กองทุนฟื้นฟูฯ ชะลอแผนขายหุ้นแบงก์นครหลวงไทยและกรุงไทยหลังวิกฤตสถาบันการเงินโลกกระทบทั้งระบบ ยอมรับผู้ที่เคยสนใจซื้อหุ้น 2 แบงก์นี้หายหน้า ลั่นกองทุนฯ ยังทำหน้าที่ได้อีก 4 ปี ชี้กฎหมายเปิดช่องให้คลัง-ธปท.ร่วมกันร่าง พ.ร.บ.ชำระบัญชีช่วยแก้ไขปัญหาที่เหลือ หลังจากกองทุนฟื้นฟูฯ ปิดตัว ด้านไทยธนาคารรอแค่กระทรวงพาณิชย์อนุมัติเรื่องผู้ถือหุ้นต่างด้าว
นางทองอุไร ลิ้มปิติ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารกองทุน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และในฐานะผู้จัดการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (กองทุนฟื้นฟูฯ) เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ยังไม่มีแผนที่จะขายหุ้นที่กองทุนฟื้นฟูฯ ถืออยู่ของธนาคารพาณิชย์ทั้ง 2 แห่ง คือ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) (SCIB) และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในตลาดโลกและของไทยช่วงนี้ไม่เอื้ออำนวย
“ยอมรับว่าขณะนี้มีผู้ที่เคยติดต่อซื้อมาหลายรายหายไปพอสมควร ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่สถาบันการเงินหลายแห่งที่มีชื่อเสียงต้องให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองก่อน จึงยังไม่เหมาะสมที่จะเปิดประมูลขายหุ้นที่กองทุนฟื้นฟูฯ ถืออยู่ใน 2 แบงก์ที่เหลือ และต้องการให้กระบวนการขายหุ้นของธนาคาร ไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) (BT) ให้เสร็จเรียบร้อยก่อน”
อย่างไรก็ตาม แม้ต่อไปภาวะเศรษฐกิจโลกจะมีปัญหายืดเยื้อ รวมทั้งแผนการปิดตัวของกองทุนฟื้นฟูฯ มีกำหนดเวลาแน่ชัด แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เนื่องจาก กองทุนฟื้นฟูฯ ยังคงทำหน้าที่ได้อีก 4 ปี แต่ถ้าในช่วง 4 ปีนี้ยังไม่สามารถขายหุ้นธนาคารพาณิชย์ที่กองทุนฟื้นฟูฯ ถืออยู่ได้ ในช่วงที่ปิดตัวกองทุนในปี 2556 ทางกระทรวงการคลังและ ธปท.จะมีการร่างพระราชบัญญัติชำระบัญชีขึ้นมา ซึ่งอาจมีการตัดสินใจกับหุ้นที่ยังคงเหลืออยู่ก็ได้
สำหรับความคืบหน้าในการขายหุ้นของไทยธนาคาร ซึ่งกองทุนถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 42.13% ให้แก่กลุ่มซีไอเอ็มบีจากมาเลเซีย หลังจากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้อนุมัติขยายเพดานให้ต่างชาติถือหุ้นเกิน 49% เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพิ่งอนุมัติการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นของบริษัทประกันภัยในเครือไทยธนาคารเช่นกัน
ผู้จัดการกองทุนฟื้นฟูฯ กล่าวว่า เหลือเพียงขั้นตอนการผ่อนผันผู้ถือหุ้นต่างด้าวบริษัทอื่นๆ ในเครือไทยธนาคารให้กระทรวงพาณิชย์อนุมัติ ตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ซึ่งกองทุนฟื้นฟูฯ ได้หารือกันในเบื้องต้นแล้วและไม่มีปัญหาอะไร จึงคาดว่าคณะกรรมการประกอบธุรกิจต่างด้าวของกระทรวงพาณิชย์จะมีการประชุมและอนุมัติเรื่องนี้ในช่วงปลายเดือน ต.ค.นี้ จึงเชื่อว่าขั้นตอนทุกอย่างในการซื้อขายหุ้นของไทยธนาคารจะเสร็จทันภายใน 5 เดือนหรือวันที่ 19 พ.ย.นี้ตามที่ระบุไว้ในสัญญาซื้อขาย
นางทองอุไร ลิ้มปิติ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารกองทุน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และในฐานะผู้จัดการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (กองทุนฟื้นฟูฯ) เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ยังไม่มีแผนที่จะขายหุ้นที่กองทุนฟื้นฟูฯ ถืออยู่ของธนาคารพาณิชย์ทั้ง 2 แห่ง คือ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) (SCIB) และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในตลาดโลกและของไทยช่วงนี้ไม่เอื้ออำนวย
“ยอมรับว่าขณะนี้มีผู้ที่เคยติดต่อซื้อมาหลายรายหายไปพอสมควร ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่สถาบันการเงินหลายแห่งที่มีชื่อเสียงต้องให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองก่อน จึงยังไม่เหมาะสมที่จะเปิดประมูลขายหุ้นที่กองทุนฟื้นฟูฯ ถืออยู่ใน 2 แบงก์ที่เหลือ และต้องการให้กระบวนการขายหุ้นของธนาคาร ไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) (BT) ให้เสร็จเรียบร้อยก่อน”
อย่างไรก็ตาม แม้ต่อไปภาวะเศรษฐกิจโลกจะมีปัญหายืดเยื้อ รวมทั้งแผนการปิดตัวของกองทุนฟื้นฟูฯ มีกำหนดเวลาแน่ชัด แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เนื่องจาก กองทุนฟื้นฟูฯ ยังคงทำหน้าที่ได้อีก 4 ปี แต่ถ้าในช่วง 4 ปีนี้ยังไม่สามารถขายหุ้นธนาคารพาณิชย์ที่กองทุนฟื้นฟูฯ ถืออยู่ได้ ในช่วงที่ปิดตัวกองทุนในปี 2556 ทางกระทรวงการคลังและ ธปท.จะมีการร่างพระราชบัญญัติชำระบัญชีขึ้นมา ซึ่งอาจมีการตัดสินใจกับหุ้นที่ยังคงเหลืออยู่ก็ได้
สำหรับความคืบหน้าในการขายหุ้นของไทยธนาคาร ซึ่งกองทุนถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 42.13% ให้แก่กลุ่มซีไอเอ็มบีจากมาเลเซีย หลังจากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้อนุมัติขยายเพดานให้ต่างชาติถือหุ้นเกิน 49% เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพิ่งอนุมัติการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นของบริษัทประกันภัยในเครือไทยธนาคารเช่นกัน
ผู้จัดการกองทุนฟื้นฟูฯ กล่าวว่า เหลือเพียงขั้นตอนการผ่อนผันผู้ถือหุ้นต่างด้าวบริษัทอื่นๆ ในเครือไทยธนาคารให้กระทรวงพาณิชย์อนุมัติ ตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ซึ่งกองทุนฟื้นฟูฯ ได้หารือกันในเบื้องต้นแล้วและไม่มีปัญหาอะไร จึงคาดว่าคณะกรรมการประกอบธุรกิจต่างด้าวของกระทรวงพาณิชย์จะมีการประชุมและอนุมัติเรื่องนี้ในช่วงปลายเดือน ต.ค.นี้ จึงเชื่อว่าขั้นตอนทุกอย่างในการซื้อขายหุ้นของไทยธนาคารจะเสร็จทันภายใน 5 เดือนหรือวันที่ 19 พ.ย.นี้ตามที่ระบุไว้ในสัญญาซื้อขาย
