แพร่ - ชาวแพร่ร่วมลุ้น “มหาจำลอง-ไชยวัฒน์” ออกคุก พร้อมแกนนำ พธม.พ้นข้อหากบฏผ่านหน้าจอเอเอสทีวีคึกคัก ชี้ตำรวจทำร้ายประชาชนเป็นสันดาน ถามแรงถึง “สมชาย” ให้ญาติผู้ใหญ่มายืนรับแก๊สน้ำตาจะคิดอย่างไร ขณะที่ ส.ส.-รมต.พลังประชาชน เริ่มหาเสียงผ่านส่วนราชการในพื้นที่แล้ว
ในขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองในกรุงเทพฯ ยังคงไม่สงบลงโดยง่าย เนื่องจากปัญหาทุจริตของนักการเมืองจนบานปลายไปสู่การชุมนุมขับไล่รัฐบาล ซึ่งรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกคนที่ 3 ของกลุ่มการเมืองภายใต้พรรคการเมืองที่มีปัญหาทุจริตโกงกินบ้านเมืองยังคงมีอำนาจในการบริหารประเทศ และกำลังถูกไล่และเรียกร้องให้มีการเมืองใหม่เกิดขึ้น ซึ่งสถานการณ์ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 51 เป็นต้นมามีการปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างรุนแรงที่หน้ารัฐสภา ภาพความรุนแรงได้ถูกถ่ายทอดออกไปทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ชาวบ้านที่สนใจข่าวสารและความจริงจึงให้ความสนใจติดตามชมรายการโทรทัศน์ช่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
โดยตลอดคืนที่ผ่านมา ชาวบ้านใน อ.วังชิ้น หลายหมู่บ้านต่างพากันดูรายการโทรทัศน์ดังกล่าวด้วยเครื่องฉายโปรเจกเตอร์ที่แกนนำชาวบ้านร่วมกันจัดซื้อมาและได้รับจานดาวเทียมจากสำนักฮอมบุญอโศก ต.ป่าไผ่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ นำไปมอบให้ ชาวบ้านให้ความสนใจการปราบปรามอย่างรุนแรงของตำรวจและพบว่าข้อมูลข่าวสารที่ไปยังหมู่บ้านกับภาพที่เห็นไม่ตรงกัน ชาวบ้านเชื่อว่าการถ่ายทอดสดเป็นประเด็นที่ถูกต้องกว่าสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย หรือแม้กระทั่งฟรีทีวีทั่วไป
ชาวบ้านต่างไม่พอใจการทำงานของรัฐบาลชุดนายสมชายที่ขาดความรับผิดชอบในการดำเนินการปราบกลุ่มผู้ชุมนุม นายติ๊บ หล้าบือ แกนนำชาวบ้านในหมู่ 9 บ้านแม่พุงหลวง ต.แม่พุง อ.วังชิ้น จ.แพร่ กล่าวว่า ชาวบ้านในหมู่บ้านติดตามดูรายการโทรทัศน์เอเอสทีวีอย่างต่อเนื่อง บางคืนเปิดเกือบตลอดคืนในช่วงที่มีสถานการณ์คับขัน โดยเฉพาะในคืนวันที่ 9 ตุลาคม เป็นคืนที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และพล.ต.จำลอง ศรีเมือง ได้รับการปล่อยตัว พร้อมทั้งยกเลิกข้อหากบฏ มีประชาชนสนใจมาก
นายติ๊บ ให้เห็นผลถึงการกระทำของรัฐในครั้งนี้จนมีประชาชนเสียชีวิตว่า เป็นการทำงานที่เกินกว่าเหตุ การยิงแก๊สน้ำตานั้นมุ่งปากกระบอกไปสู่ฝูงชน และยังมีผู้ใช้อาวุธปืน ระเบิด เพื่อทำลายกลุ่มผุ้ชุมนุม ในความจริงแล้วหลักสากลนั้นตำรวจสกัดม็อบได้ ชาวบ้านเองก็ชุมนุมได้ ถือว่าทั้งสองฝ่ายไม่ผิดกฎหมายและทำตามกฎหมาย แต่ในขณะที่ชาวบ้านชุมนุมตำรวจต้องใช้ความระมัดระวังที่สุดในการผลักดันกลุ่มผุ้ชุมนุม
แต่ในครั้งนี้ระดมยิงใส่เพื่อให้เกิดการสูญเสีย อยากเรียกว่า เป็นสันดานของตำรวจก็ว่าได้ ชาวบ้านต่างไม่พอใจและออกมาร่วมกันดูทีวีทุกวันเพื่อเอาใจช่วยกลุ่มประชาชนที่ไปรวมตัวเรียกร้องให้รัฐบาลออกไป และไม่ใช่กลุ่มคนเล็กๆ ที่ตำรวจพยายามจะเรียกว่า “กลุ่มพันธมิตร” แต่ที่จริงแล้วเป็นประชาชนจากทั่วประเทศไปรวมตัวกันที่อำเภอวังชิ้น ที่อำเภอสูงเม่น อ.ร้องกวาง ก็เดินทางไปร่วมต่อต้านรัฐบาล
“อยากถามเหมือนมหาจำลองว่า ถ้าเป็นการสลายแบบถูกวิธีแบบสากล ขอให้บิดาของนายกรัฐมนตรีมายืนอยู่เบื้องหน้าแล้วผมยิงแก๊ซน้ำตาเข้าใส่ตรงๆ บ้าง นายกรัฐมนตรีจะคิดอย่างไร”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะที่ชาวบ้านในจังหวัดแพร่เริ่มเห็นว่ารัฐบาลไม่ชอบธรรมและพากันเอาใจช่วยประชาชนที่ไปรวมตัวร่วมชุมนุมขับไล่มากขึ้น ในส่วนของนักการเมืองพรรคพลังประชาชนในจังหวัดแพร่ ทั้งหมดเริ่มออกหาเสียงและใช้อำนาจรัฐใช้งบประมาณออกมาพิมพ์รูป ส.ส. ติดหน้าสถานศึกษา จัดกิจกรรมร่วมกับนักศึกษาโดยส่วนราชการเป็นผู้ดำเนินการให้
โดยเฉพาะนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ ซึ่งได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม เลิกการส่งเสริมปลัดขิกแล้วโดยหันมาติดป้ายว่าชาวแพร่สนับสนุนและแสดงความยินดีที่ท่านได้เป็นรัฐมนตรีและเริ่มฟื้นฟูโครงการเก่าๆ ที่เคยหาเสียงเอาไว้และในช่วงเป็น ส.ส. เช่นงานตั้งโรงงานอบมะม่วงที่ ต.แม่จั๊วะ อ.เด่นชัย เริ่มมีการติดป้ายให้คนเข้าไปดูกิจการและเริ่มอัดเม็ดเงินลงส่งเสริมชาวบ้านทำกิจกรรมแล้วโดยใช้งบประมาณของทางราชการ