DRT เตรียมเงิน 75 ล้านบาท เพื่อซื้อหุ้นคืน 5% หวังสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและผู้ถือหุ้น พร้อมส่งสัญญานฐานเงินแกร่ง หลังราคราหุ้นร่วงต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน เหตุวิกฤติการเงินสหรัฐฯ ป่วนตลาดหุ้นทั่วโลก
นายอัศนี ชันทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) (DRT) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2551 ได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนในวงเงินไม่เกิน 75 ล้านบาท และจำนวนหุ้นที่ซื้อคืนประมาณร้อยละ 5 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ โดยกำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 51 ถึงวันที่ 3 พฤษภาคม 52 ตามราคาหุ้นเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักย้อนหลัง 5 วันทำการก่อนวันที่กรรมการมีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน คือตั้งแต่ 13 ตุลาคม 51 ถึง 17 ตุลาคม 51 นั้น อยู่ที่ 1.47 บาทต่อหุ้น
เนื่องจากเห็นว่าราคาหุ้น DRT บนกระดานปัจจุบันต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานที่เหมาะสมของบริษัทฯ หลังจากที่ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์ทางการเงินของสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งการซื้อหุ้นคืนดังกล่าวนั้น จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและผู้ถือหุ้น รวมทั้งยังเป็นการส่งสัญญาณให้กับผู้ลงทุนได้เห็นถึงสถานะการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ และยังเป็นการเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้แก่ส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) รวมถึงเพิ่มอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ของบริษัทฯ อีกทางหนึ่งด้วย
" ต้องยอมรับว่า ราคาหุ้น DRT ในขณะนี้ถือว่าปรับตัวลงมาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานมากพอสมควร โดยหากพิจารณาจากมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (Book Value) ณ วันที่ 17 ตุลาคม 51 จะอยู่ที่ 1.59 บาท ขณะราคาหุ้นบนกระดานเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ปิดที่ 1.39 บาท ซึ่งปัจจัยที่กระทบราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาเกิดจากความไม่เชื่อมั่นจากวิกฤติทางการเงินสหรัฐฯที่ส่งผลกับตลาดหุ้นทั่วโลก" นายอัศนี กล่าว
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2551 ยังเชื่อมั่นว่ายังคงมีทิศทางที่ดี หลังจากแนวโน้มราคาน้ำมันเริ่มลดลงต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการก่อสร้างมีความมั่นใจในการลงทุนมากขึ้น ขณะที่ต้นทุนในการผลิตและดำเนินการก็ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ หลังจากครึ่งปีแรก 2551 ที่มีการจ่ายเงินปันผลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท
"จากแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลงต่อเนื่อง ทำให้ในช่วงที่เหลืออยู่ของปีนี้สถานการณ์ต่างๆ น่าจะปรับตัวดีขึ้นทั้งภาคการผลิต และการบริโภค ต้นทุนของเราก็ลดลง ขณะเดียวกันผู้ประกอบการก่อสร้าง ซึ่งถือเป็นลูกค้าของเราก็มีความมั่นใจในการลงทุนมากขึ้นด้วย" นายอัศนีกล่าว
นายอัศนี ชันทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) (DRT) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2551 ได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนในวงเงินไม่เกิน 75 ล้านบาท และจำนวนหุ้นที่ซื้อคืนประมาณร้อยละ 5 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ โดยกำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 51 ถึงวันที่ 3 พฤษภาคม 52 ตามราคาหุ้นเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักย้อนหลัง 5 วันทำการก่อนวันที่กรรมการมีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน คือตั้งแต่ 13 ตุลาคม 51 ถึง 17 ตุลาคม 51 นั้น อยู่ที่ 1.47 บาทต่อหุ้น
เนื่องจากเห็นว่าราคาหุ้น DRT บนกระดานปัจจุบันต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานที่เหมาะสมของบริษัทฯ หลังจากที่ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์ทางการเงินของสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งการซื้อหุ้นคืนดังกล่าวนั้น จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและผู้ถือหุ้น รวมทั้งยังเป็นการส่งสัญญาณให้กับผู้ลงทุนได้เห็นถึงสถานะการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ และยังเป็นการเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้แก่ส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) รวมถึงเพิ่มอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ของบริษัทฯ อีกทางหนึ่งด้วย
" ต้องยอมรับว่า ราคาหุ้น DRT ในขณะนี้ถือว่าปรับตัวลงมาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานมากพอสมควร โดยหากพิจารณาจากมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (Book Value) ณ วันที่ 17 ตุลาคม 51 จะอยู่ที่ 1.59 บาท ขณะราคาหุ้นบนกระดานเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ปิดที่ 1.39 บาท ซึ่งปัจจัยที่กระทบราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาเกิดจากความไม่เชื่อมั่นจากวิกฤติทางการเงินสหรัฐฯที่ส่งผลกับตลาดหุ้นทั่วโลก" นายอัศนี กล่าว
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2551 ยังเชื่อมั่นว่ายังคงมีทิศทางที่ดี หลังจากแนวโน้มราคาน้ำมันเริ่มลดลงต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการก่อสร้างมีความมั่นใจในการลงทุนมากขึ้น ขณะที่ต้นทุนในการผลิตและดำเนินการก็ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ หลังจากครึ่งปีแรก 2551 ที่มีการจ่ายเงินปันผลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท
"จากแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลงต่อเนื่อง ทำให้ในช่วงที่เหลืออยู่ของปีนี้สถานการณ์ต่างๆ น่าจะปรับตัวดีขึ้นทั้งภาคการผลิต และการบริโภค ต้นทุนของเราก็ลดลง ขณะเดียวกันผู้ประกอบการก่อสร้าง ซึ่งถือเป็นลูกค้าของเราก็มีความมั่นใจในการลงทุนมากขึ้นด้วย" นายอัศนีกล่าว