การบินไทยตั้ง “สุรชัย” นั่งกรรมการก่อนเสนอนั่งประธาน ขณะที่เตรียมปรับลดค่าธรรมเนียมน้ำมันปลาย พ.ย. นี้ตามราคาน้ำมันโลกและเพื่อแข่งขันกับสายการบินอื่นได้ ด้านขอ.รับลูกกมธ.คมนาคม ขอรายละเอียดข้อเท็จจริงเหตุการณ์กัปตันจักรีปฏิเสธรับสส.พลังประชาชน และผลสอบ ด้าน"อภินันทน์" ยันไม่ปกป้องเชื่อไม่น่ามีปัญหา
เรืออากาศโทอภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ วานนี้ (19 พ.ย.) ว่า ที่ประชุมมีการแต่งตั้งนายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นกรรมการบริษัท หลังจากที่นายชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ ได้ขอลาออกจากประธานกรรมการบริษัทและมีผลเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ในการประชุมบอร์ดครั้งต่อไปในวันที่ 25 พ.ย. นี้ จะมีการพิจารณาเลือกประธานบอร์ดคนใหม่ซึ่ง จะเสนอชื่อนายสุรชัย เป็นประธาน
เรืออากาศโท อภินันท์ ยังกล่าวถึงแผนการลดค่าธรรมเนียมน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel Surcharge) ว่า ภายในเดือน พ.ย. นี้การบินไทย เตรียมที่จะปรับลดค่าธรรมเนียมน้ำมันลงอีกครั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ราคาน้ำมันที่กำลังปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการพิจารณาปรับลดค่าธรรมเนียมน้ำมันลงในบางเที่ยวบินที่ความสำคัญ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้โดยสาร นอกจากนี้ยังเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจการบิน เนื่องจากไม่ต้องการให้เมื่อนำค่าโดยสารของการบินไทยไปรวมกับค่าธรรมเนียมน้ำมันแล้วมีราคาสูงกว่าสายการบินอื่น
“การบินไทยพยายามที่จะปรับลดค่าธรรมเนียมน้ำมันลง เนื่องจากราคาตั๋วบวกกับราคาค่าธรรมเนียมน้ำมัน ของการบินไทยนั้น ยังคงมีราคาที่สูงกว่าสายการบินคู่แข่งรายอื่น ซึ่งก็เป็นเรื่องจำเป็นที่การบินไทยจะต้องมีการปรับลดลง ให้ใกล้เคียงกับสายการบินอื่นที่ได้มีการปรับลดลงไปก่อนหน้านี้” เรืออากาศโทอภินันท์ กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า สืบเนื่องจากที่คณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฏร ได้มีมติให้กรมการขนส่งทางอากาศ (ขอ.) พิจารณาพักหรือเพิกถอนใบอนุญาตการเป็นนักบิน ของนาวาอากาศตรีจักกรี จงศิริ ที่ไม่รับผู้โดยสารที่เป็นสส.ของพรรคพลังประชาชนขึ้นเครื่องบิน และให้บริษัทการบินไทย พิจารณาให้กัปตันจักรีไปปฏิบัติหน้าที่อื่นนอกเหนือจากกัปตันหรือเกี่ยวข้องกับการให้บริการผู้โดยสารบนเครื่องบิน โดยมีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 51 และรมว.คมนาคมได้แจ้งถึงการบินไทยเมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น ในขณะเดียวกัน ขอ. ได้มีหนังสือถึงกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย ลงวันที่ 29 ต.ค. 51 เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเกี่ยวกับกรณีกัปตันจักรีปฎิเสธผู้โดยสารด้วย เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาของกรรมการขนส่งทางอากาศ ตามที่กมธ.คมนาคมได้มีมติให้ดำเนินการ
ขณะที่เรืออากาศโทอภินันท์ กล่าวว่า ผลการสอบสวนได้เสร็จสิ้นแล้ว และขณะนี้กัปตันจักรีได้กลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตุว่าการบินไทยจะมีการปกป้องความผิดของกัปตันจักกรีหรือไม่นั้น ยืนยันว่า การบินไทยก็ไม่ได้มีการปกป้องแต่อย่างไร และได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบของบริษัททุกขั้นตอน โดยยืนยันว่าจะไม่มีการปกป้อง แม้ว่าจะเป็นพนักงานหรือผู้บริหารที่กระทำความผิดระเบียบของบริษัท เพราะนโยบายหลักการบินไทยเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจการบิน ตังนั้นต้องปฏิบัติตามขั้นตอนให้ถูกต้องตามระเบียบ ส่วนในการที่กัปตันของเครื่องบินจะปฏิเสธผู้โดยสารลงจากครื่องบินนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น เนื่องจากการปฏิเสธที่จะรับผู้โดยสารก็เป็นอำนาจหน้าที่ และภารกิจ ความรับผิดชอบของกัปตันอยู่แล้ว
ด้านเรืออากาศโทนรหัช พลอยใหญ่ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนการกระทำผิดของกัปตันจักกรีเตรียมสรุปผลการสอบสวนครั้งสุดท้าย เพื่อรายงานต่อเรืออากาศโทอภินันท์ และขั้นตอนต่อไปคณะกรรมการก็จะมีการประเมินผลการทำงานอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะไม่มีปัญหา โดยเฉพาะการทดสอบในเรื่องของการบิน อย่างไรก็ตามในกรณีที่ผลสอบจะออกมาว่ากัปตันจงศิริจะมีความผิดจริง ก็จะต้องมีบทลงโทษตามระเบียบของการบินไทยต่อไป
เรืออากาศโทอภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ วานนี้ (19 พ.ย.) ว่า ที่ประชุมมีการแต่งตั้งนายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นกรรมการบริษัท หลังจากที่นายชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ ได้ขอลาออกจากประธานกรรมการบริษัทและมีผลเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ในการประชุมบอร์ดครั้งต่อไปในวันที่ 25 พ.ย. นี้ จะมีการพิจารณาเลือกประธานบอร์ดคนใหม่ซึ่ง จะเสนอชื่อนายสุรชัย เป็นประธาน
เรืออากาศโท อภินันท์ ยังกล่าวถึงแผนการลดค่าธรรมเนียมน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel Surcharge) ว่า ภายในเดือน พ.ย. นี้การบินไทย เตรียมที่จะปรับลดค่าธรรมเนียมน้ำมันลงอีกครั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ราคาน้ำมันที่กำลังปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการพิจารณาปรับลดค่าธรรมเนียมน้ำมันลงในบางเที่ยวบินที่ความสำคัญ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้โดยสาร นอกจากนี้ยังเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจการบิน เนื่องจากไม่ต้องการให้เมื่อนำค่าโดยสารของการบินไทยไปรวมกับค่าธรรมเนียมน้ำมันแล้วมีราคาสูงกว่าสายการบินอื่น
“การบินไทยพยายามที่จะปรับลดค่าธรรมเนียมน้ำมันลง เนื่องจากราคาตั๋วบวกกับราคาค่าธรรมเนียมน้ำมัน ของการบินไทยนั้น ยังคงมีราคาที่สูงกว่าสายการบินคู่แข่งรายอื่น ซึ่งก็เป็นเรื่องจำเป็นที่การบินไทยจะต้องมีการปรับลดลง ให้ใกล้เคียงกับสายการบินอื่นที่ได้มีการปรับลดลงไปก่อนหน้านี้” เรืออากาศโทอภินันท์ กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า สืบเนื่องจากที่คณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฏร ได้มีมติให้กรมการขนส่งทางอากาศ (ขอ.) พิจารณาพักหรือเพิกถอนใบอนุญาตการเป็นนักบิน ของนาวาอากาศตรีจักกรี จงศิริ ที่ไม่รับผู้โดยสารที่เป็นสส.ของพรรคพลังประชาชนขึ้นเครื่องบิน และให้บริษัทการบินไทย พิจารณาให้กัปตันจักรีไปปฏิบัติหน้าที่อื่นนอกเหนือจากกัปตันหรือเกี่ยวข้องกับการให้บริการผู้โดยสารบนเครื่องบิน โดยมีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 51 และรมว.คมนาคมได้แจ้งถึงการบินไทยเมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น ในขณะเดียวกัน ขอ. ได้มีหนังสือถึงกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย ลงวันที่ 29 ต.ค. 51 เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเกี่ยวกับกรณีกัปตันจักรีปฎิเสธผู้โดยสารด้วย เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาของกรรมการขนส่งทางอากาศ ตามที่กมธ.คมนาคมได้มีมติให้ดำเนินการ
ขณะที่เรืออากาศโทอภินันท์ กล่าวว่า ผลการสอบสวนได้เสร็จสิ้นแล้ว และขณะนี้กัปตันจักรีได้กลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตุว่าการบินไทยจะมีการปกป้องความผิดของกัปตันจักกรีหรือไม่นั้น ยืนยันว่า การบินไทยก็ไม่ได้มีการปกป้องแต่อย่างไร และได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบของบริษัททุกขั้นตอน โดยยืนยันว่าจะไม่มีการปกป้อง แม้ว่าจะเป็นพนักงานหรือผู้บริหารที่กระทำความผิดระเบียบของบริษัท เพราะนโยบายหลักการบินไทยเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจการบิน ตังนั้นต้องปฏิบัติตามขั้นตอนให้ถูกต้องตามระเบียบ ส่วนในการที่กัปตันของเครื่องบินจะปฏิเสธผู้โดยสารลงจากครื่องบินนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น เนื่องจากการปฏิเสธที่จะรับผู้โดยสารก็เป็นอำนาจหน้าที่ และภารกิจ ความรับผิดชอบของกัปตันอยู่แล้ว
ด้านเรืออากาศโทนรหัช พลอยใหญ่ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนการกระทำผิดของกัปตันจักกรีเตรียมสรุปผลการสอบสวนครั้งสุดท้าย เพื่อรายงานต่อเรืออากาศโทอภินันท์ และขั้นตอนต่อไปคณะกรรมการก็จะมีการประเมินผลการทำงานอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะไม่มีปัญหา โดยเฉพาะการทดสอบในเรื่องของการบิน อย่างไรก็ตามในกรณีที่ผลสอบจะออกมาว่ากัปตันจงศิริจะมีความผิดจริง ก็จะต้องมีบทลงโทษตามระเบียบของการบินไทยต่อไป
