กองทุนฟื้นฟูฯ ประกาศหาที่ปรึกษาทางการเงินรองรับขายหุ้นแบงก์ 3 แห่ง “ไทยธนาคาร-นครหลวงไทย-กรุงไทย” โอ่ทุกแบงก์เนื้อหอมมีนักลงทุนสนใจเข้าซื้อหุ้น แต่จะประเดิม “ไทยธนาคาร” เป็นแบงก์แรก เหตุสถานการณ์กำลังนิ่ง ขนาดกำลังดี พร้อมหารือผู้ถือหุ้นรายใหญ่บีทีส่งตัวแทนเข้าไปเป็นที่ปรึกษาบอร์ด โดยกองทุนฟื้นฟูฯ ส่ง “สามารถ บูรณวัฒนาโชค” ด้านกลุ่ม TPG ส่ง “Robert A.Cohen” หวังเสริมศักยภาพการทำธุรกิจ
นางทองอุไร ลิ้มปิติ ในฐานะผู้จัดการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน(กองทุนฟื้นฟูฯ) เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทุนฟื้นฟูฯ อยู่ระหว่างเตรียมจัดจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเข้ามาช่วยศึกษาเรื่องการขายหุ้นของธนาคารพาณิชย์ที่กองทุนฟื้นฟูฯถืออยู่ ซึ่งประกอบด้วย ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) (BT) จำนวน 42.13% ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) (SCIB) 48% และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) 57% พร้อมทั้งรองรับแผนการลดบทบาทการทำหน้าที่ของกองทุนฟื้นฟูฯ ลงในปี 2556 นี้ โดยจะคัดเลือกที่ปรึกษาทางการเงินจากผู้ที่มีรายชื่อในศูนย์ข้อมูลที่ปรึกษาไทยของกระทรวงการคลัง รวมทั้งพิจารณาจากประสบการณ์การขายหุ้นสถาบันการเงินมาก่อน
“กองทุนฟื้นฟูฯคาดว่า จะขายหุ้นของธนาคารพาณิชย์ที่ถืออยู่ทีละแห่ง โดยเริ่มจากไทยธนาคารก่อน เพราะมีขนาดที่ไม่ใหญ่ไม่โตมากนักและสถานการณ์ทุกอย่างกำลังนิ่ง อย่างไรก็ตาม ลูกสาวที่เรามีอยู่ทุกคนสวยหมด ทุกวันนี้ก็หัวกระไดไม่แห้งอยู่แล้ว จึงไม่เกี่ยงว่านักลงทุนที่จะเข้ามาซื้อหุ้นจากเราจะเป็นนักลงทุนไทยหรือเทศ และที่ผ่านมายอมรับว่ามีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาติดต่อพอสมควร เพราะเขามองว่าเป็นช่องทางเดียวที่จะเข้ามาลงทุนในไทยได้มาก ซึ่งเราจะพิจารณายึดเกณฑ์ 3 ข้อ คือ 1.ให้ราคาดี 2.คนที่ซื้อหุ้นไปมีความเข้มแข็ง และ3.เอาไปแล้วไม่มาขายให้เราอีก แต่ทุกอย่างจะมีความยุติธรรมและจะมีการเปิดประมูลต่อไป หลังจากที่ปรึกษาทางการเงินพิจารณาแล้ว”
ผู้จัดการกองทุนฟื้นฟูฯ กล่าวว่า หลังจากที่กองทุนฟื้นฟูฯ ได้ใช้สิทธิเข้าไปเพิ่มทุนในธนาคารไทยธนาคาร จำนวน 2,841.7 ล้านบาท ทำให้มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ระดับ 42.13% ขณะที่กลุ่ม TPG ถือหุ้นในสัดส่วน 43% และอีก 10% เป็นสัดส่วนของนักลงทุนรายย่อย ทางผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทั้ง 2 ราย คือ กองทุนฟื้นฟูฯ และกลุ่ม TPG ได้หารือกับคณะกรรมการไทยธนาคารเตรียมส่งตัวแทนเข้าไปเป็นที่ปรึกษาในคณะกรรมการไทยธนาคาร เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานให้มีเสถียรภาพมากขึ้น เนื่องจากต่อไปทางไทยธนาคารจะเน้นธุรกิจรายย่อยและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) มากขึ้น
โดยทางกองทุนฟื้นฟูฯได้ส่งตัวแทน นายสามารถ บูรณวัฒนาโชค อดีตผู้บริหารธปท.ซึ่งมีความชำนาญด้านบัญชีและระบบสถาบันการเงิน ขณะที่กลุ่ม TPG ส่ง นาย Robert A. Cohen ซึ่งเป็นอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของธนาคารในประเทศเกาหลีที่กลุ่ม TPG เข้าไปลงทุนมาก่อน เพื่อช่วยเสริมศักยภาพด้านสินเชื่อและธุรกิจ SMEs ซึ่งคาดว่าตัวแทนทั้ง 2 รายนี้จะสามารถเข้าไปทำงานได้ในวันที่ 25 ก.พ.นี้
