" ธีระชัย" เล็งเสนอ ก.ล.ต.อาเซียน ม.ค.52 กำหนดหนี้สินต่อทุนของโบรกเกอร์ในอาเชียนใช้เป็นมาตรฐานเดียวกัน สร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนต่างชาติที่จะมาลงทุน ป้องกันไม่ให้ปัญหาเหมือนสหรัฐฯ คาดตลาดหุ้นไทยผันผวนสูงจนถึงสิ้นปี เหตุฝรั่งขายหุ้นต่อเนื่อง แต่ยังน่าสนใจลงทุนกว่าตลาดหุ้นอื่น ขณะที่ บจ.ไทย ปันผลสูง 5-6 % ดีอีต่ำ สภาพคล่องทางการเงินดี ยันไม่เลื่อนเปิดเสรีใบไลเซ่นส์
นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่าจากสถาบันการเงินในสหรัฐฯมีปัญหานั้นเกิดจากการที่ก.ล.ต.สหรัฐมีการกำกับดูและที่ไม่ดีปล่อยให้สถาบันการเงินปล่อยกู้สูงกว่าทุนมากเกินไปทำให้ภาวะตลาดเงินผันผวนและมีความเสี่ยงสูง จนกิจการล้มละลาย ดังนั้นในการประชุมก.ล.ต.อาเชียนที่จะมีขึ้นเดือนมกราคม 52 นั้น ก.ล.ต.ไทยจะเสนอให้กำหนดหนี้สินต่อทุนของบริษัทหลักทรัพย์(โบรกเกอร์)ในอาเชียนไม่ควรที่จะสูงกว่า 12 เท่าของทุน เพื่อใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งอาเซียน
ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในอาเชียนว่าจะไม่เกิดปัญหาเหมือนกับสหรัฐฯ และยุโรป และสร้างความแข็งแรงให้ตลาดหุ้นอาเซียนเป็นศูนย์กลางการเงินที่แข็งแรง ซึ่งเร็วๆ นี้ ก.ล.ต.ไทยจะส่งเรื่องดังกล่าวไปให้ ก.ล.ต.อาเซียนรับทราบก่อนเพื่อที่จะได้มีเวลาในการพิจารณา ก่อนจะประชุม
" ผลจากศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญของโลกคือสหรัฐฯเครตดิตจะเสีย หลังประสบปัญหาทางการเงิน จากที่ ก.ล.ต.สหรัฐดูแลการปล่อยสินเชื่อไม่ดี โดยปล่อยให้มีสินทรัพย์ 100 แต่มีทุน เพียง 2 หรือ 1 เท่า ถือว่าต่ำมาก เป็นเหตุให้สถาบันการเงินสหรัฐต้านทานความผันผวนไม่อยู่ จึงขาดทุนและล้มละลาย ทำให้มีแนวคิดที่จะกำหนดหนี้สินต่อทุนของบล.ในอาเชียนไม่ควรสูงเกินกว่า12 เท่าซึ่งบล.ไทยมีหนี้สินต่อทุนเฉลี่ยเพียง 2 เท่า และสูงสุดเพียง 8 เท่า " นายธีระชัย กล่าว
สำหรับผลกระทบของสหรัฐฯ กระทบกับสถาบันการเงินเอเชียน้อยมาก และถือว่าการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ถือเป็นโอกาสที่สถาบันการเงินเอเชียจะไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ยุโรป สหรัฐฯในราคาต่ำเพราะต้องการขายสินทรัพย์ออก ซึ่งเศรษฐกิจสหรัฐฯซบเซาถึงกลางปีหน้าจะกระทบกับการส่งออกของประเทศที่เป็นคู่ค้า
นายธีระชัย กล่าวว่านักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นไทยออกมาเป็นช่วงๆเพราะ จำเป็นต้องนำเงินไปคืนผู้ถือหน่วยลงทุน ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยจากนี้ถึงสิ้นปีจะมีความผันผวนสูง แต่การที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงไม่มากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เพราะตลาดหุ้นเกิดใหม่จะปรับตัวขึ้นแรง ส่งผลให้ 7-8 เดือนที่ผ่านมานั้นเมื่อตลาดหุ้นเกิดใหม่ปรับตัวลดลงตลาดหุ้นไทยก็ลงตามแต่ไม่มาก
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยถือว่าน่าสนใจลงทุนกว่าตลาดหุ้นอื่น เพราะบริษัทจดทะเบียนไทยหลายแห่งมีกระแสเงินสดสูง ธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง มีกำไรดี หนี้สินต่อทุนต่ำ (D/E) และมีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลสูงถึง 5-6 % ซึ่งเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุน แม้ต่างชาติจะขายหุ้น แต่ก็มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเข้ามาซื้อ ซึ่งเป็นเงินออม ไม่ใช่การกู้ยืม
จากข่าวลือที่ทางบล.จะเสนอให้เลื่อนเปิดเสรีใบอนุญาตหลักทรัพย์ (ใบไลเซ่นส์) และค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์ (คอมมิชชั่น)ออกไป เพราะภาวะตลาดไม่ดี ก.ล.ต.จะประชุมกับทางสมาคมโบรกเกอร์ ปลายเดือนตุลาคมนี้ โดยจะเน้นสอบถามความคืบหน้าเรื่องการปรับตัวของโบรกเกอร์ในการเปิดเสรีฯ ซึ่งขณะนี้หลายแห่งเริ่มปรับตัวแล้ว และวางแผนการควบรวม การขายกิจการออกไปโดยจะเน้นเฉพาะธุรกิจที่ตนชำนาญ โดยเรื่องที่สำคัญของโบรกเกอร์ขณะนี้จะเป็นการวางแผน การหาสินค้าใหม่ๆ เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการหารายได้
