xs
xsm
sm
md
lg

จับตา "สภาคองเกรส" ผ่าวิกฤตโลก นลท.ผวา "รีพับลิกัน-เดโมแครต" แตกคอแผนอุ้ม 7 $แสนล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ทั่วโลกลุ้นระทึก "สภาคองเกรส" เห็นชอบมาตรการกู้วิกฤตการเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์ ตามข้อเรียกร้องเร่งด่วนของรัฐบาล เพื่อผ่าทางตันสถาบันการเงินล้ม นักวิเคราะห์หวั่นปัญหาวิกฤตการเงินโลก ลุกลามเข้าสู่สนามการเมืองสหรัฐ เพื่อใช้ช่วงชิงคะแนนเสียงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ระบุ พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต ยังเห็นสวนทางในการแก้วิกฤต ส่งผลให้ดาวโจนส์-ตลาดหุ้นเอเชีย กอดคอร่วงแบบระเนระนาด ขณะที่นักลงทุนหันเก็งกำไรน้ำมัน ราคาพุ่งพรวดเดียว 25 ดอลลาร์/บาเรล

(23 ก.ย.) สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ของสหรัฐได้เรียกร้องให้ทางสภาผู้แทนราษฎร (สภาคองเกรส) เห็นชอบข้อเสนอใช้แผนกู้วิกฤตการเงินโดยไม่ต้องมีการเพิ่มเงื่อนไขใดๆ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการใช้มาตรการดังกล่าว

โดยทีมเศรษฐกิจของ ปธน.บุช ได้ยื่นข้อเสนอใช้มาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจการเงินเป็นมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐให้ทางสภาคองเกรสพิจารณาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่วิกฤตการณ์ครั้งนี้ได้ส่งผลให้วาณิชธนกิจรายใหญ่อย่างเลห์แมน บราเธอร์ส ประสบภาวะล้มละลาย ขณะที่เมอร์ริล ลินช์ ต้องขายกิจการ และรัฐบาลต้องเข้าเทคโอเวอร์บริษัทอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (เอไอจี) ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

นายบาร์นีย์ แฟรงค์ ประธานคณะกรรมาธิการด้านการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐ กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้เห็นพ้องที่จะเพิ่มเงื่อนไขบางประการที่ถูกมองข้ามไป และเพิ่มรายละเอียดในการป้องกันการยึดทรัพย์หลุดจำนอง

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐ ยังเห็นชอบกับข้อคิดเห็นของรัฐบาลที่จะให้มีการซื้อหุ้นของบริษัทที่ได้รับความช่วยเหลือในมาตรการครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม สภาคองเกรสซึ่งมีสมาชิกพรรคเดโมแครตที่ยังคงครองเสียงข้างมาก และกระทรวงการคลังยังคงมีความเห็นไม่ลงรอยกันเกี่ยวกับการปรับลดเงินชดเชยให้กับผู้บริหารในวอลล์สตรีท พร้อมการเพิ่มเงื่อนไขในการตัดสินภาวะล้มละลายในตลาดปล่อยกู้จำนอง (ซับไพรม์)

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ผลการหารือช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สภาคองเกรส ซึ่งคุมโดยพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ต้องการให้ธนาคารกลางสหรัฐ เรียกร้องหุ้นทุน (Equity) บางส่วนจากธนาคารต่างๆ มาไว้ในกองทุนใหม่ที่รัฐบาลจะจัดตั้งขึ้น แลกกับการที่จะให้เงินช่วยกอบกู้จากหนี้เสีย กับจะมีข้อตกลงเรื่องแผนการกำกับดูแลต่างๆ ด้วย และสมรชิกอาวุโสบางคนในสภาคองเกรสของทั้งสองพรรคเตือนด้วยว่า จะไม่รีบร้อนตัดสินใจในเรื่องนี้ซึ่งเป็นมาตรการที่สหรัฐไม่เคยทำมาก่อน

ทั้งนี้ ความปั่นป่วนของตลาดหุ้นดูเหมือนจะส่งผลดีต่อนายบารัก โอบามา ตัวแทนพรรคเดโมแครตไปชิงประธานาธิบดีสหรัฐด้วย โดยโพลล์ของซีเอ็น โอพีเนี่ยน รีเสิร์ช คอร์ปอเรชั่น ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ระบุว่าเขามีคะแนนนิยมนำนายจอห์น แมคเคน ของรีพับลิกัน ร้อยละ 51 ต่อ 46 และร้อยละ 47 หรือชาวอเมริกันทุก 1 ใน 2 คน ตำหนิพรรครีพับลิกันที่ทำให้เกิดวิกฤตการเงินครั้งนี้

