ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ ดัชนีดีดกลับแรงกว่า 3% คาดรีบาวนด์ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ เชื่อ เป็นจิตวิทยาการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าตลาดของธนาคารกลางทั่วโลก ขณะที่ตลาดยังคงกังวลเรื่องเสถียรภาพ เพราะเม็ดเงินที่อัดลงไปอาจไม่ได้คำนวณเผื่อผลกระทบในอนาคต ซึ่งอาจมีเกิดขึ้นอีกหลายแห่ง ส่วนตลาดหุ้นไทย มองว่า ต่างชาติยังไม่กลับเข้ามาในตอนนี้ คาดแรงซื้อยังเป็นเม็ดเงินเก่า
ภาวะตลาดหุ้นไทย วันนี้ (19 ก.ย.) ดัชนีภาคเช้าปรับขึ้นยืนแดนบวกได้กว่า 3% ขยับขึ้นมาแตะแนวต้านที่ 615-620 จุด โดยเมื่อเวลา 11.26 น.อยู่ที่ระดับ 618.79 จุด เพิ่มขึ้น 18.41 จุด หรือเพิ่มขึ้น 3.07% ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ ที่ได้รับแรงหนุนจากแผนรับมือวิกฤตการเงินสหรัฐฯ จากเปิดเช้าวันนี้ ทำให้ความเชื่อมั่นกลับคืนมา
นางวิริยา ลาภพรหมรัตน ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า ตลาดปรับตัวรีบาวน์ต่อเนื่องจากเมื่อวาน วันนี้ขึ้นอีก 3% ทิศทางเดียวกับภูมิภาค
นางวิริยา ระบุว่า การรีบาวนด์ของวันนี้ เนื่องจากการอัดฉีดเม็ดเงินของธนาคารกลางหลักๆ ทั้งในยุโรป สหรัฐฯ รวมถึงญี่ปุ่น ทำให้ตลาดหลังจากที่ตกหนักในรอบสัปดาห์ มีการดีดกลับที่เร็ว เพียงแต่การดีดกลับที่รวดเร็วนั้น คงเป็นปัจจัยเกี่ยวกับการอัดฉีดเม็ดเงิน
ซึ่งทางฝ่ายวิจัยก็ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า การอัดฉีดเม็ดเงินจะเข้าไปในระบบได้เร็วทันสถานการณ์มากน้อยตามข้อมูลที่จะมีออกมาในอนาคตหรือเปล่า รวมถึงประเด็นเรื่องการสร้างความเชื่อมั่นที่ให้มีได้มากขึ้นหรือไม่ ซึ่งถ้า 2 อย่างทำได้ดีการรีบาวน์กลับจะมีเสถียรภาพมากขึ้น แต่ ณ ปัจจุบันตลาดโดยภาพรวมทุกคนยังคงมีความกังวลอยู่ ไม่ได้คลายไปทีเดียว
“ส่วนจะเป็นต่างชาติกลับเข้ามาซื้อหรือเปล่า ยังไม่คิดว่าจะซื้อเร็วๆ นี้ แต่ถ้าซื้อก็น่าจะซื้อคืนเล็กน้อย แต่ยังไม่ได้ให้น้ำหนักทางบวกสำหรับนักลงทุนต่างประเทศ”
นางสุภากร สุจิรัตนวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.เคทีบี กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้บวกตามคาด หลังตลาดต่างประเทศรับข่าวที่มองกันว่าสหรัฐฯ เตรียมออกแพกเกจจัดการหนี้เสียทั้งหมด ด้วยการจัดตั้งคล้ายๆ กับบรรษัท Resolution Trust Corp ในปี 1989 ของสหรัฐ ก็เป็นการจัดการปัญหาแบบเบ็ดเสร็จ ส่งผลให้ตลาดกลับฟื้นขึ้นมาหลังจากต่อเนื่องจากเมื่อวานที่ธนาคารต่างๆ อัดฉีดเม็ดเงินผ่านธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลก วงเงินขยับสูงขึ้นจาก 180 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นมาเป็น 247 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เช้าวันนี้ ทำให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดข้ามคืนปรับตัวลง จึงส่งผลบวกเข้ามาต่อตลาดโดยรวม
ประกอบกับการเก็งกำไรราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงมามากและตลาดต่างๆ ก็ออกมาตรการเข้ามาพยุงราคา หรือห้ามชอร์ตเซล ทำให้ตลาดบวกขึ้นมา แต่มองว่าเป็นช่วงสั้นๆ แนวต้าน 628 จุด แนวรับ 584 จุด
นายอภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายหลักทรัพย์ บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหุ้นรีบาวนด์ขึ้นมา มีประเด็นบวกเข้ามาในระยะสั้นจากการที่ธนาคารกลางทั่วโลกอัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปเป็นประเด็นที่ทำให้ดาวโจนส์เมื่อคืนรีบาวน์ขึ้นมาและทำให้การ panic ในเรื่องวิกฤตการเงินสหรัฐตรงนี้คลายความวิตกในช่วงระยะสั้นๆ เพราะภาครัฐเริ่มเข้ามาช่วยเหลือ แต่มองเป็นแค่ระยะสั้น
อีกทั้งมีการมองกันต่อว่าในช่วงของสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้า ทางภาครัฐของสหรัฐจะต้องมีการเข้ามาพยุงอีก รวมถึงอาจจะมีมาตรการของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หรือมาตรการของพวกธนาคารกลางทั่วโลกเข้ามาช่วยซัพพอร์ต ตรงนี้ อย่างน้อยก็พยุงไม่ให้ล้มหรือมีอะไร panic ออกมาทำให้ตลาดหุ้นในช่วงสั้นๆ มีการฟื้นตัวขึ้นมาก่อน
สำหรับทิศทางช่วงบ่าย ตลาดคงแกว่งตัวและสามารถยืนบวกได้ โดยเชื่อว่า อาจจะข้ามไปถึงต้นสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 12.30 น. ดัชนีอยู่ที่ระดับ 621.77 จุด เพิ่มขึ้น 21.39 หรือเปลี่ยนแปลง +3.56% มูลค่าการซื้อขาย 8,822.19 ล้านบาท