4 แบงก์ใหญ่ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นกู้ปตท.ให้นักลงทุนทั่วไป-สถาบันการเงิน วงเงินรวมไม่หมื่นล้าน ประเภทอายุ 5 ปี ดอกเบี้ยสูงสุด 5.50% และอายุ 7 ปี ดอกเบี้ยสูงสุด 6.00% เปิดขาย 13-16 ต.ค.นี้ ด้านฟิทช์จัดอันดับเรทติ้งให้ AAA(tha)
นายสุรพันธ์ ปูรณคุปต์ เจ้าหน้าที่บริหารระดับ Senior Vice President สายวานิชธนกิจ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพ พร้อมด้วยธนาคารกสิกรไทย กรุงไทย และไทยพาณิชย์ ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ “PTT” ให้ร่วมกันเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ประเภทไม่มีประกัน ระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน ในวงเงินรวมไม่เกิน 10,000 ล้านบาท โดยสามารถจองซื้อได้ผ่านสาขาธนาคารพาณิชย์ทั่วประเทศที่ได้รับการแต่งตั้ง ยกเว้น ธนาคารกรุงเทพสาขาไมโคร ตั้งแต่วันที่ 13-16 ต.ค. นี้
สำหรับหุ้นกู้ของบมจ.ปตท. ที่จำหน่ายในครั้งนี้ มี 2 ประเภท ได้แก่ ชุดที่ 1 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 คงที่ที่ 5.00% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยปีที่ 4-5 คงที่ที่ 5.50% ต่อปี ชุดที่ 2 อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 คงที่ที่ 5.00% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 4-5 คงที่ที่ 5.50% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยปีที่ 6-7 คงที่ที่ 6.00% ต่อปี ทั้ง 2 ประเภท กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ทั้งนี้ นักลงทุนสามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณของ 100,000 บาท
นอกจากนี้ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว หุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. ครั้งที่ 1/2551 ชุดที่ 1 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2556 และชุดที่ 2 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2558 โดยมีมูลค่ารวมไม่เกิน 10,000 ล้านบาทดังกล่าว ที่ระดับ "AAA(tha)"
อันดับเครดิตสะท้อนถึงความเป็นผู้นำของปตท.ในธุรกิจก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในประเทศไทย ความสำคัญของปตท.ในการสนองนโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวกับความมั่นคงทางด้านพลังงานในประเทศไทย รวมถึงการมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการพัฒนากิจการพลังงานของประเทศด้วย
อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของอันดับเครดิตของปตท. ถูกลดทอนลงจากปัจจัยเสี่ยงที่บริษัทต้องเผชิญกับความผันผวนที่สูงของราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ แผนการลงทุนในอนาคตของปตท.ที่มีขนาดใหญ่ รวมถึงความเสี่ยงในเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางด้านกฎระเบียบและทางด้านการเมือง และความเสี่ยงในด้านอัตราแลกเปลี่ยนในระดับหนึ่ง ปตท.มีแผนการลงทุน 5 ปี (ปี 2551 ถึง 2555) ในโครงการต่างๆ รวมมูลค่า 2.4 แสนล้านบาท การลงทุนที่สูงอย่างต่อเนื่องน่าจะทำให้หนี้สินสุทธิและอัตราส่วนหนี้สินของปตท.เพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามสถานะทางการเงินและสภาพคล่องของบริษัทน่าจะยังคงแข็งแกร่งอยู่ โดยที่อัตราส่วนหนี้สินสุทธิของบริษัทน่าจะอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 2.0 เท่าของ EBITDA
ส่วนแนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าปตท.จะสามารถรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งมากอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และสามารถรักษาสถานะทางการเงินให้อยู่ในระดับที่สอดคล้องกับอันดับเครดิต ณ ปัจจุบันของบริษัทได้ตลอดช่วงวัฏจักรของธุรกิจก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน และการคาดการณ์ว่ากระทรวงการคลังจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในปตท.
นายสุรพันธ์ ปูรณคุปต์ เจ้าหน้าที่บริหารระดับ Senior Vice President สายวานิชธนกิจ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพ พร้อมด้วยธนาคารกสิกรไทย กรุงไทย และไทยพาณิชย์ ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ “PTT” ให้ร่วมกันเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ประเภทไม่มีประกัน ระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน ในวงเงินรวมไม่เกิน 10,000 ล้านบาท โดยสามารถจองซื้อได้ผ่านสาขาธนาคารพาณิชย์ทั่วประเทศที่ได้รับการแต่งตั้ง ยกเว้น ธนาคารกรุงเทพสาขาไมโคร ตั้งแต่วันที่ 13-16 ต.ค. นี้
สำหรับหุ้นกู้ของบมจ.ปตท. ที่จำหน่ายในครั้งนี้ มี 2 ประเภท ได้แก่ ชุดที่ 1 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 คงที่ที่ 5.00% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยปีที่ 4-5 คงที่ที่ 5.50% ต่อปี ชุดที่ 2 อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 คงที่ที่ 5.00% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 4-5 คงที่ที่ 5.50% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยปีที่ 6-7 คงที่ที่ 6.00% ต่อปี ทั้ง 2 ประเภท กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ทั้งนี้ นักลงทุนสามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณของ 100,000 บาท
นอกจากนี้ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว หุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. ครั้งที่ 1/2551 ชุดที่ 1 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2556 และชุดที่ 2 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2558 โดยมีมูลค่ารวมไม่เกิน 10,000 ล้านบาทดังกล่าว ที่ระดับ "AAA(tha)"
อันดับเครดิตสะท้อนถึงความเป็นผู้นำของปตท.ในธุรกิจก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในประเทศไทย ความสำคัญของปตท.ในการสนองนโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวกับความมั่นคงทางด้านพลังงานในประเทศไทย รวมถึงการมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการพัฒนากิจการพลังงานของประเทศด้วย
อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของอันดับเครดิตของปตท. ถูกลดทอนลงจากปัจจัยเสี่ยงที่บริษัทต้องเผชิญกับความผันผวนที่สูงของราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ แผนการลงทุนในอนาคตของปตท.ที่มีขนาดใหญ่ รวมถึงความเสี่ยงในเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางด้านกฎระเบียบและทางด้านการเมือง และความเสี่ยงในด้านอัตราแลกเปลี่ยนในระดับหนึ่ง ปตท.มีแผนการลงทุน 5 ปี (ปี 2551 ถึง 2555) ในโครงการต่างๆ รวมมูลค่า 2.4 แสนล้านบาท การลงทุนที่สูงอย่างต่อเนื่องน่าจะทำให้หนี้สินสุทธิและอัตราส่วนหนี้สินของปตท.เพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามสถานะทางการเงินและสภาพคล่องของบริษัทน่าจะยังคงแข็งแกร่งอยู่ โดยที่อัตราส่วนหนี้สินสุทธิของบริษัทน่าจะอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 2.0 เท่าของ EBITDA
ส่วนแนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าปตท.จะสามารถรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งมากอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และสามารถรักษาสถานะทางการเงินให้อยู่ในระดับที่สอดคล้องกับอันดับเครดิต ณ ปัจจุบันของบริษัทได้ตลอดช่วงวัฏจักรของธุรกิจก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน และการคาดการณ์ว่ากระทรวงการคลังจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในปตท.