**ดาวโจนส์ร่วง 370 จุด น้ำมันพุ่งพรวด 25 ดอลลาร์/บาเรล

ความไม่ชัดเจนในแผนแก้ไขปัญหาที่ลามไปสู่การตัดสินโดยมีเงื่อนไขทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวช้อง ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั้งในสหรัฐและยุโรปพากันตกลงอย่างหนัก รวมทั้งดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ตกลงมากกว่า 370 จุด

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบก็มีราคาสูงขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ในวันเดียวกัน โดยเฉพาะน้ำมันดิบไลท์ สวีท กำหนดส่งมอบในเดือน ต.ค. มีราคาพุ่งสูญขึ้นถึง 25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มเป็นเป็น 130 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในการซื้อขายช่วงหนึ่งที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ก่อนจะปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ที่ 22 ก.ย.ที่ระดับ 120.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ระหว่างรอคอยการตัดสินใจของสภาคองเกรสต่อแผนทุ่มเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยตลาดหุ้นไม่ให้ล้มละลาย ท่ามกลางแรงกดดันจากตลาดโลก และประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ให้สภาคองเกรสตัดสินใจโดยเร็ว แต่นักวิเคราะห์ก็ระบุว่าตลาดหุ้นยังไม่ตื่นตระหนกเท่ากับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

**ตลาดหุ้นเอเชียพร้อมใจกอดคอร่วง

บรรยาการศในตลาดหุ้นเอเชีย วันนี้ เปิดตลาดร่วงลงแรงตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังไม่แน่ใจว่า แผนการแก้วิกฤติการเงินที่รัฐบาลสหรัฐวางเอาไว้ จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นอย่างไร ซึ่งขณะนี้ นักลงทุนทั่วโลก กำลังจับตารัฐบาลของสหรัฐ ซึ่งยังอยู่ระหว่างการหารือกับสมาชิกสภาคองเกรส เกี่ยวกับแผนการช่วยเหลือสถาบันการเงินมูลค่า 700,000 ล้านดอลลาร์

โดยหลังเปิดตลาดในวันนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิท ทั้งกระดานเอและบี ร่วงลงไป 0.52% , ส่วนที่ฮ่องกง ดัชนีฮังเส็ง ร่วงลง 1.9% ตลาดหุ้นออสเตรเลียดิ่งลง 1.9% เช่นกัน และดัชนีสเตรทส์ ไทมส์ ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ดิ่งลง 1.84% ส่วนตลาดหุ้นโตเกียวปิดทำการเพราะเป็นวันหยุดสาธารณะ โดยจะเปิดทำการอีกครั้งในวันพรุ่งนี้

นักวิเคราะห์ระบุว่า การที่ตลาดหุ้นเอเชียดิ่งลงในวันนี้ เนื่องจากพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตยังเห็นไม่ตรงกัน ในแผนการช่วยเหลือสถาบันการเงินมูลค่า 700,000 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้สภาคองเกรสส์ยังไม่สามารถผ่านความเห็นชอบในแผนการช่วยเหลือดังกล่าวได้

ทั้งนี้ นักลงทุนบางกลุ่มยังมองว่า แผนอุ้มสถาบันการเงินของสหรัฐเป็นการเอาเงินภาษีประชาชนไปใช้ในทางสูญเปล่า ขณะที่รัฐบาลสหรัฐ กลับเรียกร้องให้สภาคองเกรสส์ผ่านความเห็นชอบโดยด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจทรุดหนักกว่าที่เป็นอยู่

เมื่อสภาคองเกรสยังไม่ผ่านความเห็นชอบในแผนการช่วยเหลือสถาบันการเงิน ก็ส่งผลให้ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดิ่งลงถึง 3.3% เมื่อคืนนี้ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มธนาคารได้รับผลกระทบหนักสุด นักลงทุนหลายคนพากันเทขายหุ้นแล้วหันไปลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ และน้ำมัน
กำลังโหลดความคิดเห็น