กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลแถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 3 เติบโตขึ้น 15 % โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวม (APE) สูงถึง 2,302 ล้านปอนด์ ท่ามกลางภาวะที่ตลาดมีความผันผวนในช่วงที่ผ่านมา ส่วนในประเทศไทยมีเบี้ยประกันภัยรับรวม (Total Premium) ตาม รายงานของสมาคมประกันชีวิตไทย เติบโตขึ้นถึง 31% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา
มร. มาร์ค ทัคเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล กล่าวว่า กลุ่มพรูเด็นเชียลยังมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ในช่วง 9 เดือนแรกของปีมีเบี้ยประกันภัยรับรวมจำนวน (APE) 2,302 ล้านปอนด์ เพิ่มขึ้นถึง 15 % ภายใต้รูปแบบการดำเนินธุรกิจหลายรูปแบบ ทำให้เราเติบโตในทุกตลาด และสำหรับในตลาดภูมิภาคเอเชียเติบโตขึ้น 9 % แต่หากไม่นับรวมไต้หวันที่แคมเปญ What’s your number ประสบความสำเร็จอย่างมากซึ่งทำให้ผลการดำเนินงานในปี 2007 เติบโตอย่างก้าวกระโดดนั้น ในภูมิภาคเอเชียจะมีอัตราความเติบโตสูงถึง 21 %
นอกจากนี้ธุรกิจในภูมิภาคอื่นๆ ผลประกอบการโดยรวมของทั้งกลุ่มเป็นที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตามธุรกิจใหม่ในไตรมาส ที่ 3 มีอัตราการเติบโตที่ลดลง เนื่องมาจากสถานการณ์ทางการเงินของโลก และจากเหตุการณ์ที่กลุ่มบริษัทประกันขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกาที่ทราบกันดีอยู่แล้วกำลังเผชิญความยุ่งยากอยู่ จึงเป็นการยากที่ในปีนี้พรูเด็นเชียลจะบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่วางไว้เดิมว่าจะสร้างผลกำไรธุรกิจใหม่ในปี 2551 ให้ได้เป็นสองเท่าของปี 2548 ก่อน กำหนด 1 ปี แต่ทว่าเรายังคงมุ่งมั่นที่จะพิชิตเป้าหมายดังกล่าวให้ได้ภายในปี 2552 ตามที่ได้กำหนดไว้แต่เดิม
เงินกองทุนส่วนที่เกินกว่าภาระผูกพันต่อผู้เอาประกัน (IGD) ของกลุ่มพรูเด็นเชียล ณ 30 กันยายน 2551 มีประมาณ 1,200 ล้านปอนด์ แม้ว่าในกรณีเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสูงในทางด้านสถานการณ์การเงินต่างๆ ซึ่งหากประมาณการว่าผลกระทบสูงถึง 40 % โดยเทียบกับสภาวะตลาดในช่วงวันที่ 17 ตุลาคม 2551 ก็จะกระทบเงินกอง ทุนส่วนที่เกินกว่าภาระผูกพันต่อผู้เอาประกัน (IGD) คิดเป็นมูลค่าเพียง 250 ล้านปอนด์เท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่มีความซับซ้อนและผันผวน กลุ่มพรูเด็นเชียลยังคงความเข้มแข็งและมีความมั่นคง
"ผมมั่นใจว่าด้วยการผสมผสานระหว่างกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์เพื่อการเกษียณอายุ และการผสมผสานกลยุทธ์ทางธุรกิจต่างๆ ทำให้พรูเด็นเชียลอยู่ในฐานะที่พร้อมในการรักษาผลการดำเนินงานที่โดดเด่นและประสบความสำเร็จด้วยดีในการแข่งขันทางธุรกิจต่อไปในอนาคต”
สำหรับพรูเด็นเชียล ประเทศไทย มร. มาร์คเปิดเผยผลการดำเนินงานรวม 9 เดือน โดยรวมผลงานจากทุกช่องทางมีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวม (Total Premium) สูงขึ้น 31 % จึงทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ สามารถเติบโตได้มากกว่าอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวมในภาคธุรกิจประกันชีวิตที่เติบโตขึ้น 11 % ตามรายงานของสมาคมประกันชีวิตไทย
โดยล่าสุดได้ส่งแบบประกันชีวิตใหม่ล่าสุด 2 แบบลงสู่ตลาดเกษียณอายุ ได้แก่ “PRUsmile retirement 225” จุดเด่นที่ผู้เอาประกันจะได้รับผลประโยชน์ตลอดอายุสัญญาสูงถึง 225 % โดยจะได้รับเงินคืนเป็นรายปี ในช่วงตั้งแต่อายุ 55-64 ปี และจะได้รับเงินคืนเต็ม 100 % เมื่ออายุครบ 65 ปี และสำหรับผู้ที่ต้องการชำระเบี้ยประกันระยะสั้น แต่ต้องการรับความความคุ้มครองระยะยาว บริษัทฯ เสนอ PRUextra saving life ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เกษียณอายุที่ให้ความคุ้มครองเต็มร้อยถึงอายุ 80 ปี โดยชำระเบี้ยประกันภัยเพียง 7 ปี ซึ่งจะได้รับเงินคืนถึง 30 % ของทุนประกันภัย เมื่ออายุครบ 60 และ 70 ปี และได้รับเงินคืนเมื่ออายุ 80 ปี อีกถึง 40 % ของทุนประกันภัย แผนประกันทั้ง 2 แบบ เป็นการวางแผนการเงินล่วงหน้าไว้สำหรับวัยเกษียณ เพื่อสร้างความมั่นคงให้อนาคตของผู้ที่มองการณ์ไกลและต้องการใช้ชีวิตหลังวัยทำงานได้อย่างมีความสุข
