย 11,324.49 ล้านบาท
สำหรับสาเหตุหลักของการเพิ่มขึ้นของผลประกอบการ เนื่องจากเมื่อวันที่ 31 มกราคม และ 25 เมษายน 2551 ศาลแพ่งได้พิเคราะห์คดีระหว่างบริษัทกับบริษัทเอกชนสองราย ที่ได้รับสัมปทานให้ประกอบการโครงการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรและโครงการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ โดยมีคำสั่งให้บริษัททั้ง 21 แห่งชำระเงินค่าทดแทนต่างๆ ให้แก่บริษัทจำนวน 8,331.54 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้บันทักไว้ในงบการเงินเรียบร้อยแล้ว
ด้านรายละเอียดของรายได้นั้น บริษัทมีรายได้ที่เกี่ยวกับกิจการบิน (Aeronautical Revenues) 15,065.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,919.14 ล้านบาท หรือ 14.60% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณจราจรทางอากาศรวม 6 ท่าอากาศยาน โดยจำนวนเที่ยวบิน ผู้โดยสาร และปริมาณสินค้า เพิ่มขึ้น 0.96% , 4.08% และ 5.74% ตามลำดับ
ขณะที่ปริมาณจราจรทางอากาศของสายการบินราคาประหยัด มีสัดส่วนของเที่ยวบิน 26.50% เมื่อเทียบกับปริมาณเที่ยวบินรวม ลดลงจากปีก่อน 0.70% แต่จำนวนผู้โดยสารที่มีสัดส่วน 21.30% เมื่อเทียบกับปริมาณผู้โดยสารรวม เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.20%
พร้อมกันนี้ จากการปรับเพิ่มอัตราค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2550 และปรับเพิ่มอัตราค่าธรรมเนียมสนามบิน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2550 ส่งผลให้รายได้ค่าธรรมเนียมสนามบิน 4,216.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 278.95 ล้านบาท หรือ 7.08% รายได้ค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน 10,417.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,635.54 ล้านบาท หรือ 18.62% และรายได้เครื่องอำนวยความสะดวก 431.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.65 ล้านบาท หรือ 1.09%
ส่วนรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการบิน (Non - Aeronautical Revenues) จำนวน 6,945.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 590.32 ล้านบาท หรือ 9.29% ประกอบด้วย รายได้ค่าเช่าสำนักงานและอสังหาริมทรัพย์ 1,480.64 ล้านบาท ลดลง 43.96 ล้านบาท หรือ 2.88% รายได้เกี่ยวกับบริการ 3,164.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 345.75 ล้านบาท หรือ 12.27% และรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ 2,300.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 288.53 ล้านบาท หรือ 14.34%
ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 18,515.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 511.21 ล้านบาท หรือ 2.84% ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายพนักงาน 3,909.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 981.16 ล้านบาท หรือ 33.51% ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน 5,100.31 ล้านบาท ลดลง 629.82 ล้านบาท หรือ 10.99% ค่าซ่อมแซม 683.96 ล้านบาท ลดลง 48.42 ล้านบาท หรือ 6.61% ค่าตอบแทนการใช้ที่ราชพัสดุ 955.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109.41 ล้านบาท หรือ 12.93% และค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินและค่าตัดจำหน่าย 7,866.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98.88 ล้านบาท หรือ 1.27%
นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้อื่น 9,166.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,180.81 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้ค่าทดแทนตามคำสั่งศาลแพ่ง 8,331.54 ล้านบาท ดอกเบี้ยรับและอื่นๆ ลดลง 150.73 ล้านบาท ขณะที่ค่าใช้จ่ายอื่นรวม 1,354.13 ล้านบาท
สำหรับฐานะทางการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน 51 บริษัทและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวม 146,455.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2,988.99 ล้านบาท หรือ 2.08% หนี้สินรวม 70,147.58 ล้านบาท ลดลง 3,642.17 ล้านบาท หรือ 4.94% และส่วนของผู้ถือหุ้น 76,308.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,631.16 ล้านบาท หรือ 9.52%