"เอพีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล อินชัวร์รันส์"ออกโรงแจงธุรกิจยังแข็งแกร่ง ไม่มีปัญหาจากพอร์ตการลงทุนของ"เอพีเอฟกรุ๊ป" ระบุไม่ลงทุนที่มีความเสี่ยง และยังมีผลการดำเนินงานดีแม้มีวิกฤต พร้อมยืนยันบริษัทไม่มีการรับประกันอิสรภาพตามที่เป็นข่าว
นายวรศักดิ์ เกรียงโกมล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอพีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล อินชัวร์รันส์ จำกัด หรือ APFII กล่าวว่า เกี่ยวกับสถานการณ์ AIG หรือ บริษัท อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป มีปัญหาเกี่ยวกับการลงทุนจนสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ หรือ S&P ต้องประกาศลดอันดับเครดิตระยะยาวลงสู่ระดับ A- จากเดิมที่ระดับ AA- และมูดี้ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ลดอันดับเป็น A2 จากเดิม Aa3 จากกรณีที่ไปกู้เงินจากเฟดเพราะปัญหาพอร์ทลงทุนขาดทุน จนทำให้มีปัญหาสภาพคล่องนั้น สถานการณ์นี้คงไม่เกิดขึ้นกับ Asia Partnership Fund Group (APFG) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ APFII
"การลงทุนของเอพีเอฟกรุ๊ป ยึดแนวอนุรักษ์นิยม คือเน้นการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อย ไม่ได้ลงทุนประเภทสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ซัพไพร์ม เหมือนกับที่เป็นข่าวที่ได้รับผลกระทบไปทั่วโลก สังเกตได้จากที่ผ่านมา แม้มีวิกฤติต่างๆ พอร์ตการลงทุนก็ยังมีอัตราการเติบโต ซึ่งเรามั่นใจว่าทีมงานที่ดูแลด้านการลงทุนมีความเป็นมืออาชีพสูง"
อย่างไรก็ตาม หลังจากเพิ่มทุน เปลี่ยนชื่อใหม่ APFII ก็ปรับโครงสร้างภายใน และเร่งจ่ายสินไหมทดแทนที่ค้างจ่ายจำนวนมาก ปัจจุบันได้ดำเนินการไปแล้ว อาทิ การจ่ายสินไหมให้กับ บมจ.มาสเตอร์แอด หรือ MACO 6.5 ล้านบาท รวมถึงรายย่อย รวมแล้วกว่า 20 ล้านบาท และยังเดินหน้าจ่ายต่อเนื่อง คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณ ไตรมาสสุดท้ายของปี
"กรณีของเลย์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจรายใหญ่ของโลกล้มละลาย ยอมรับว่าจะส่งผลต่อบริษัทประกันภัยรายใหญ่ของโลกที่มีการลงทุนในตราสาร รวมทั้งประกันภัยบางแห่งแน่นอน อาจทำให้เงินทุนสำรองเพื่อการเสี่ยงภัยลดลง ของเราไม่มีปัญหา เพราะที่ผ่านมา เอพีเอฟ กรุ๊ป เรามั่นคงแข็งแกร่ง และวันที่ 13 ตุลาคมนี้ จะมีการจัดงานของกลุ่มในประเทศไทย เชื่อว่าจะทำให้ลูกค้าเห็นความแข็งแกร่งของเรา"
ส่วนเรื่องการจ่ายค่าสินไหมทดแทนอยู่ระหว่างทยอยจ่าย อาจจะช้าบ้างเนื่องจากต้องตรวจสอบเรื่องตัวเลข และยอดคงค้าง รวมทั้งต้องติดต่อกับผู้ค้า และลูกค้าหลายราย บางส่วนก็อยู่ระหว่างการเจรจาตกลง เชื่อว่าทุกอย่างจะไม่มีปัญหา เพราะบริษัทมีความพร้อม ส่วนเรื่องการประกันอิสรภาพที่เป็นข่าวนั้น ปัจจุบันบริษัทไม่ได้มีการรับประกันดังกล่าวแต่อย่างใด คาดว่าคงเป็นข่าวที่มีความคลาดเคลื่อน ขณะที่เรื่องอู่ซ่อม โบรกเกอร์ ปัจจุบันการเจรจาก็คืบหน้าไปมาก ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี คาดว่าไตรมาสสุดท้ายทุกอย่างจะลงตัวมากขึ้น