นางทองอุไร ลิ้มปิติ ในฐานะผู้จัดการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน(กองทุนฟื้นฟูฯ) เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทุนฟื้นฟูฯ อยู่ระหว่างเตรียมจัดจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเข้ามาช่วยศึกษาเรื่องการขายหุ้นของธนาคารพาณิชย์ที่กองทุนฟื้นฟูฯถืออยู่ ซึ่งประกอบด้วย ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) (BT) จำนวน 42.13% ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) (SCIB) 48% และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) 57% พร้อมทั้งรองรับแผนการลดบทบาทการทำหน้าที่ของกองทุนฟื้นฟูฯ ลงในปี 2556 นี้ โดยจะคัดเลือกที่ปรึกษาทางการเงินจากผู้ที่มีรายชื่อในศูนย์ข้อมูลที่ปรึกษาไทยของกระทรวงการคลัง รวมทั้งพิจารณาจากประสบการณ์การขายหุ้นสถาบันการเงินมาก่อน
“กองทุนฟื้นฟูฯคาดว่า จะขายหุ้นของธนาคารพาณิชย์ที่ถืออยู่ทีละแห่ง โดยเริ่มจากไทยธนาคารก่อน เพราะมีขนาดที่ไม่ใหญ่ไม่โตมากนักและสถานการณ์ทุกอย่างกำลังนิ่ง อย่างไรก็ตาม ลูกสาวที่เรามีอยู่ทุกคนสวยหมด ทุกวันนี้ก็หัวกระไดไม่แห้งอยู่แล้ว จึงไม่เกี่ยงว่านักลงทุนที่จะเข้ามาซื้อหุ้นจากเราจะเป็นนักลงทุนไทยหรือเทศ และที่ผ่านมายอมรับว่ามีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาติดต่อพอสมควร เพราะเขามองว่าเป็นช่องทางเดียวที่จะเข้ามาลงทุนในไทยได้มาก ซึ่งเราจะพิจารณายึดเกณฑ์ 3 ข้อ คือ 1.ให้ราคาดี 2.คนที่ซื้อหุ้นไปมีความเข้มแข็ง และ3.เอาไปแล้วไม่มาขายให้เราอีก แต่ทุกอย่างจะมีความยุติธรรมและจะมีการเปิดประมูลต่อไป หลังจากที่ปรึกษาทางการเงินพิจารณาแล้ว”
ผู้จัดการกองทุนฟื้นฟูฯ กล่าวว่า หลังจากที่กองทุนฟื้นฟูฯ ได้ใช้สิทธิเข้าไปเพิ่มทุนในธนาคารไทยธนาคาร จำนวน 2,841.7 ล้านบาท ทำให้มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ระดับ 42.13% ขณะที่กลุ่ม TPG ถือหุ้นในสัดส่วน 43% และอีก 10% เป็นสัดส่วนของนักลงทุนรายย่อย ทางผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทั้ง 2 ราย คือ กองทุนฟื้นฟูฯ และกลุ่ม TPG ได้หารือกับคณะกรรมการไทยธนาคารเตรียมส่งตัวแทนเข้าไปเป็นที่ปรึกษาในคณะกรรมการไทยธนาคาร เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานให้มีเสถียรภาพมากขึ้น เนื่องจากต่อไปทางไทยธนาคารจะเน้นธุรกิจรายย่อยและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) มากขึ้น
โดยทางกองทุนฟื้นฟูฯได้ส่งตัวแทน นายสามารถ บูรณวัฒนาโชค อดีตผู้บริหารธปท.ซึ่งมีความชำนาญด้านบัญชีและระบบสถาบันการเงิน ขณะที่กลุ่ม TPG ส่ง นาย Robert A. Cohen ซึ่งเป็นอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของธนาคารในประเทศเกาหลีที่กลุ่ม TPG เข้าไปลงทุนมาก่อน เพื่อช่วยเสริมศักยภาพด้านสินเชื่อและธุรกิจ SMEs ซึ่งคาดว่าตัวแทนทั้ง 2 รายนี้จะสามารถเข้าไปทำงานได้ในวันที่ 25 ก.พ.นี้
