เฟดออกแถลงการณ์รับมือวิกฤติ เลห์แมนฯ ไฟเขียวมาตรการเสริมสภาพคล่องในระบบ พร้อมขยายขอบเขตหลักทรัพย์ค้ำประกันปล่อยกู้ในรูปของพันธบัตรรัฐบาล
วันนี้ ( 15 ก.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกแถลงการณ์ด่วน โดยระบุว่า คณะกรรมการของธนาคารกลางสหรัฐ (บอร์ดเฟด) ประกาศในวันอาทิตย์ถึงมาตรการริเริ่มบางประการเพื่อให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ตลาดการเงิน ซึ่งรวมถึงการเพิ่มวงเงินสภาพคล่องที่มีอยู่แล้ว หลังสถาบันการเงินขนาดใหญ่หลายแห่ง กำลังตกอยู่ในภาวะน่าที่น่าเป็นห่วง และบางแห่งมีแนวโน้มที่จะล้มละลาย
นายเบน เบอร์นันกี ประธานเฟด กล่าวยอมรับว่า เฟดได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับกระทรวงการคลัง และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของสหรัฐ โดยมีการหารือกันอย่างต่อเนื่องกับผู้เกี่ยวข้องในตลาด ซึ่งรวมถึงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อระบุถึงจุดอ่อนที่อาจเกิดขึ้นในตลาดหลังจากเกิดปัญหาในสถาบันการเงินขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง และเพื่อพิจารณาถึงการตอบรับอย่างเหมาะสมทั้งในภาครัฐบาลและภาคเอกชน
ทั้งนี้ มาตรการที่เราประกาศออกมาในวันนี้ รวมทั้งมาตรการสำคัญที่ภาคเอกชนประกาศออกมา มีจุดประสงค์ที่จะลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและลดอุปสรรคในตลาด
นายเบอร์นันกี กล่าวเสริมว่า เฟดได้ติดต่ออย่างใกล้ชิดกับผู้ควบคุมกฎระเบียบรายอื่นๆของสหรัฐและของต่างประเทศ รวมทั้งติดต่อกับเจ้าหน้าที่ด้านการกำกับดูแลและธนาคารกลางหลายแห่งเพื่อสอดส่องและแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตลาดการเงินและบริษัททั่วโลก"
นอกจากนี้ เฟด ยังได้ขยายขอบเขตของหลักทรัพย์ที่สามารถนำมาใช้ในการประกันการกู้ยืมในโครงการปล่อยกู้แก่บริษัทดีลเลอร์ชั้นนำ (PDCF) เพื่อให้ใกล้เคียงกับประเภทของหลักทรัพย์ที่สามารถใช้ในการประกันการกู้ยืมในระบบรีโปสามฝ่ายของธนาคารชำระบัญชีขนาดใหญ่สองแห่ง
โดยก่อนหน้านี้ หลักทรัพย์ประกันการกู้ยืมในโครงการ PDCF ถูกจำกัดไว้เพียงแค่หลักทรัพย์ตราสารหนี้ที่มีอันดับน่าลงทุนเท่านั้น เฟดได้ขยายขอบเขตของหลักทรัพย์ที่สามารถนำมาใช้ในการประกันการกู้ยืมในโครงการปล่อยกู้ในรูปของพันธบัตรรัฐบาล (TSLF) ด้วยเช่นกันโดยขณะนี้หลักทรัพย์ที่สามารถนำมาใช้ประกันการกู้ยืมในการประมูลโครงการ 2 รวมถึงหลักทรัพย์ตราสารหนี้ที่มีอันดับน่าลงทุนทุกประเภท
เฟดยังระบุว่า ก่อนหน้านี้ เฟด ได้อนุญาตให้ใช้ได้เพียงพันธบัตรรัฐบาล , หลักทรัพย์ของหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล และหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสินทรัพย์หรือสัญญาจำนองที่มีอันดับความน่าเชื่อถือขั้น AAA เท่านั้น