"การประชุมปลายเดือนนี้ จะหารือเรื่องความคืบหน้าการเตรียมตัวหารายได้ใหม่ หากโบรกเกอร์ติดขัดเรื่องการควบรวมหรือ อื่นๆ ก็บอกมา เพื่อเราจะได้หาทางช่วยเหลือ " นายธีระชัย กล่าว
นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่าจากสถาบันการเงินในสหรัฐฯมีปัญหานั้นเกิดจากการที่ก.ล.ต.สหรัฐมีการกำกับดูและที่ไม่ดีปล่อยให้สถาบันการเงินปล่อยกู้สูงกว่าทุนมากเกินไปทำให้ภาวะตลาดเงินผันผวนและมีความเสี่ยงสูง จนกิจการล้มละลาย ดังนั้นในการประชุมก.ล.ต.อาเชียนที่จะมีขึ้นเดือนมกราคม 52 นั้น ก.ล.ต.ไทยจะเสนอให้กำหนดหนี้สินต่อทุนของบริษัทหลักทรัพย์(โบรกเกอร์)ในอาเชียนไม่ควรที่จะสูงกว่า 12 เท่าของทุน เพื่อใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งอาเซียน
ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในอาเชียนว่าจะไม่เกิดปัญหาเหมือนกับสหรัฐฯ และยุโรป และสร้างความแข็งแรงให้ตลาดหุ้นอาเซียนเป็นศูนย์กลางการเงินที่แข็งแรง ซึ่งเร็วๆ นี้ ก.ล.ต.ไทยจะส่งเรื่องดังกล่าวไปให้ ก.ล.ต.อาเซียนรับทราบก่อนเพื่อที่จะได้มีเวลาในการพิจารณา ก่อนจะประชุม
" ผลจากศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญของโลกคือสหรัฐฯเครตดิตจะเสีย หลังประสบปัญหาทางการเงิน จากที่ ก.ล.ต.สหรัฐดูแลการปล่อยสินเชื่อไม่ดี โดยปล่อยให้มีสินทรัพย์ 100 แต่มีทุน เพียง 2 หรือ 1 เท่า ถือว่าต่ำมาก เป็นเหตุให้สถาบันการเงินสหรัฐต้านทานความผันผวนไม่อยู่ จึงขาดทุนและล้มละลาย ทำให้มีแนวคิดที่จะกำหนดหนี้สินต่อทุนของบล.ในอาเชียนไม่ควรสูงเกินกว่า12 เท่าซึ่งบล.ไทยมีหนี้สินต่อทุนเฉลี่ยเพียง 2 เท่า และสูงสุดเพียง 8 เท่า " นายธีระชัย กล่าว
สำหรับผลกระทบของสหรัฐฯ กระทบกับสถาบันการเงินเอเชียน้อยมาก และถือว่าการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ถือเป็นโอกาสที่สถาบันการเงินเอเชียจะไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ยุโรป สหรัฐฯในราคาต่ำเพราะต้องการขายสินทรัพย์ออก ซึ่งเศรษฐกิจสหรัฐฯซบเซาถึงกลางปีหน้าจะกระทบกับการส่งออกของประเทศที่เป็นคู่ค้า
นายธีระชัย กล่าวว่านักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นไทยออกมาเป็นช่วงๆเพราะ จำเป็นต้องนำเงินไปคืนผู้ถือหน่วยลงทุน ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยจากนี้ถึงสิ้นปีจะมีความผันผวนสูง แต่การที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงไม่มากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เพราะตลาดหุ้นเกิดใหม่จะปรับตัวขึ้นแรง ส่งผลให้ 7-8 เดือนที่ผ่านมานั้นเมื่อตลาดหุ้นเกิดใหม่ปรับตัวลดลงตลาดหุ้นไทยก็ลงตามแต่ไม่มาก
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยถือว่าน่าสนใจลงทุนกว่าตลาดหุ้นอื่น เพราะบริษัทจดทะเบียนไทยหลายแห่งมีกระแสเงินสดสูง ธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง มีกำไรดี หนี้สินต่อทุนต่ำ (D/E) และมีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลสูงถึง 5-6 % ซึ่งเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุน แม้ต่างชาติจะขายหุ้น แต่ก็มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเข้ามาซื้อ ซึ่งเป็นเงินออม ไม่ใช่การกู้ยืม
จากข่าวลือที่ทางบล.จะเสนอให้เลื่อนเปิดเสรีใบอนุญาตหลักทรัพย์ (ใบไลเซ่นส์) และค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์ (คอมมิชชั่น)ออกไป เพราะภาวะตลาดไม่ดี ก.ล.ต.จะประชุมกับทางสมาคมโบรกเกอร์ ปลายเดือนตุลาคมนี้ โดยจะเน้นสอบถามความคืบหน้าเรื่องการปรับตัวของโบรกเกอร์ในการเปิดเสรีฯ ซึ่งขณะนี้หลายแห่งเริ่มปรับตัวแล้ว และวางแผนการควบรวม การขายกิจการออกไปโดยจะเน้นเฉพาะธุรกิจที่ตนชำนาญ โดยเรื่องที่สำคัญของโบรกเกอร์ขณะนี้จะเป็นการวางแผน การหาสินค้าใหม่ๆ เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการหารายได้
"การประชุมปลายเดือนนี้ จะหารือเรื่องความคืบหน้าการเตรียมตัวหารายได้ใหม่ หากโบรกเกอร์ติดขัดเรื่องการควบรวมหรือ อื่นๆ ก็บอกมา เพื่อเราจะได้หาทางช่วยเหลือ " นายธีระชัย กล่าว