นายวรศักดิ์ เกรียงโกมล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอพีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล อินชัวร์รันส์ จำกัด หรือ APFII กล่าวว่า เกี่ยวกับสถานการณ์ AIG หรือ บริษัท อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป มีปัญหาเกี่ยวกับการลงทุนจนสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ หรือ S&P ต้องประกาศลดอันดับเครดิตระยะยาวลงสู่ระดับ A- จากเดิมที่ระดับ AA- และมูดี้ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ลดอันดับเป็น A2 จากเดิม Aa3 จากกรณีที่ไปกู้เงินจากเฟดเพราะปัญหาพอร์ทลงทุนขาดทุน จนทำให้มีปัญหาสภาพคล่องนั้น สถานการณ์นี้คงไม่เกิดขึ้นกับ Asia Partnership Fund Group (APFG) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ APFII
"การลงทุนของเอพีเอฟกรุ๊ป ยึดแนวอนุรักษ์นิยม คือเน้นการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อย ไม่ได้ลงทุนประเภทสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ซัพไพร์ม เหมือนกับที่เป็นข่าวที่ได้รับผลกระทบไปทั่วโลก สังเกตได้จากที่ผ่านมา แม้มีวิกฤติต่างๆ พอร์ตการลงทุนก็ยังมีอัตราการเติบโต ซึ่งเรามั่นใจว่าทีมงานที่ดูแลด้านการลงทุนมีความเป็นมืออาชีพสูง"
อย่างไรก็ตาม หลังจากเพิ่มทุน เปลี่ยนชื่อใหม่ APFII ก็ปรับโครงสร้างภายใน และเร่งจ่ายสินไหมทดแทนที่ค้างจ่ายจำนวนมาก ปัจจุบันได้ดำเนินการไปแล้ว อาทิ การจ่ายสินไหมให้กับ บมจ.มาสเตอร์แอด หรือ MACO 6.5 ล้านบาท รวมถึงรายย่อย รวมแล้วกว่า 20 ล้านบาท และยังเดินหน้าจ่ายต่อเนื่อง คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณ ไตรมาสสุดท้ายของปี
"กรณีของเลย์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจรายใหญ่ของโลกล้มละลาย ยอมรับว่าจะส่งผลต่อบริษัทประกันภัยรายใหญ่ของโลกที่มีการลงทุนในตราสาร รวมทั้งประกันภัยบางแห่งแน่นอน อาจทำให้เงินทุนสำรองเพื่อการเสี่ยงภัยลดลง ของเราไม่มีปัญหา เพราะที่ผ่านมา เอพีเอฟ กรุ๊ป เรามั่นคงแข็งแกร่ง และวันที่ 13 ตุลาคมนี้ จะมีการจัดงานของกลุ่มในประเทศไทย เชื่อว่าจะทำให้ลูกค้าเห็นความแข็งแกร่งของเรา"
ส่วนเรื่องการจ่ายค่าสินไหมทดแทนอยู่ระหว่างทยอยจ่าย อาจจะช้าบ้างเนื่องจากต้องตรวจสอบเรื่องตัวเลข และยอดคงค้าง รวมทั้งต้องติดต่อกับผู้ค้า และลูกค้าหลายราย บางส่วนก็อยู่ระหว่างการเจรจาตกลง เชื่อว่าทุกอย่างจะไม่มีปัญหา เพราะบริษัทมีความพร้อม ส่วนเรื่องการประกันอิสรภาพที่เป็นข่าวนั้น ปัจจุบันบริษัทไม่ได้มีการรับประกันดังกล่าวแต่อย่างใด คาดว่าคงเป็นข่าวที่มีความคลาดเคลื่อน ขณะที่เรื่องอู่ซ่อม โบรกเกอร์ ปัจจุบันการเจรจาก็คืบหน้าไปมาก ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี คาดว่าไตรมาสสุดท้ายทุกอย่างจะลงตัวมากขึ้น
