ผู้บริหาร ปตท.ยอมรับปัญหาศก.โลกกระทบหนัก เตรียมทบทวนแผนลงทุน 5 ปี เล็งเทคโอเวอร์ธุรกิจในต่างประเทศ พร้อมชะลอการลงทุนธุรกิจก๊าซ "เอ็นจีวี" มูลค่า 5 หมื่นล้าน หลังแนวโน้มราคาน้ำมันจ่อแตะ 60 ดอลลาร์/บาเรล ขณะที่ธุรกิจโรงกลั่น-ปิโตรเคมี อยู่ในช่วงขาลง ส่งผลกำไรไตรมาส 3 ลดวูบ
วันนี้ (22 ต.ค.) นายเทวินทร์ วงศ์วานิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลยุทธ์และพัฒนาองค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการทบทวนแผนการลงทุน 5 ปี คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปลายปีนี้ พร้อมระบุว่า ปตท.กำลังอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในต่างประเทศ ทั้งในรูปแบบของการถือหุ้น และการควบรวมกิจการ ซึ่งหลายธุรกิจที่ทำธุรกิจด้านศึกษาและสำรวจกำลังประสบปัญหา รวมทั้งราคาหุ้นเริ่มปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก รวมถึงปริมาณการใช้ที่ลดลง
"ปตท.ยังหาโอกาสในการลงทุนในรูปแบบการควบรวมกิจการ (M&A) โดยเฉพาะในต่างประเทศ เพราะมีหลายบริษัทที่มูลค่าอาจจะปรับตัวลดลง แต่การลงทุนต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง"
ตอนนี้ กำลังเตรียมเดินหน้าขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ เพื่อมุ่งแสวงหาแหล่งพลังงานมารองรับความต้องการใช้ในประเทศ โดยเฉพาะแหล่งก๊าซธรรมชาติ ซึ่งในส่วนของ PTTEP ได้เข้าไปสำรวจอยู่หลายประเทศ ทั้งในประเทศพม่า ที่คาดว่าหากประมาณ 3 ปีครึ่งน่าจะสามารถส่งก๊าซกลับมาขายในประเทศไทยได้
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาสำรวจก๊าซในประเทศเวียดนามและโอมาน ได้มีการสำรวจแหล่งพลังงานน้ำมันเช่นเดียวกับ อิหร่านและแอลจีเรีย
อย่างไรก็ตาม แผนการลงทุน 5 ปีของ ปตท.ที่มีมูลค่า 2.4 แสนล้านบาท ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายการลงทุน และทั้งเครือแล้วจะมีการการลงทุน 5 แสนล้านบาท ก็ยังคงเป็นไปตามแผนเช่นกัน
ขณะนี้มีแผนจะทบทวนเรื่องการลงทุนท่อก๊าซเอ็นจีวี (NGV) จำนวน 3 เส้นทางใน 3 ภูมิภาค รวมมูลค่าการลงทุน 5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันราคา NGV ปรับตัวมีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับความต้องการใช้ NGV ลดลง เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลง อาจทำให้อาจจะไม่คุ้มค่ากับการลงทุน
สำหรับปี 2552 ราคาน้ำมันเฉลี่ยจะลดลง คาดว่าทั้งปีเฉลี่ยจะอยู่ที่ 60-70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ถือว่าเป็นไปตามตลาดโลกที่การเก็งกำไรลดลงรวมถึงการบริโภคลดลงตามภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
นายเทวิน ยอมรับว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีการปรับตัวอยู่ในระดับสูงก่อนหน้านี้ วิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐ และภาวะเศรษฐกิจโลก ส่งผลกระทบต่อการใช้พลังงานให้ลดลง ซึ่งทาง ปตท. ได้รับผลกระทบโดยโรงกลั่นไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อย่างเต็มที่ ค่าการกลั่น จะอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้โรงกลั่นมีปัญหาได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากการอ่อนตัวของราคาพลังงานอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการลงทุนผลิตพลังงานทดแทนซึ่งต้องการความชัดเจนทางภาคธุรกิจ จึงต้องมีการปรับกลยุทธ์รองรับ
"ยอมรับว่าปีหน้าคงเป็นปีที่ลำบากเพราะธุรกิจโรงกลั่นกับธุรกิจปิโตรเคมีเข้าสู่ช่วงขาลง และราคาน้ำมันก็ปรับตัวลดลง แต่ยังถือว่าเป็นราคาที่ยอมรับได้ เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนที่ราคาน้ำมันอยู่ที่ระดับ 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเท่านั้น" นายเทวินทร์ กล่าวทิ้งท้าย
**ทีอาร์ซี ไม่หวั่น ปตท.พับแผนลงทุน NGV
นายสมัย ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRC กล่าวถึงกรณีที่ ปตท. ผู้ประกอบการด้านพลังงานรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เตรียมทบทวนแผนการลงทุนท่อก๊าซ NGV มูลค่า 50,000 ล้านบาท ตนขอยืนยันว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัท เนื่องจากยังมีโครงการอื่นๆ ของ ปตท.ที่ยังคงมีการลงทุนต่อเนื่องและแน่นอน
"ผมไม่ได้กังวล เพราะว่าที่ผ่านมางานที่เรารับมาล่วงหน้าอยู่แล้ว อีกอย่างโครงการลงทุนอื่นๆ ของ ปตท.ก็ลงทุนไปแล้ว มีความแน่นอน ส่วนที่ว่าจะทบทวนแผนลงทุนใหม่ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนผมว่าในระยะสั้นๆ คงจะไม่มีผลกระทบอะไร ทีอาร์ซี ก็ยังคงเดินหน้าประมูลงานเหมือนเดิม"