มร. มาร์ค ทัคเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล กล่าวว่า กลุ่มพรูเด็นเชียลยังมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ในช่วง 9 เดือนแรกของปีมีเบี้ยประกันภัยรับรวมจำนวน (APE) 2,302 ล้านปอนด์ เพิ่มขึ้นถึง 15 % ภายใต้รูปแบบการดำเนินธุรกิจหลายรูปแบบ ทำให้เราเติบโตในทุกตลาด และสำหรับในตลาดภูมิภาคเอเชียเติบโตขึ้น 9 % แต่หากไม่นับรวมไต้หวันที่แคมเปญ What’s your number ประสบความสำเร็จอย่างมากซึ่งทำให้ผลการดำเนินงานในปี 2007 เติบโตอย่างก้าวกระโดดนั้น ในภูมิภาคเอเชียจะมีอัตราความเติบโตสูงถึง 21 %
นอกจากนี้ธุรกิจในภูมิภาคอื่นๆ ผลประกอบการโดยรวมของทั้งกลุ่มเป็นที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตามธุรกิจใหม่ในไตรมาส ที่ 3 มีอัตราการเติบโตที่ลดลง เนื่องมาจากสถานการณ์ทางการเงินของโลก และจากเหตุการณ์ที่กลุ่มบริษัทประกันขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกาที่ทราบกันดีอยู่แล้วกำลังเผชิญความยุ่งยากอยู่ จึงเป็นการยากที่ในปีนี้พรูเด็นเชียลจะบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่วางไว้เดิมว่าจะสร้างผลกำไรธุรกิจใหม่ในปี 2551 ให้ได้เป็นสองเท่าของปี 2548 ก่อน กำหนด 1 ปี แต่ทว่าเรายังคงมุ่งมั่นที่จะพิชิตเป้าหมายดังกล่าวให้ได้ภายในปี 2552 ตามที่ได้กำหนดไว้แต่เดิม
เงินกองทุนส่วนที่เกินกว่าภาระผูกพันต่อผู้เอาประกัน (IGD) ของกลุ่มพรูเด็นเชียล ณ 30 กันยายน 2551 มีประมาณ 1,200 ล้านปอนด์ แม้ว่าในกรณีเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสูงในทางด้านสถานการณ์การเงินต่างๆ ซึ่งหากประมาณการว่าผลกระทบสูงถึง 40 % โดยเทียบกับสภาวะตลาดในช่วงวันที่ 17 ตุลาคม 2551 ก็จะกระทบเงินกอง ทุนส่วนที่เกินกว่าภาระผูกพันต่อผู้เอาประกัน (IGD) คิดเป็นมูลค่าเพียง 250 ล้านปอนด์เท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่มีความซับซ้อนและผันผวน กลุ่มพรูเด็นเชียลยังคงความเข้มแข็งและมีความมั่นคง
"ผมมั่นใจว่าด้วยการผสมผสานระหว่างกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์เพื่อการเกษียณอายุ และการผสมผสานกลยุทธ์ทางธุรกิจต่างๆ ทำให้พรูเด็นเชียลอยู่ในฐานะที่พร้อมในการรักษาผลการดำเนินงานที่โดดเด่นและประสบความสำเร็จด้วยดีในการแข่งขันทางธุรกิจต่อไปในอนาคต”
สำหรับพรูเด็นเชียล ประเทศไทย มร. มาร์คเปิดเผยผลการดำเนินงานรวม 9 เดือน โดยรวมผลงานจากทุกช่องทางมีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวม (Total Premium) สูงขึ้น 31 % จึงทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ สามารถเติบโตได้มากกว่าอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวมในภาคธุรกิจประกันชีวิตที่เติบโตขึ้น 11 % ตามรายงานของสมาคมประกันชีวิตไทย
โดยล่าสุดได้ส่งแบบประกันชีวิตใหม่ล่าสุด 2 แบบลงสู่ตลาดเกษียณอายุ ได้แก่ “PRUsmile retirement 225” จุดเด่นที่ผู้เอาประกันจะได้รับผลประโยชน์ตลอดอายุสัญญาสูงถึง 225 % โดยจะได้รับเงินคืนเป็นรายปี ในช่วงตั้งแต่อายุ 55-64 ปี และจะได้รับเงินคืนเต็ม 100 % เมื่ออายุครบ 65 ปี และสำหรับผู้ที่ต้องการชำระเบี้ยประกันระยะสั้น แต่ต้องการรับความความคุ้มครองระยะยาว บริษัทฯ เสนอ PRUextra saving life ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เกษียณอายุที่ให้ความคุ้มครองเต็มร้อยถึงอายุ 80 ปี โดยชำระเบี้ยประกันภัยเพียง 7 ปี ซึ่งจะได้รับเงินคืนถึง 30 % ของทุนประกันภัย เมื่ออายุครบ 60 และ 70 ปี และได้รับเงินคืนเมื่ออายุ 80 ปี อีกถึง 40 % ของทุนประกันภัย แผนประกันทั้ง 2 แบบ เป็นการวางแผนการเงินล่วงหน้าไว้สำหรับวัยเกษียณ เพื่อสร้างความมั่นคงให้อนาคตของผู้ที่มองการณ์ไกลและต้องการใช้ชีวิตหลังวัยทำงานได้อย่างมีความสุข