กองทุนฟื้นฟูฯ เปิดใจ หลังศาลตัดสินการซื้อขายที่ดินรัชดาฯ ระบุทุกอย่างสิ้นสุดแล้ว ซึ่งจะไม่มีการสืบสวนหาคนผิดหรือตรวจสอบข้อมูลอะไรเพิ่มเติม ส่วนจะนำคดีนี้มาเป็นบรรทัดฐานในการประมูลสินทรัพย์ใหม่หรือไม่อยู่ระหว่างพิจารณา แต่มั่นใจคดีนี้ช่วยให้การประมูลระหว่างผู้ซื้อ-ผู้ขายระมัดระวังมากขึ้น
นางทองอุไร ลิ้มปิติ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารกองทุน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และในฐานะผู้จัดการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เปิดเผยถึงคำตัดสินของศาลในกรณีการซื้อขายที่ดินรัชดาฯระหว่างกองทุนฟื้นฟูฯ กับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาอดีตนายกรัฐมนตรีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรว่า แม้ว่าการซื้อขายสินทรัพย์ของกองทุนฟื้นฟูฯ จะมีคดีความเกิดขึ้น แต่ในส่วนของกองทุนฟื้นฟูฯ ถือว่าสิ้นสุดแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมีการสอบสวนพนักงานหรือตรวจสอบรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม เนื่องจากมองว่าการดำเนินการซื้อขายด้วยวิธีเปิดประมูลนั้นเป็นวิธีการที่โปร่งใสที่สุดแล้ว
ส่วนคดีที่ดินรัชดาฯ ดังกล่าวจะต้องนำมาเป็นบรรทัดฐานในการประมูลสินทรัพย์ที่เหลือของธปท.ในอนาคตหรือไม่นั้น ผู้จัดการกองทุนฟื้นฟูฯ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่จะต้องพิจารณาต่อไปว่าในการประมูลสินทรัพย์อื่นจะต้องมีการตรวจสอบการเข้าประมูลซื้อของนักการเมืองหรือไม่
เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของกองทุนฟื้นฟูฯ กล่าวยอมรับว่าจากกรณีที่ดินรัชดาฯ ทำให้การประมูลที่ดินของกองทุนฟื้นฟูฯ ต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะประเด็นผู้ประมูลที่เกี่ยวข้องกับภาคการเมือง โดยอาจจะต้องมีการสอบถามไปทางผู้รู้ เช่น คณะกรรมการกฤษฎีกามากขึ้น อีกทั้งในส่วนของผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมประมูลสินทรัพย์ต่างๆ ของกองทุนฟื้นฟูฯจะมีความเข้มงวดมากขึ้นด้วย ซึ่งในปัจจุบันมองว่าหลักการหรือการดำเนินการต่างๆ มีความเข้มงวดและโปร่งใสอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามขึ้นมาในภายหลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในขณะนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ยังมีสินทรัพย์รอการขายที่เป็นที่ดิน และอาคารสำนักงานจำนวนมาก โดยเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับมาจากธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ (บีบีซี) ประกอบด้วย อาคารสาขาธนาคารบีบีซีทั่วประเทศ จำนวน 47 สาขา อาคารพาณิชย์ 14 คูหา บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์ 20 รายการ โกดัง 5 รายการ และที่ดินเปล่าอีก 54 รายการ พื้นที่ประมาณ 700 ไร่
นอกจากนั้น ยังมีที่ดินที่เป็นทรัพย์สินเดิมของกองทุนฟื้นฟูฯ ทั้งประเทศ อีกประมาณ 2,000 ไร่ และเป็นสินทรัพย์ที่เป็นห้องชุด ซึ่งขายร่วมกับบริษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) อีกกว่า 2,000 ตร.เมตร และยังมีที่ดิน และอสังหาริมทรัพย์ และสังหาริมทรัพย์อีกจำนวนหนึ่งที่อยู่ระหว่างการบังคับคดี ซึ่งจะทยอยออกมาจำหน่วยต่อไปทั้งหมดนี้ตามกำหนดการจะต้องขายให้เสร็จสิ้นภายใน 4 ปีนับจากนี้
นางทองอุไร ลิ้มปิติ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารกองทุน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และในฐานะผู้จัดการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เปิดเผยถึงคำตัดสินของศาลในกรณีการซื้อขายที่ดินรัชดาฯระหว่างกองทุนฟื้นฟูฯ กับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาอดีตนายกรัฐมนตรีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรว่า แม้ว่าการซื้อขายสินทรัพย์ของกองทุนฟื้นฟูฯ จะมีคดีความเกิดขึ้น แต่ในส่วนของกองทุนฟื้นฟูฯ ถือว่าสิ้นสุดแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมีการสอบสวนพนักงานหรือตรวจสอบรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม เนื่องจากมองว่าการดำเนินการซื้อขายด้วยวิธีเปิดประมูลนั้นเป็นวิธีการที่โปร่งใสที่สุดแล้ว
ส่วนคดีที่ดินรัชดาฯ ดังกล่าวจะต้องนำมาเป็นบรรทัดฐานในการประมูลสินทรัพย์ที่เหลือของธปท.ในอนาคตหรือไม่นั้น ผู้จัดการกองทุนฟื้นฟูฯ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่จะต้องพิจารณาต่อไปว่าในการประมูลสินทรัพย์อื่นจะต้องมีการตรวจสอบการเข้าประมูลซื้อของนักการเมืองหรือไม่
เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของกองทุนฟื้นฟูฯ กล่าวยอมรับว่าจากกรณีที่ดินรัชดาฯ ทำให้การประมูลที่ดินของกองทุนฟื้นฟูฯ ต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะประเด็นผู้ประมูลที่เกี่ยวข้องกับภาคการเมือง โดยอาจจะต้องมีการสอบถามไปทางผู้รู้ เช่น คณะกรรมการกฤษฎีกามากขึ้น อีกทั้งในส่วนของผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมประมูลสินทรัพย์ต่างๆ ของกองทุนฟื้นฟูฯจะมีความเข้มงวดมากขึ้นด้วย ซึ่งในปัจจุบันมองว่าหลักการหรือการดำเนินการต่างๆ มีความเข้มงวดและโปร่งใสอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามขึ้นมาในภายหลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในขณะนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ยังมีสินทรัพย์รอการขายที่เป็นที่ดิน และอาคารสำนักงานจำนวนมาก โดยเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับมาจากธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ (บีบีซี) ประกอบด้วย อาคารสาขาธนาคารบีบีซีทั่วประเทศ จำนวน 47 สาขา อาคารพาณิชย์ 14 คูหา บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์ 20 รายการ โกดัง 5 รายการ และที่ดินเปล่าอีก 54 รายการ พื้นที่ประมาณ 700 ไร่
นอกจากนั้น ยังมีที่ดินที่เป็นทรัพย์สินเดิมของกองทุนฟื้นฟูฯ ทั้งประเทศ อีกประมาณ 2,000 ไร่ และเป็นสินทรัพย์ที่เป็นห้องชุด ซึ่งขายร่วมกับบริษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) อีกกว่า 2,000 ตร.เมตร และยังมีที่ดิน และอสังหาริมทรัพย์ และสังหาริมทรัพย์อีกจำนวนหนึ่งที่อยู่ระหว่างการบังคับคดี ซึ่งจะทยอยออกมาจำหน่วยต่อไปทั้งหมดนี้ตามกำหนดการจะต้องขายให้เสร็จสิ้นภายใน 4 ปีนับจากนี้