ความเปลี่ยนแปลงนี้แสดงให้เห็นถึงการขยายขอบเขตครั้งใหญ่ในหลักทรัพย์ประกันการกู้ยืมที่เฟดยอมรับได้ในทั้งสองโครงการ และจะส่งเสริมประสิทธิภาพของโครงการทั้งสองในการอัดฉีดสภาพคล่องให้แก่บริษัทดีลเลอร์ชั้นนำและตลาดการเงิน
นายเบอร์นันกี ระบุเพิ่มเติมว่า เฟดยังกำหนดให้มีการเปิดประมูล TSLF ในโครงการ 2 ทุกสัปดาห์ แทนที่จะเป็นทุกสองสัปดาห์เหมือนแต่ก่อน นอกจากนี้ ปริมาณพันธบัตรที่จะนำออกประมูลในโครงการ 2 ก็ได้รับการปรับเพิ่มขึ้นสู่ 1.50 แสนล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ 1.25 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนปริมาณพันธบัตรที่ออกประมูลในโครงการ 1 ยังคงอยู่ที่ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ตามเดิม ด้วยเหตุนี้ ปริมาณพันธบัตรทั้งหมดที่ออกประมูลในโครงการ TSLF จึงเพิ่มขึ้นสู่ 2 แสนล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ 1.75 แสนล้านดอลลาร์
นอกเหนือจากนี้ บอร์ดของเฟดได้ใช้กฎเฉพาะกาลขั้นสุดท้ายที่กำหนดข้อยกเว้นเป็นการชั่วคราวให้แก่ข้อจำกัดในมาตรา 23 A ในกฎหมายธนาคารกลางสหรัฐ โดยกฎเฉพาะกาลนี้อนุญาตให้สถาบันเงินฝากที่ได้รับการค้ำประกันทุกแห่งสามารถอัดฉีดสภาพคล่องให้แก่กิจการในเครือ โดยใช้สินทรัพย์ที่ปกติแล้วมักจะได้มาในตลาดรีโป 3 ฝ่าย โดยข้อยกเว้นนี้จะหมดอายุลงในวันที่30 ม.ค.2009 นอกจากว่าทางคณะกรรมการจะตัดสินใจขยายเวลาออกไปและข้อยกเว้นนี้ตั้งอยู่บนเงื่อนไขหลายประการในการส่งเสริมความปลอดภัย และความแข็งแกร่งของระบบการเงิน
วันนี้ ( 15 ก.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกแถลงการณ์ด่วน โดยระบุว่า คณะกรรมการของธนาคารกลางสหรัฐ (บอร์ดเฟด) ประกาศในวันอาทิตย์ถึงมาตรการริเริ่มบางประการเพื่อให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ตลาดการเงิน ซึ่งรวมถึงการเพิ่มวงเงินสภาพคล่องที่มีอยู่แล้ว หลังสถาบันการเงินขนาดใหญ่หลายแห่ง กำลังตกอยู่ในภาวะน่าที่น่าเป็นห่วง และบางแห่งมีแนวโน้มที่จะล้มละลาย
นายเบน เบอร์นันกี ประธานเฟด กล่าวยอมรับว่า เฟดได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับกระทรวงการคลัง และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของสหรัฐ โดยมีการหารือกันอย่างต่อเนื่องกับผู้เกี่ยวข้องในตลาด ซึ่งรวมถึงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อระบุถึงจุดอ่อนที่อาจเกิดขึ้นในตลาดหลังจากเกิดปัญหาในสถาบันการเงินขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง และเพื่อพิจารณาถึงการตอบรับอย่างเหมาะสมทั้งในภาครัฐบาลและภาคเอกชน
ทั้งนี้ มาตรการที่เราประกาศออกมาในวันนี้ รวมทั้งมาตรการสำคัญที่ภาคเอกชนประกาศออกมา มีจุดประสงค์ที่จะลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและลดอุปสรรคในตลาด
นายเบอร์นันกี กล่าวเสริมว่า เฟดได้ติดต่ออย่างใกล้ชิดกับผู้ควบคุมกฎระเบียบรายอื่นๆของสหรัฐและของต่างประเทศ รวมทั้งติดต่อกับเจ้าหน้าที่ด้านการกำกับดูแลและธนาคารกลางหลายแห่งเพื่อสอดส่องและแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตลาดการเงินและบริษัททั่วโลก"
นอกจากนี้ เฟด ยังได้ขยายขอบเขตของหลักทรัพย์ที่สามารถนำมาใช้ในการประกันการกู้ยืมในโครงการปล่อยกู้แก่บริษัทดีลเลอร์ชั้นนำ (PDCF) เพื่อให้ใกล้เคียงกับประเภทของหลักทรัพย์ที่สามารถใช้ในการประกันการกู้ยืมในระบบรีโปสามฝ่ายของธนาคารชำระบัญชีขนาดใหญ่สองแห่ง
โดยก่อนหน้านี้ หลักทรัพย์ประกันการกู้ยืมในโครงการ PDCF ถูกจำกัดไว้เพียงแค่หลักทรัพย์ตราสารหนี้ที่มีอันดับน่าลงทุนเท่านั้น เฟดได้ขยายขอบเขตของหลักทรัพย์ที่สามารถนำมาใช้ในการประกันการกู้ยืมในโครงการปล่อยกู้ในรูปของพันธบัตรรัฐบาล (TSLF) ด้วยเช่นกันโดยขณะนี้หลักทรัพย์ที่สามารถนำมาใช้ประกันการกู้ยืมในการประมูลโครงการ 2 รวมถึงหลักทรัพย์ตราสารหนี้ที่มีอันดับน่าลงทุนทุกประเภท
เฟดยังระบุว่า ก่อนหน้านี้ เฟด ได้อนุญาตให้ใช้ได้เพียงพันธบัตรรัฐบาล , หลักทรัพย์ของหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล และหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสินทรัพย์หรือสัญญาจำนองที่มีอันดับความน่าเชื่อถือขั้น AAA เท่านั้น
ความเปลี่ยนแปลงนี้แสดงให้เห็นถึงการขยายขอบเขตครั้งใหญ่ในหลักทรัพย์ประกันการกู้ยืมที่เฟดยอมรับได้ในทั้งสองโครงการ และจะส่งเสริมประสิทธิภาพของโครงการทั้งสองในการอัดฉีดสภาพคล่องให้แก่บริษัทดีลเลอร์ชั้นนำและตลาดการเงิน
นายเบอร์นันกี ระบุเพิ่มเติมว่า เฟดยังกำหนดให้มีการเปิดประมูล TSLF ในโครงการ 2 ทุกสัปดาห์ แทนที่จะเป็นทุกสองสัปดาห์เหมือนแต่ก่อน นอกจากนี้ ปริมาณพันธบัตรที่จะนำออกประมูลในโครงการ 2 ก็ได้รับการปรับเพิ่มขึ้นสู่ 1.50 แสนล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ 1.25 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนปริมาณพันธบัตรที่ออกประมูลในโครงการ 1 ยังคงอยู่ที่ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ตามเดิม ด้วยเหตุนี้ ปริมาณพันธบัตรทั้งหมดที่ออกประมูลในโครงการ TSLF จึงเพิ่มขึ้นสู่ 2 แสนล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ 1.75 แสนล้านดอลลาร์
นอกเหนือจากนี้ บอร์ดของเฟดได้ใช้กฎเฉพาะกาลขั้นสุดท้ายที่กำหนดข้อยกเว้นเป็นการชั่วคราวให้แก่ข้อจำกัดในมาตรา 23 A ในกฎหมายธนาคารกลางสหรัฐ โดยกฎเฉพาะกาลนี้อนุญาตให้สถาบันเงินฝากที่ได้รับการค้ำประกันทุกแห่งสามารถอัดฉีดสภาพคล่องให้แก่กิจการในเครือ โดยใช้สินทรัพย์ที่ปกติแล้วมักจะได้มาในตลาดรีโป 3 ฝ่าย โดยข้อยกเว้นนี้จะหมดอายุลงในวันที่30 ม.ค.2009 นอกจากว่าทางคณะกรรมการจะตัดสินใจขยายเวลาออกไปและข้อยกเว้นนี้ตั้งอยู่บนเงื่อนไขหลายประการในการส่งเสริมความปลอดภัย และความแข็งแกร่งของระบบการเงิน